บ่วงนฤมิต
บ่วงนฤมิต
‘รอยอดีต’ เป็นละครเรื่องใหม่ที่ขวัญอุมา เพิ่งได้รับการทาบทามให้สวมบทบาทนางร้ายเป็นครั้งแรก เป็นนางร้ายบทเด่นที่สุดของเรื่องที่จะได้พิสูจน์ความสามารถของนางเอกเจ้าน้ำตาอย่างเธอ หลังถ่ายทอดฝีมือมาแล้วหลายต่อหลายเรื่องจนได้รับฉายาว่านางเอกน้ำตาสั่งได้ ทว่าหลังได้อ่านบทแล้วก็รู้สึกไม่ชอบใจนักกับบท ของ ‘โฉมเฉลา’ บางครั้งหลังอ่านบทบางตอนก่อให้เกิดความทรงจำรางเลือน เหมือนภาพฝันขาดวิ่นที่ไม่ปะติดปะต่อ จึงนำเรื่องนี้มาปรึกษา ‘ลูกปลา’ผู้จัดการส่วนตัว และยืนยันว่าบทมันไม่ถูกต้อง คิดว่านางเอกต้องไม่ใช่แบบนี้ จึงทำให้ทั้งคู่ต้องไปหาซื้อหนังสือ และที่ร้านหนังสือนั่นเอง ก็ทำให้ขวัญได้พบกับธีรัชโดยบังเอิญ และหนังสือก็หมดไปแล้ว ไม่มีขายเธอจึงยังไม่ได้หนังสือมาเป็นของตนเอง
ละครเรื่องรอยอดีต มีคเชนทร์ เป็นผู้กำกับ ซึ่งเป็นเพื่อนกับ แม่ของธีรัช ซึ่งงานนี้ วิยาดา รับวาดรูปภาพเหมือนของขวัญอุมาในเรื่องอีกด้วย ส่วนอรนภา ก็ได้รับบทเป็นนางเอก ที่มีชื่อว่าพิมพ์แข อรนภา มีผู้ติดตามคือแต้วแร้ว ซึ่งมักจะมีปากเสียงกับลูกปลาอยู่บ่อย ๆ ภาพที่คนเห็นภายนอกว่าอรนภา เป็นนางเอกของวงการ แต่จริงๆ แล้วเธอคอยหาทางกลั่นแกล้งขวัญอยู่ตลอดเวลา ทั้งด้วยตนเอง และโดยการใช้แต้วแร้วเป็นเครื่องมือ นอกจากนี้ยังมี ฉายฉาน ที่รับบทเป็นธนกฤต และปกป้องก็ร่วมเล่นละครด้วย
ธีรัชมีโอกาสได้อ่านนิยาย ซึ่งแม่ของเขามีเก็บไว้ แล้วก็เริ่มติดจนไม่ยอมวางมือ เพราะเขาเองก็มีความผูกพันกับตัวละครบอกไม่ถูก แถมยังเอาเก็บไปฝัน เป็นเรื่องเป็นราว เขาฝันถึงตอนที่ปราน พระเอกในนิยายกลับจากอังกฤษ แล้วแม่พยายามจับคู่ให้เขากับกนกแข แต่น้องสาวกลับคิดจับคู่ให้พี่ชายกับโฉมเฉลาครูประจำชั้นตัวเอง แต่ในฝันนั้น ปรานชื่อปภาคิน พิมพ์แขชื่อกนกแขและโฉมเฉลาชื่อฉัตรชนก ในวันทำพิธีบวงสรวงละครรอยอดีต ธีรัชเอารูปที่แม่วาดไปส่งให้ที่กองถ่ายแต่ขวัญอุมาซุ่มซ่ามเดินชนเขาจนกรอบรูปตกลงมาแตก วิยาดาเสียดายภาพที่เสียหายมาก เพราะภาพของขวัญอุมาวาดยากที่สุดตั้งแต่ที่เธอเคยวาดภาพเหมือนคนมา และไม่เพียงแต่ธีรัชที่ฝันถึงเรื่องราวเกี่ยวเนื่องกับหนังสือนิยายรอยอดีต ขวัญอุมาเองหลังแสดงบทบาทของโฉมเฉลาเธอก็เก็บเรื่องนี้ไปฝันได้เป็นฉากๆ ราวกับกำลังนั่งดูละคร เพียงแต่บุคคลในฝันชื่อไม่เหมือนตัวละครในนิยายรอยอดีต แต่เนื้อเรื่อง เนื้อหาสอดคล้องกันอย่างน่าแปลกใจ และตอนถ่ายละครเรื่องนี้หญิงสาวก็เข้าถึงบทบาทราวกับเป็นโฉมเฉลาจริงๆ แถมยังติติงรายละเอียดต่างๆ ในฉากที่เธอเห็นว่าขาดหายไปได้ดีเยี่ยมจนคเชนทร์ผู้กำกับและลูกปลาแปลกใจ
