นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ชูวิทย์ I’m No.5 กล่าวกรณีการยุบเวทีของกลุ่มผู้ชุมนุม กปปส. ดังนี้

 

ยุบเวที ลดต้นทุน (หาทางลง)

 

ค่าใช้จ่ายในการจัดตั้งม็อบมีมากมายมหาศาล ตั้งแต่ค่าเวที เครื่องเสียง อาหารการกิน การ์ดรักษาความปลอดภัย รวมไปถึงมวลชน ยิ่งคนมาก ค่าใช้จ่ายก็มากตาม เงินไหลเป็นน้ำด้วยท่อขนาดใหญ่ หลังผ่านวันเลือกตั้ง ทหารก็ไม่มีทีท่าจะปฏิวัติ นายทุนเริ่มกระซิบ ท่อชักติดขัดไหลกะปิดกะปอย เงินทอนชักไม่เหลือเลยต้องยุบเวที ด้วยเหตุผลการลดต้นทุน ไม่ใช่เรื่องความปลอดภัย ช่วงกลางวันแต่ละเวทีมีคนแค่ร้อยสองร้อยที่เอามาจากฐานเสียงทางใต้ แล้วแต่ใครเป็นแกนนำ พอแดดร่มลมตกหรือเสาร์อาทิตย์ ถึงจะมีดนตรี นักร้อง ศิลปิน ผลัดเปลี่ยนกันเรียกแขก ที่มาด้วยใจก็มี แต่มาด้วยเงินหรือถูกหลอกมาไม่ใช่ไม่มี ค่าตัว ค่ารถ ต้องมีให้ติดกระเป๋า

 

การจัดม็อบต้องอาศัย “ออร์แกไนเซอร์” (ผู้รับจัดงาน) แบบเดียวกับจัดงานคอนเสิร์ต อาหารการกินต้องเพรียบพร้อม จะไปอาศัยเงินรับบริจาคอย่างเดียวคงไม่พอ ต่อให้คุณสุเทพเดินรอบกรุงเทพฯทะลุพระราม 2 ลงไปถึงสุราษฎร์ฯ ก็ไม่มีทางได้ถึงวันละ 20 – 30 ล้าน ที่เป็นค่าใช้จ่ายของม็อบทั้ง 7 เวที งานนี้นายทุนคนสนับสนุนคิดแล้วว่าคงจะยาว ทั้งคนกรุงเทพฯออกอาการเบื่อม็อบตะหงิดๆ คุณสุเทพก็ฉายหนังซ้ำซากวนเวียน มุกเริ่มแป๊ก ร้องให้ทหารออกมาเหมือนเด็กร้องหานม ขนาดแค่ระเบิดพลาสติกก็ยังร้องหาทหาร

 

วันนี้เปิดสะพานพระราม 8 เวทีลดเหลือ 3 เวที ส่วนของพระที่แจ้งวัฒนะก็ร่ำๆจะเลิก เพราะชาวบ้านด่ากันขรม ไปทำพาสสปอร์ตกันไม่ได้ ร้องให้พระกลับวัด หากไม่กลับคงจะต้องเข้าคุกแทน หลังจากฝุ่นควันจาง คนเริ่มมองหาเหตุผล เลิกเป็นซอมบี้เป่านกหวีด กลับบ้านใครบ้านมันเสียที แล้วใช้เหตุผลมาเจรจาหาความประนีประนอม ตามสไตล์นักการเมือง ตอนนี้ต้องหาบันไดมาพาดให้คุณสุเทพลง แล้วไปทำรูปปั้นไว้ที่หน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้บรรดาสมาชิกกราบไหว้ว่าเป็นผู้เสียสละ

 

แต่จะให้เสียสละดูแลค่าใช้จ่ายให้กับ “มวลมหาสมาชิกทั้งพรรค” คงไม่ไหว เพราะตอนนี้ก๊วนอื่นที่ไม่ใช่ก๊วนสุเทพเริ่มกระจองอแงส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าว ฐานเสียงหัวคะแนนหดหาย ก๊วนสุเทพน่ะอยู่ได้ แต่ก๊วนอื่นมันอยู่ไม่ไหวแล้วคร้าบ