ขวัญ ยอมรับดื้อ เอาแต่ใจ แต่ไม่เคยนอกกรอบ

รายการ “ที่นี่หมอชิต” วันอาทิตย์นี้ พิธีกร ดู๋ , ลิง พาแขกรับเชิญสาวสวย “ขวัญ อุษามณี ไวทยานนท์” บินลัดฟ้าไปทางใต้ ไปเยี่ยมเยือนเพื่อนบ้านที่ เมืองมะละกา ประเทศมาเลเซีย

โดยเริ่มต้นทัวร์วันแรกกันที่ “โบสถ์แดง” หรือว่า Christ Church เป็น Landmark และจตุรัสของเมืองมะละกา ก่อนจะนั่งรถสามล้อชมรอบเมือง ซึ่งสามล้อที่นี่ประดับตกแต่งด้วยดอกไม้จนกลายเป็นเอกลักษณ์ของเมืองที่นักท่องเที่ยวชอบนั่งและถ่ายรูป ขวัญ อยู่ในชุดแปลกไม่คุ้นตาเพราะเธอแต่งกายด้วยชุดพื้นเมืองที่เรียกว่า Baba-Nyonya (บะบ๋า ยะหยา) นั่งสามล้อกับพี่ดู๋และลิงชมตัวเมืองมะละกาแล้วแวะที่ “Baba-Nyonya Museum” พิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมวิถีชีวิตของ “ชาวจีนช่องแคบ” ต่อด้วยนั่งรถรางสำหรับนักท่องเที่ยวที่แล่นชมเลาะริมแม่น้ำมะละกา , ล่องเรือชมวิวริมแม่น้ำทั้ง 2 ฝั่ง ,แวะชมเรือสำเภา หรือ Maritime Museum

วันที่สองเริ่มที่เที่ยวตลาดยามเช้า ดูผู้คน วิถีชีวิต ชิมข้าวราชิรามะ เป็นข้าวหุงกับกะทิ ที่นิยมทานเป็นมื้อเช้า แนมกับน้ำพริกพื้นบ้านคล้ายน้ำพริกเผา ทานคู่กับปลาแห้ง และไข่ต้ม , โรตีแขก , ชาชักที่จะมีกลิ่นหอมของเครื่องเทศ ขวัญพาไปช๊อปที่ร้านรองเท้โฮมเมด และทดลองทำสบู่ทำมือที่ร้านสบู่สุดเก๋ ชมบรรยากาศร้านเก๋ๆภายในเมือง เช่นร้านทำเสื้อยืด สตูดิโอ อาร์ตแกลอรี่ ร้านขายของแอนทีค และร้านกาแฟจาก 13 รัฐ จากตลาดพี่ดู๋ ชวนพี่ลิง กับขวัญไปที่ Melaka Sultanate Palace แบบจำลองพระราชวังของสุลต่านทำด้วยไม้ และไปเที่ยวต่อที่ตลาดช่วงเย็นอันคึกคัก ของ Weekend Market ที่ถนน Jonker Street เดินชมบรรยากาศคึกคัก ของร้านค้า และร้านอาหารขึ้นชื่อของที่นี่ เช่น Cendal คล้ายกับขนมลอดช่องบ้านเรา และ ข้าวมันไก่ปั้น เที่ยวไปชิมไป พร้อมกับคุยกันไปด้วยหลายเรื่องหลายราว

ปกติถ้าไม่ได้เที่ยวตามกองละครแล้วไปไหน
ก็วันนึงไปเสริมสวยเรื่องผม วันนึงไปเสริมสวยเรื่องผิว บางทีก็ไปโรงพยาบาล ไปเช็คสุขภาพกับแม่ เพราะแม่ชอบไปเช็คบ่อยๆเพราะชอบเข้าโรงพยาบาล คือเช็คใหญ่ๆเราจะเช็คปีละครั้ง แต่จริงๆ ที่โรงพยาบาลมันจะมีอะไรให้ทำเยอะมาก มันจะมีนวดบำบัด นวดเพื่อความสวยงาม คือเราไม่ต้องทำศัลยกรรม เราจะทำอย่างนี้แทน มันเป็นแนวรักษาด้วย