เกิดอุบัติเหตุ บ้านที่ใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำ เกิดไฟไหม้ จนกองถ่ายต้องหยุดชะงักลง ขวัญและลูกปลาได้พบกับวิยาดาโดยบังเอิญที่บ้านศรีราชา วิยาดาขอให้ขวัญมาเป็นแบบให้เธอวาดรูปอีกครั้ง และเชิญให้ขวัญพร้อมทั้งลูกปลา พักอยู่ที่บ้านอีกด้วย และที่นั่นเอง ก็ทำให้ขวัญและธีรัชได้พบกันอีกครั้ง คืนแรกที่พักในบ้านของวิยาดา ขวัญอุมากับธีรัชได้กลิ่นหอมแรงของดอกราตรีจึงเดินออกมาตามหาที่มาของกลิ่น ดูเหมือนจะมีแค่เธอกับเขาเท่านั้นที่ได้กลิ่นนี้ และเมื่อเดินมาพบกันโดยบังเอิญ เธอกับเขาก็คล้ายจะเห็นภาพชายหญิงคู่หนึ่งตรงจุดที่กำลังยืนอยู่
อดีต
พลโทปพณและคุณปฐมาแห่งคฤหาสน์รมย์ฤดี กำลังวุ่นวายอยู่กับการเตรียมตัวต้อนรับปภาคิน คุณชายใหญ่ของบ้านที่เพิ่งกลับจากไปศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษ ปภาคินมีน้องสาวที่อายุห่างกันหลายปีชื่อวรดา และปฐมาคิดจะจับคู่ลูกชายกับ‘กนกแข’ ลูกสาวของกานติมาซึ่งเป็นเพื่อนของตนเอง ขณะนี้กนกแขกำลังเรียนอยู่ชั้นม.ปลาย กนกแขเป็นเพื่อนกับฉัตรชนก แต่ด้วยความที่ฉัตรชนกเป็นคนหัวดี จึงสามารถสอบเลื่อนชั้น และสามารถไปเป็นครูได้ในที่สุด พร้อม ๆ กับธนา ซึ่งคบหากันเป็นเพื่อนสนิทมาหลายปี ธนานั้นเป็นคนดี แต่ยากจน เช่าบ้านอยู่ใกล้กับบ้านของฉัตรชนก ซึ่งอยู่สองคนกับแม่ นวลนงค์ไม่เคยเล่าเรื่องความเป็นมาของพ่อให้ฟังว่าเป็นใคร เพียงแต่บอกกับฉัตรชนกว่าพ่อเสียชีวิตแล้ว กนกแขไปมาหาสู่ที่บ้านฉัตรชนกเป็นประจำ และที่นั่นเองทำให้ธนาได้พบกับกนกแข ความเป็นสาวแรกรุ่นของกนกแขเป็นที่ดึงดูดใจของธนา ทั้งกนกแขเอง ก็ให้ความใกล้ชิดกับธนาอย่างรวดเร็ว จึงทำให้ทั้งคู่แอบคบหากันโดยที่ผู้ใหญ่ไม่รู้ มีเพียงฉัตรชนกเท่านั้น ที่เห็นความเป็นไปของคนทั้งสอง ซึ่งลึกๆในใจแล้ว ฉัตรชนกเอง ก็มีใจให้ธนาอยู่บ้าง แต่เมื่อเห็นธนามีความสุข ฉัตรก็ยินดีด้วยใจจริง กนกแขไม่ยอมไปงานเลี้ยงต้อนรับปภาคินเพราะยังหลงใหลในตัวธนา อีกทั้งยังพูดยกปภาคินให้กับฉัตรชนกอีกด้วย วรดาเป็นลูกศิษย์ของฉัตรชนก เห็นในความดีงาม เฉลียวฉลาดและความสวยของฉัตรชนก จึงแนะนำให้ปภาคินได้พบกับฉัตรชนก ปภาคินรู้สึกประทับใจในตัวฉัตรชนกตั้งแต่แรกเจอ และชวนให้ฉัตรชนก ไปงานเลี้ยงวันเกิดที่บ้านของเขาในสัปดาห์ต่อมา เมื่อถึงวันงาน กนกแขก็มาพร้อมพ่อแม่ด้วย กนกแขเห็นความหล่อเหลา อีกทั้งความร่ำรวย ซึ่งธนาไม่มีอะไรเทียบเท่าปภาคินเลย จึงพยายามทำตัวเป็นเจ้าของปภาคิน แต่ปภาคินไม่ได้สนใจ เขายังมองแต่ฉัตรชนกเพียงผู้เดียว ทำให้กนกแขเริ่มไม่พอใจ กนกแข หวังจะได้เต้นรำคู่กับปภาคินเป็นคนแรก แต่ปภาคิน กลับชวนวรดาไปเต้นด้วยแทน ธนาเองก็เสียใจที่กนกแขหันไปสนใจปภาคินในเวลาอันรวดเร็ว ฉัตรชนกสงสาร จึงปลอบใจธนา ธนารู้ซึ้งว่า ฉัตรชนกคือผู้หญิงที่งดงามทั้งกายและใจ ปภาคินขอฉัตรชนกให้เต้นรำด้วย ทั้งคู่ดูเหมาะสมกันเป็นอย่างยิ่ง กนกแขเริ่มวางแผนสลัดธนาไปจากตน และจะต้องแต่งงานกับปภาคินให้ได้ ส่วนปภาคินก็เริ่มไปมาหาสู่กับฉัตรชนกที่บ้าน จนแม่เริ่มไม่สบายใจ เพราะเห็นความแตกต่างในเรื่องฐานะ กลัวลูกสาวตนเองจะต้องเจ็บปวดในที่สุด
