ปลดฟ้าผ่า คุณแดง-สุรางค์ พ้น 7 สี มีผล 1 ม.ค.นี้
นายกฤตย์ รัตนรักษ์ ประธานกรรมการ บีบีทีวี (บริษัทกรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จำกัด) ออกคำสั่งในวันนี้ ให้ นางสุรางค์ เปรมปรีดิ์ พ้นจากตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ ซึ่งมีอำนาจในการบริหารสถานีโทรทัศน์สีช่อง 7 มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2555 พร้อมทั้งแต่งตั้ง นายศรัณย์ วิรุตมวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ รักษาการแทน
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของ ทีวีสีช่อง 7 เนื่องจาก สุรางค์ เปรมปรีดิ์ เป็นบุคคลสำคัญ ที่มีบทบาทในทีวีช่องนี้มานาน กว่า 30 ปี โดยเข้ามาดำรงตำแหน่งต่อจากนายชาติเชื้อ กรรณสูตร พี่ขายเมื่อปี 2541
ประวัติของนางสุรางค์ เปรมปรีดิ์ จากเวบไซต์ PeopleRich
คุณสุรางค์ เปรมปรีดิ์ ผู้บริหารช่อง 7 ถูกจัดลำดับมหาเศรษฐีไทยลำดับ 15 ด้วยมูลค่าทรัพย์สินรวม 17,000 ล้านบาท ประวัติโดยสังเขปของคุณสุรางค์ เปรมปรีดิ์ เกิดเมื่อวันที่ กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2485 จบการศึกษาจาก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เกียรตินิยมอันดับ 1 และเดินทางไปต่อปริญญาโท มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อคุณสุรางค์ เปรมปรีดิ์ กลับมาได้เข้าทำงานเป็นผู้บริหารโรงเรียนเรวดีของมารดา ซึ่งคุณสุรางค์ เปรมปรีดิ์ ถูกปูพื้นฐานด้านครูที่ต้องเข้ามาดูแลกิจการของครอบครัว และต่อมาได้เลื่อนตำแหน่งเป็นครูใหญ่
คุณสุรางค์ เปรมปรีดิ์เริ่มเข้ามารับบทบาทบริหารช่อง 7 แทนพี่ชาย หน้าที่แรกนั้นคือ ผู้จัดการฝ่ายรายการของสถานีช่อง 7 และได้เลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นมาเรื่อย กรรมการรองผู้จัดการบริษัทฯ และ ผู้จัดการฝ่ายข่าวของสถานีช่อง 7 ด้วยการตัดสินใจที่เฉียบขาด และความีระเบียบวินัยสูง เป็นที่น่าเคารพทั้งพนักงานช่อง 7 และทีมงาน ช่วงหนึ่งนั้นคุณสุรางค์ เปรมปรีดิ์ มีปัญหากับคุณชาลอต โทณวณิก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มีเดีย ออฟ มีเดียส์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งได้รับการทาบทามเข้ามาทำงานจากคุณกฤตย์ รัตนรักษ์ ผู้ถือหุ้นใหญ่ร่วมกับครอบครัว เปรมปรีดิ์
ปัจจุบันช่อง 7 มีคู่แข่งที่ต่อการมีแต่ไหนแต่ไรไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเทคโนโลยีฉายภาพ เนื้อหาที่ถูกนำเสนอ ทั้งละคร ทีวี ข่าว ที่ต่างก็มีดีต่างกันไป ซึ่งแต่ละช่องนั้นมีจุดแข็งของตนเองอยู่แล้ว เรียกว่าการแข่งขันบนความแตกต่างที่ดุเดือด ลูกค้าหรือผู้บริโภคชาวไทยต่างเป็นผู้ตัดสินว่าทีวีช่องใดจะเหนือกว่าคู่แข่งซึ่งเป็นผลดีต่อผู้บริโภคจะได้รับชมสื่อที่ตนเองมีความต้องการนำเสนอสิ่งใหม่ๆอยู่ตลอดเวลาทันต่อโลก และสื่อก็คือผู้ตัดสินว่าผู้บริโภคประเทศนั้นๆมีความชอบแบบไหน แนวโน้มไปทางไหน ชอบเสพสิ่งไร้สาระหรือแก่นสารมากกว่ากัน
สรุปแล้วผู้ตัดสินชี้ชะตาก็คือผู้บริโภคซึ่งผู้บริหารแต่ล่ะช่องมีหน้าที่สร้างความต้องการบนความแปลกใหม่มาให้ประชาชรคนไทยชมกันต่อไป และคุณภาพที่พัฒนาขึ้นสูงเรื่อยๆ ช่อง 7