ตอนนี้เรียนจบแล้วเรียบร้อยเป็นยังไงบ้าง
จบนิเทศศาสตร์ เอกประชาสัมพันธ์ค่ะ จริงๆเพิ่งมารู้ทีหลังว่าตอนปี 1 หนูเกือบโดนรีไทร์ เพราะว่าเข้าเรียนไม่ครบ แต่ก็ผ่านมาได้ ตอนนี้ก็มาช่วยดูแลเป็น PR ร้านไอศครีมที่เปิดอยู่ที่ เดอะมอลล์บางกะปิ เพิ่งเปิดมาได้ก็ประมาณ 2 เดือน ก็ดูเรื่องการวางของในร้าน จัดร้านบ้าง ส่วนราคาก็ไม่แพงมาก เพราะเราดูกลุ่มของเราว่า ก็จะเป็นเด็ก รายได้ก็จะระดับกลาง ก็เตรียมจะขยายสาขาด้วย ที่เปิดร้านไอศกรีม เพราะไปได้สูตรมาจากไต้หวัน แล้วทั้งคุณแม่ พี่สาว และขวัญเองก็ชอบทานไอศกรีมมาก แล้วของที่ร้านขวัญไอศกรีมจะเหมือนหิมะเลย

แล้วเมื่อก่อนขวัญสนิทกับคุณพ่อมาก วันนี้คุณพ่อไม่อยู่แล้ว เราเป็นยังไงบ้าง
บางทีก็รู้สึกว่าพ่อยังอยู่กะเรานะ บางทีเราก็ยังอยากพูด อยากคุย อยากกอด /// เวลาเจอเรื่องอะไรเข้ามาที่เราไม่สบายใจ หรือมีปัญหา ก็จะคิดว่า ถ้าเรารู้สึกแบบเนี้ย พ่อจะพูดกับเราว่าอย่างไร ถ้าเราทำแบบนี้พ่อจะว่าเราว่าอะไร คือพ่อเป็นคนที่ไม่ชอบเห็นลูกร้องไห้ พ่อก็พูดตลอดว่าเป็นลูกตำรวจต้องไม่ร้องไห้ พอตอนเด็กๆ เราหกล้มแล้วร้องไห้ พ่อก็จะบอก เป็นลูกตำรวจต้องไม่ร้องไห้ โดนแม่ตีก็เหมือนกัน พ่อก็จะพูด แล้วคำพูดพ่อก็จะฝังอยู่กับหนูตลอด

คิดว่าตัวเองเป็นเด็กที่ดื้อมั้ย
ก็ดื้อนะคะ ถ้าดื้อตรงไม่ได้เราก็จะดื้อเงียบ ถ้าถามว่าเอาแต่ใจไหมก็เอาแต่ใจ แต่ทุกอย่างก็มีเหตุผลที่มันคุมอยู่ แล้วเราดื้อเราดื้อไม่ได้มากอยู่แล้วเพราะว่าสังคมมันเป็นกรอบของเรา ถ้าเราทำอะไรแรงๆไปก็ไม่มีใครมาทำโทษเรา นอกจากสังคมทำโทษเรา แรงกว่าพ่อแม่ตีพ่อแม่ดุอีก เพราะฉะนั้นเราก็จะรู้ว่ากรอบของเราลิมิตของเราจะขนาดไหน ต้องควบคุมตัวเองได้หนูนับถือคนแบบนี้นะ

นอกจากแสดงละครแล้ว มีร้านไอศกรีมแล้ว ยังอยากจะทำอะไรอีกบ้าง
คิดแค่ว่าทำทุกวันนี้ให้ดีที่สุด หนูไม่อยากจะทรยศกับอาชีพตัวเอง ถึงเวลางานขวัญก็จะทำงานให้เต็มที่และอีกอย่างหนึ่งหนูก็ตั้งใจจะเก็บเงินจะไม่ใช้เงินคือได้มาแล้วก็เก็บ หนูอยากซื้อบ้านให้พ่อให้แม่คือทำทุกอย่างให้เค้าอยู่สบาย”

ติดตามฟังและชมอีกหลายคำถามและคำตอบจากใจ “ขวัญ อุษามณี” พร้อมภาพสวยๆของเมืองมะละกาแบบจุใจ ได้ในรายการ “ที่นี่หมอชิต” ในวันอาทิตย์นี้ ทางช่อง7