ปัจจุบัน
คเชนทร์ขอใช้บ้านของวิยาดาในการถ่ายทำ หลังจากที่สถานที่เดิมนั้นไฟไหม้ วิยาดาอนุญาตในที่สุด เพราะต้องการวาดรูปของขวัญให้เสร็จด้วย แต่ปกป้อง พระเอกของเรื่องเกิดอุบัติเหตุขาหักเล่นต่อไม่ได้ คุณวรา เจ้าของละครหัวเสียอย่างหนัก รีบไปดูอาการ แล้วก็สั่งให้คเชนทร์เดินหน้าลุยถ่ายทำต่อ ไม่ต้องรอให้ปกป้องหายป่วย โทษที่เตือนแล้วไม่ฟัง เรื่องที่ไม่ให้ขับมอเตอร์ไซค์ คเชนทร์ได้พบกับธีรัช วันที่เขากลับมาหาแม่ที่ศรีราชา คเชนทร์ถูกชะตากับธีรัช ขอให้เขามาเป็นพระเอกให้ แรกๆเขาปฏิเสธ แต่พอเจอแม่เกลี้ยกล่อม และขวัญลองติวบทให้ ซึ่งขวัญเองก็รับรองกับคเชนทร์ว่า ธีรัชนั้นมีหัวทางด้านการแสดง ทำให้ธีรัช รับปากเล่นเป็นพระเอกที่ชื่อปราน ในที่สุด แรก ๆ ธีรัชเหมือนยังเล่นละครได้ไม่ดีนัก แต่พอถ่ายทำจริง กลับเล่นได้อย่างสมจริงเป็นที่สุด ทั้งคเชนทร์ ขวัญอุมา อรนภา ฉายฉาน ต่างก็เริ่มยอมรับในตัวเขา ธีรัชกับขวัญเริ่มสนิทสนมกันมากขึ้น ทั้งจากการที่ขวัญตกน้ำในกองถ่าย แล้วเขาพาเธอไปโรงพยาบาล หรือแม้กระทั่งในฉากที่กนกแข แกล้งทำให้ขวัญตกน้ำ แล้วธีรัชไปช่วย ทำให้คนทั้งสองเริ่มผูกพันกันมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว
แล้ววันหนึ่ง หลังจากเสร็จสิ้นการถ่ายทำ ธีรัช ขวัญ ลูกปลา ก็มากินข้าวด้วยกัน พบฉายฉานกับอรอุมา ที่กำลังจะกลับออกจากร้าน ฉายฉานให้ขวัญไปดูรูปถ่ายในร้าน ที่มีใบหน้าเหมือนขวัญ ขวัญเห็นรูปก็ตกใจ จึงขอพบโกสุมเจ้าของร้าน โกสุมเริ่มเล่าเรื่องราวในอดีตให้ฟัง บอกว่าย่าสมเป็นเจ้าของที่ แบ่งที่ปลูกบ้านให้เช่าทำสวนผัก ครูฉัตรแต่งงานไปกับเศรษฐีตึกเย็นหรือบ้านรมย์ฤดี เป็นคุณหมอ ขอมาปรับปรุงที่ เลยถ่ายรูปเอาไว้เป็นที่ระลึก รวมถึงครูธนาด้วย ขวัญให้โกสุมเล่าถึงเรื่องราวในอดีต โกสุมยืนยัน ฉัตรรักปภาคินคนเดียว ไม่ได้รักธนา มีแต่คนในครอบครัวที่ใส่ร้ายว่าฉัตรทำเสน่ห์ใส่หมอปภาคิน ธีรัชได้พบกับบันทึกของปภาคินในเล่มแรก และเล่มที่สองในเวลาต่อมา เขานำไปถ่ายเอกสารแล้วแบ่งกับขวัญช่วยกันอ่านเพราะต่างอยากรู้ความจริง ธีรัชกับ ขวัญ เล่าเรื่องความจริงในสมุดบันทึกให้คเชนทร์ คุณวราฟัง และทุกคนก็ไปหานลิน เพื่อปรับบทให้ตรงกับความจริงในสมุดบันทึกของปภาคิน อรนภาตกใจที่มีการปรับเปลี่ยนบท คเชนทร์บอก ถึงแม้บทจะไม่ตรงกับนิยาย แต่จะโปรโมตให้ละครเรื่องรอยอดีต เป็นเรื่องจริง ที่ยิ่งกว่านิยาย คุณวราเองก็เห็นด้วย
อดีต
พ่อและแม่ของปภาคินไม่อาจทัดทานความรักที่ลูกชายมีต่อฉัตรชนกได้ จึงยอมให้ทั้งคู่แต่งงานกัน ศักดินัย ซึ่งเป็นคนดูแลปภาคิน ตอนที่ไปเรียนอยู่ต่างประเทศ ก็มางานนี้ด้วย พร้อมกับลูกสาวคือฐิติพา ที่เกิดกับหม่อมยุพา เมื่อศักดินัยรู้ว่าฉัตรชนกเป็นลูกของนวลนงค์ ก็เกิดสงสัยว่าใครเป็นพ่อของเธอ นวลนงค์เองก็ช็อกเหมือนกันที่ได้พบกับศักดินัยแบบไม่ตั้งตัว เพราะในอดีตนั้น ตนเองเคยเป็นภรรยาของศักดินัยมาก่อน สุดท้าย นวลนงค์จึงสารภาพกับศักดินัยในที่สุด ว่าฉัตรชนก เป็นลูกของเธอที่เกิดจากศักดินัย โดยที่ศักดินัยไม่รู้ ศักดินัยดีใจมากที่ได้พบกับลูกสาว แต่คนที่เคียดแค้นเป็นที่สุดก็คือ กนกแข ที่ฉัตรชนก แย่งปภาคินไปจากเธอ หนำซ้ำ ตอนนี้ ฉัตรชนก ยังกลายเป็นหม่อมราชวงศ์อีก ฐิติพาเองก็เช่นเดียวกัน เมื่อฉัตรชนกเข้ามาเกี่ยวดองกับเธอ สมบัติที่วังโสภณ ก็จะต้องถูกแบ่งไปให้กับฉัตรชนก ซึ่งข้อนี้เอง ทำให้ทั้งกนกแข และฐิติพายอมไม่ได้ จึงตกลงใจจะร่วมมือกัน หาทางให้ครอบครัวของฉัตรชนกแตกแยก เพื่อที่ปภาคินจะได้มาเป็นของกนกแข และจะต้องเขี่ยให้ฉัตรชนก ไปจากวังโสภณให้ได้ เพื่อที่สมบัติจะได้ไม่ตกไปถึงมือฉัตรชนก ศักดินัย และนวลนงค์ ปรับความเข้าใจกันได้ในที่สุด หลังจากที่ศักดินัยเข้าใจผิด คิดว่านวลนงค์ หนีตามชายอื่นไป หลังจากแต่งงาน ศักดินัยก็ชวนฉัตรชนกไปเยี่ยม วังโสภณที่กรุงเทพฯสัก3-4 วัน จึงไม่ได้พบกับหมอที่ไปทำงานตั้งแต่เช้า ซึ่งตอนนี้หมอเข้าใจผิด คิดว่าฉัตรยังรักธนาอยู่และพยายามหนีหายไปจากเขา จึงเสียใจมาก ปฐมาดีใจที่ฉัตรได้เป็นหม่อมราชวงศ์ หม่อมยุพาแค้นใจที่ศักดินัยพานวลกับฉัตรมาที่วังโสภณ สั่งให้ช่วง คนรับใช้คนสนิท ไปหาหมอเสน่ห์ คิดจะกำจัดฉัตรเพื่อแก้แค้นนวล หมอกลับบ้านไม่พบฉัตร เสียใจที่รู้ความจริงเป็นคนสุดท้ายเรื่องที่ฉัตรเป็นลูกศักดินัย คิดว่าฉัตรไม่รักตนแล้ว ฐิติพา พาแขไปทำเสน่ห์กับหมอเสน่ห์ แขไปหาปภาคินที่บ้าน แล้วใช้ยาเสน่ห์ ร่ายมนต์กับปภาคิน จนทั้งสองได้เสียกัน แขทำทีเป็นร้องไห้กับปพณและปฐมา บอกว่ารักปภาคินอย่างแท้จริง และใส่ร้ายเรื่องที่ฉัตรนัดแนะธนาไปอยู่ด้วยกันที่กรุงเทพฯ หาว่าฉัตรแต่งงานกับปภาคินเพื่อเอาเงินไปอยู่กินกับธนา ปภาคินยังงง ๆ กับเรื่องราวที่เกิดขึ้น เพราะไม่รู้ว่าตนเองโดนเสน่ห์ ปฐมาจดหมายถึงฉัตรว่าคิดถึงให้รีบกลับ นวลกับฉัตรจึงลาศักดินัย กลับไปที่ตึกเย็น ศักดินัยให้สร้อยคอพร้อมพระกับฉัตรเป็นที่ระลึก เมื่อถึงตึกเย็น นวลพาฉัตรไปหาคุณใหญ่ อานุภาพของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทำให้มนต์เสน่ห์ของแขเสื่อมไปชั่วขณะ ใหญ่จำฉัตรได้ โผเข้ากอดฉัตร แต่แขยืนยันว่าเธอก็เป็นเมียอีกคนของใหญ่เหมือนกัน ฉัตรและแม่ตกใจมาก
แขไม่ยอมแพ้ คิดจะให้ใหญ่ มาเป็นของตนให้ได้ กลับมาหาหมอเสน่ห์เพื่อทำพิธีอีกครั้ง แต่คราวนี้ ต้องใช้หญิงบริสุทธิ์ มาร่วมพิธีด้วย แขจึงขอร้องให้ฐิติพาช่วยอีกครั้ง เหมือนกรรมบังตา ยุพาตกลงช่วย เพราะความอิจฉาริษยาในตัวนวล โดยไม่รู้ว่า เป็นการนำมาซึ่งความเสื่อมเสียของฐิติพา ฐิติพาเข้าร่วมพิธี และเสียความบริสุทธิ์ให้แก่หมอเสน่ห์ เธอทั้งเจ็บ ทั้งอายจนบอกไม่ถูก แขดีใจพิธีสำเร็จ ได้ตุ๊กตาทำเสน่ห์กลับไป และไปทำพิธีต่อด้วยตนเองที่ทางสามแพร่ง พอดีธนาขี่จักรยานมาพบเข้า แขจึงรีบหนีไป ธนาคิดว่าตนเองตาฝาด ที่เห็นแข จึงรีบปั่นจักรยานกลับบ้านไป
ปัจจุบัน
ธีรัชกับขวัญยังคงสืบเรื่องราวในอดีตต่อไป ยิ่งตอนนี้นลิน คนเขียนบท ต้องการความจริงเพื่อจะได้เขียนบทให้จบ ทั้งสองจึงต้องเร่งมือมากขึ้น พอดียายชุ่ม คนรับใช้เก่าแก่บ้านวิยาดา ที่มีความทรงจำอันรางเลือน นึกเรื่องราวในอดีตมาได้เป็นช่วง ๆ บอกกับธีรัชและขวัญ ว่าฉัตรถูกใหญ่ไล่ออกจากรมย์ฤดี แล้วหนีไปขายผักที่ปากน้ำโพ นครสวรรค์ หนีไปกับนวล พร้อมทั้งป่าน ลูกของฉัตรด้วย ขวัญกับธีรัช จึงตัดสินใจไปปากน้ำโพ เพื่อตามหาป่าน แล้วก็ได้พบกันในที่สุด ป่านบวชเป็นแม่ชีอยู่ในวัดที่ปากน้ำโพ
แม่ชีบอกยินดีจะเล่าเรื่องราวในอดีตให้ฟังทุกอย่าง และนัดทุกคนมาใหม่ในวันรุ่งขึ้น เลยทำให้ธีรัช ลูกปลา และขวัญต้องค้างที่ รร.ปากน้ำโพ ธีรัชโทรศัพท์ชวนฉายฉานมาฟังเรื่องราวด้วยกัน ฉายฉานสนใจ จึงไปชวนอรนภาที่บ้านด้วย อรได้โอกาสใกล้ชิดฉายฉาน จึงตั้งใจสานสัมพันธ์ส่วนตัวต่อ แต่ฉายฉานปฏิเสธ เพราะยังไม่ถึงเวลา และไม่อยากให้มีเรื่องส่วนตัวกระทบกับงาน ทำให้อรหัวเสียมาก
เรื่องราวในอดีตที่ขาดหายไปเริ่มปะติดปะต่อมากขึ้น จากคำบอกเล่าของแม่ชี แขทำเสน่ห์ใส่ใหญ่ จนใหญ่หลงใหล แถมยังใส่ความว่าฉัตรเป็นคนทำเสน่ห์ จนฉัตรถูกไล่ออกจากบ้าน กลับไปที่บ้านสวนด้วยความช้ำใจ ธนาเองก็เสียใจที่แขทำให้ครอบครัวของฉัตรแตกแยก
ธนาสงสาร คอยมาเยี่ยมฉัตรที่บ้านเสมอ นวลเอง ก็เป็นห่วงลูกสาวมาก ปพณและปฐมา พาใหญ่ไปอยู่ที่วัดกับหลวงพ่อ ตั้งใจจะให้บวช ลบล้างสิ่งชั่วร้าย แล้วก็ให้กนกแขกลับบ้านไปก่อน แขโกรธมาก ที่ทำอะไรไม่ได้ ศักดินัย ไปราชการต่างประเทศ และเครื่องบินประสบอุบัติเหตุ เสียชีวิต หม่อมยุพา รีบจัดงานอย่างรวบรัด รวมถึงการโอนถ่ายทรัพย์สิน ไม่ให้ตกเป็นของนวลและฉัตร และไล่แม่อิ่ม คนรับใช้คนสนิทของนวลออกได้ แม่อิ่มจึงไปหานวลที่บ้านสวน ตั้งใจไปอาศัยใบบุญของฉัตรและคุณใหญ่ แต่ก็ต้องผิดหวัง เพราะฉัตรถูกไล่ออกจากบ้านเสียแล้ว นวลเองก็เสียใจที่เสียศักดินัยไปอย่างกะทันหัน
ฐิติพาไปถามข่าวคราวกับแขเรื่องมนต์เสน่ห์ และย้ำต้องทำให้ใหญ่หย่ากับฉัตรให้ได้ แขจึงไปทำพิธีอีกครั้ง แต่หลวงพ่อที่วัด ช่วยใหญ่ไว้ ให้ใหญ่สวดมนต์ภาวนา พร้อมทั้งหลวงพ่อก็ช่วยขับไล่สิ่งชั่วร้าย จนกลับเข้าไปหาตัวแขในที่สุด แขเริ่มป่วย มีอาการคุ้มดีคุ้มร้าย ยังไม่ทันที่ปภาคินจะได้บวช นายสุขคนรับใช้ที่รมย์ฤดี ก็เข้ามาบอกว่าที่บ้านถูกปล้น หลวงพ่อให้เขากลับไปที่บ้านทันที ปฐมายื้อแย่งสมบัติที่พวกโจรกำลังจะเอาไป จนพลาดตกบันไดเสียชีวิตทันที ส่วนปพณก็ถูกยิงบาดเจ็บ โจรร้ายยังไม่หยุดแค่นั้น ไปที่บ้านสวนของนวลนงค์ เข้าทำร้ายสองแม่ลูก แม่อิ่มเข้าช่วย จนดึงผ้าคลุมหน้าของโจรหลุดและจำได้ว่าเป็นญาติของช่วง บ่าวคนสนิทของหม่อมยุพา โจรตกใจที่มีคนเห็นหน้า จึงรีบหนีไป พอดีธนากับสม พาชาวบ้านเข้ามาพอดี ฉัตรกับนวลจึงรอดได้อย่างหวุดหวิด อิ่มขอร้องให้สองแม่ลูกไปจากที่นี่โดยเร็ว เพราะเหตุที่เป็นอย่างนี้ ต้องมาจากหม่อมยุพา ที่ไม่ต้องการให้ทั้งสองมีส่วนได้เสียในสมบัติของศักดินัย ธนาเองก็เห็นดีด้วย เพราะเป็นห่วงทั้งสองมาก นวลกับฉัตร จึงตัดสินใจ จะเดินทางไปปากน้ำโพตอนรุ่งสางทันที โดยมีธนาตามไปส่ง
หม่อมยุพากับฐิติพาทำทีตามมาช่วยงานศพปฐมา แต่ที่จริงต้องการมาพูดใส่ร้าย ป่าวประกาศให้ชาวบ้านรับรู้ว่า ฉัตรร่วมมือกับธนา เอาคนมาปล้นบ้าน แล้วหนีไปด้วยกัน ซ้ำร้ายยังให้ปภาคินหย่ากับฉัตรโดยเร็วเพื่อไม่ให้เสียชื่อเสียง กานติมาพากนกแขมางานศพ เมื่อได้ฟังพระสวด เธอก็ทุรนทุราย จนอาเจียนออกมาเป็นเลือด ส่วนนวลก็ขายสมบัติเก่า เพื่อตั้งตัว ค้าขายอยู่ที่ปากน้ำโพ ซึ่งขณะนั้น ฉัตรท้องได้สี่เดือนแล้ว และป่านก็คลอดที่ตลาดปากน้ำโพในเวลาต่อมา ธนาลาฉัตรกลับไปเป็นครูเหมือนเดิมทั้งที่ใจของเขาอยู่กับฉัตรตลอดเวลา แต่ฉัตรปฏิเสธความรู้สึกของธนา เพราะไม่อยากให้ธนาต้องเจ็บปวดที่เธอยังไม่ลืมปภาคิน ธนากลับมาที่บ้านเช่าจึงรู้จากสมว่า บ้านของปภาคินถูกปล้น ฐิติพาทำทีไปเยี่ยมกนกแข ที่ตอนนี้สติหลุดลอย ไม่อยู่กับเนื้อตัว ฐิติพายุให้แขทำพิธีต่อ เพื่อให้ได้ปภาคินคืนมา เพราะตอนนี้งานศพของปฐมาเสร็จสิ้น และคืนนั้นเอง ฐิติพาก็พากนกแขไปทำพิธีที่ทางสามแพร่งอีกครั้ง เป็นเวลาเดียวกับที่ปภาคินไปหาหลวงพ่อที่วัด เพื่อจะนำอัฐิของแม่ไปลอยอังคาร หลวงพ่อให้ตะกรุดกับปภาคิน ไว้ติดตัว ป้องกันอันตราย อีกทั้งหลวงพ่อยังช่วยปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย ทำให้พิธีของแขไม่สำเร็จ มนต์ดำย้อนเข้าตัว กนกแขถูกฟ้าผ่าตายอย่างน่าสยดสยอง ธนาขี่จักรยานมาเห็นพอดี จึงรู้ว่าฐิติพารู้เห็นเรื่องนี้ด้วย
ธนาตามสะกดรอยตามฐิติพาและช่วงไป จนได้รู้ว่าให้หมอเสน่ห์ทำพิธีให้ หมอเสน่ห์ให้ฐิติพาและช่วง เก็บข้าวของที่ยังเหลือในพิธีมาถอนอาคมให้หมด มิเช่นนั้น สิ่งเลวร้ายจะย้อนกลับมาหาผู้ที่มีส่วนร่วมทุกคน ธนาได้ยิน จึงเอาตุ๊กตาในที่เกิดเหตุที่เขาพบ และยังเหลือซากอยู่ นำไปให้หลวงพ่อที่วัด พอดีกับช่วงที่หมอเสน่ห์กำลังทำพิธี จึงเกิดการต่อสู้กันระหว่างหลวงพ่อกับหมอเสน่ห์ ทั้งสัปเหร่อ เทิด ต่างเป็นลูกมือช่วยหลวงพ่อปราบหมอเสน่ห์ได้ในที่สุด ส่วนฐิติพาซึ่งกำลังอยู่กับหม่อมยุพาและช่วงที่วังโสภณ ก็ล้มทั้งยืน หมดสติไป หลวงพ่อให้เทิดใช้ผ้าเหลืองห่อตุ๊กตา ที่เหลือแต่เพียงซากเล็กน้อย แล้วนำไปฝังดินไว้ จบเรื่องราวเลวร้ายในที่สุด
สารประดิษฐ์ โทษว่าปภาคิน มีส่วนรู้เห็นในการตายของกนกแข เพราะทางสามแพร่งเป็นเส้นทางที่กนกแขกำลังจะเดินทางมาที่รมย์ฤดี เขาอุ้มศพกนกแขมาถึงที่รมย์ฤดี ปพณไม่สบายใจที่นอกจากจะเกิดเรื่องร้ายกับปฐมาแล้ว ยังเกิดความเข้าใจผิดกันอีก ความสัมพันธ์ที่ยืนยาวของสองครอบครัว จึงจากกันด้วยความร้าวฉาน สุดท้ายปภาคิน วรดา ก็พาพ่อไปจากรมย์ฤดี เพื่อหลีกหนีเรื่องราวอันเลวร้ายต่าง ๆ ช่วงรีบไปหาหมอเสน่ห์ จึงเห็นสภาพที่หมอโดนของย้อนเข้าตัวเหมือนกัน รีบกลับไปบอกหม่อมที่วัง แล้วให้รีบพาฐิติพา กลับไปที่ศรีราชา เพื่อจะได้ช่วยชีวิตทัน หม่อมยุพา ฐิติพา ช่วงมาที่บ้านปภาคิน แต่ไม่พบใคร พอดีธนากับสนเดินมาเจอ ธนาจึงรีบไปนิมนต์หลวงพ่อที่วัด พร้อมกับเทิดให้มาที่บ้านปภาคิน สมอยากให้ความจริงเปิดเผย จึงไปตามสารประดิษฐ์ พร้อมด้วยกานติมา มาให้เห็นกับตา เมื่อกานติมาเห็นรอยไหม้ดำที่หน้า และหน้าอกของฐิติพา ซึ่งเหมือนกับกนกแข ตอนที่ตาย ก็ตกใจจนแทบเป็นลม ความจริงทุกอย่างถูกเปิดเผย สารประดิษฐ์รับไม่ได้ที่กนกแขทำเรื่องมนต์เสน่ห์ แม้ตายไปแล้ว ก็ยังถูกติเตียน แต่หม่อมยุพา กับฐิติพา ก็ยังไม่หยุดคิดอกุศล หลวงพ่อ จึงช่วยได้แต่ให้ยาว่านสมุนไพร ไว้ละลายน้ำทาบรรเทาอาการปวดแสบปวดร้อนเท่านั้น เพราะเวรกรรมที่ทำ ก็ต้องสั่งสมบุญเป็นเครื่องช่วยบรรเทา ธนากับสม ได้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ซึ่งสม ก็ได้นำไปถ่ายทอดให้กับลูกหลานฟังกันต่อไป ตกทอดมาถึงโกสุม ซึ่งมาเล่าให้กับธีรัช ขวัญ อร ฉายฉานฟังนั่นเอง ธนาขอบวชเป็นศิษย์หลวงพ่อ แล้วพอสึกออกมาก็เกิดสงครามพอดี จึงไปเป็นครูสอนหนังสือให้กับชาวบ้านที่ลี้ภัยหนีมา ทั้งหมดนำเรื่องที่ได้รับรู้อย่างเหลือเชื่อมาเล่าให้กับคุณวรา คเชนทร์ฟัง
วราให้นลิน ปรับเปลี่ยนบทตามความเป็นจริง และจะหาทางให้ตอนจบไม่เศร้ามากนัก แล้วก็เริ่มการถ่ายทำทันที และคุณวรา ก็ตัดสินใจจัดงานแถลงข่าวเรื่องการเปลี่ยนแปลงบท โดยเชิญ คุณภารดีและคุณเนื้อเย็นบุตรสาวและภรรยาของปรานมาที่งานแถลงข่าวด้วย เพื่อที่ทุกคนจะได้เข้าใจตรงกันว่า ปรานเขียนนิยายจากบันทึกของคุณลุงปภาคิน ซึ่งตอนนั้น มีเพียงบันทึกเล่มแรกที่พ่อได้เจอ ยังไม่พบสมุดเล่มที่สอง หลังจากนั้นจึงแต่งเติมตามจินตนาการ ทั้งคุณภารดี และเนื้อเย็น จึงยินดีให้ปรับเปลี่ยนบทได้ในที่สุด
การถ่ายทำละครกำลังดำเนินไปอย่างเข้มข้น ตอนนี้ แขหาทางใกล้ชิดปราน ถึงขนาดขอให้ปรานไปหย่ากับโฉมเฉลา ธนกฤต พยายามเกลี้ยกล่อมให้ปรานรู้ว่าโฉมเฉลาเป็นคนดี แขเป็นคนทำเสน่ห์ใส่ ที่สำคัญ โฉมเฉลากำลังตั้งครรภ์ ลูกของเธอกับปรานด้วย ศักดินัย ซึ่งทำงานให้กับสัมพันธมิตร กลับมาที่วังโสภณ ไม่ได้เสียชีวิตเหมือนที่เป็นข่าว หลังจากเสร็จสิ้นสงคราม ข้าวของที่วัง ถูกหม่อมยุพาขายจนแทบหมดสิ้น หม่อมยุพากับฐิติพา ไม่ได้ยินดีในการกลับมาของพ่อเลย ซ้ำ ยังจะขายวังโสภณอีก ศักดินัย รู้ซึ้งถึงความร้ายกาจของสองแม่ลูก จึงตัดสินใจ ไปตามหานวลนงค์และฉัตร ส่วนหม่อมยุพา กับฐิติพาก็ออกจากวังไป แถมถูกโจรร้ายปล้นจนหมดตัว ช่วงก็ลากลับต่างจังหวัด ถูกคนร้ายเอาทรัพย์สินไป หมดตัวเช่นเดียวกัน
แล้วก็ถ่ายทำถึงตอนจบในละครเรื่องรอยอดีต เป็นฉากงานแต่งของกนกแขกับปราน แต่ศักดินัย นำตัวโฉมเฉลามาที่งานเสียก่อน นวลนงค์ดีใจที่เรื่องลงเอยได้ด้วยดี ความรักที่ปรานมีต่อโฉมเฉลายังคงเหนียวแน่น กนกแขไม่ได้หัวใจของปรานมาครอง อรนภาหัวเสียที่ตนเองไม่ได้แต่งงานในตอนจบ แต่ฉายฉานก็พูดให้กำลังใจ เพราะในความจริงนั้น กนกแข ตายเสียตั้งแต่ปภาคิน หรือคุณใหญ่ อพยพไปอยู่ที่จันทบุรีพร้อมกับพ่อและน้องสาวแล้ว ละครปิดฉากไปอย่างสวยงาม คุณวรา และคเชนทร์ ขอบคุณวิยาดา ที่ให้ใช้สถานที่ตลอดมา ขวัญบอกลาวิยาดาและธีรัช ธีรัชส่งสายตาบ่งบอกถึงความอาลัยอาวรณ์ต่อขวัญอุมา ในขณะที่เธอขับรถจากไป วิยาดาเตือนสติ ให้ธีรัช ทำสิ่งที่ตนเองตั้งใจ ก่อนที่จะสายไป
คุณวราและคเชนทร์ เชิญธีรัชกับขวัญอุมา มาที่ออฟฟิศ เพื่อติดต่อเล่นละครเรื่องใหม่ ขวัญไม่รู้ว่าต้องเล่นกับธีรัช จึงรับปากไปเสียก่อน แต่ธีรัชยังไม่ตกลงใจรับเล่น เพราะเขาเองยังไม่มั่นใจ ว่าจะสวมบทบาทของคนอื่นได้ดีเท่ากับปรานได้หรือไม่ ฉายฉานเองก็อยากเอาชนะใจของอรนภา ด้วยความรักที่แท้จริง ไม่ได้ต้องการเพียงความรักแบบชั่วครั้งชั่วคราว เขาขอให้อรนภาเปิดใจ ยอมรับความรักจากเขา และเรียนรู้ไปด้วยกัน
ธีรัชและขวัญอุมา ไปเยี่ยมยายป่านที่วัด และได้พบกันโดยบังเอิญ ธีรัชพยายามเข้าหาขวัญ แต่ขวัญปฏิเสธและเดินหนี เธอพยายามหนีหัวใจของตัวเอง และยังเจ็บแค้นที่ปราน ทอดทิ้งโฉมเฉลาอย่างน่าสงสาร ขวัญไม่อาจสลัดความคิดในอดีตได้ มีเพียงธีรัช ที่พยายามพูดให้เธอเข้าใจว่านี่คือปัจจุบันและความจริง ที่เขาคือธีรัช
เมื่อรอยอดีตได้ออกอากาศ ก็กลายเป็นละครที่โด่งดังไปทั่ว จนถึงงานประกาศรางวัล ธีรัชได้รับรางวัลนักแสดงหน้าใหม่ สร้างความปลื้มใจให้กับวิยาดา คเชนทร์ และคุณวรามาก ส่วนขวัญอุมา จันทรารักษ์ ได้เข้าชิงนักแสดงนำฝ่ายหญิง พร้อม ๆกับอรนภา ได้เข้าชิงจากละครเรื่องรักแล้วไม่แคล้วกัน อรนภาเป็นผู้ประกาศรางวัล และคนที่ได้รางวัลนักแสดงนำหญิงก็คือขวัญอุมา ทุกคนต่างปรบมือดีใจไปกับขวัญด้วย วิยาดา ตัดสินใจถอดแหวนแต่งงานมอบให้ธีรัช แล้วธีรัช ก็ขอขวัญแต่งงานบนเวทีประกาศรางวัลนั่นเอง ขวัญไม่อาจหนีหัวใจของตนเองได้อีกต่อไป ธีรัชบรรจงสวมแหวนให้กับเธอ ท่ามกลางบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยความสุขของทุกคน