new

 

หลังจากแกรนด์โอเพนนิ่งขึ้นสเตตัสอย่างเป็นทางการว่าไม่โสดแถมยังใช่คำว่าแฟนแล้ว เชียร์-ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์ ก็มีโมเมนต์หวานกับ บิ๊ก-ธนพนธ์ เบญจรงคกุล ออกมาให้เห็นเป็นระยะๆ ความรักหวานขนาดนี้ รายการต้มยำอมรินทร์ ผลิตโดย CHANGE2561 ขอเชิญนางเอกคนสวยมาวัดระดับน้ำตาลในหัวใจกันสักหน่อย ว่ากว่าจะยกระดับมาถึงขั้นใช้คำว่า แฟน ใช้เวลานานหรือเปล่า มีหวานใจแล้วความห้าวของหาไปกลายเป็นผ้าพับไว้หรือไม่ แล้วภาพตัวตนที่แท้จริงของ เชียร์ เป็นแบบไหน …

หลายคนสับสนภาพของเชียร์ตกลงว่าอันไหนจริงๆ แล้วเป็นตัวตนที่แท้จริง คือ เป็นแมนๆ หรือ เป็นแบบนี้

เชียร์ : “เป็นแบบนี้ ก็คือ เป็นแมนๆของเชียร์อยู่ปกตินะ คือ หลายคนดูว่าเราหวานขึ้น แต่จริงๆ ไม่เลยค่ะ ยังห้าวเหมือนเดิม ชอบอะไรเหมือนเดิม การแต่งตัวก็แบบนี้ แต่ไหนแต่ไรเราก็แต่งตัวแบบนี้ ทุกวันนี้เราก็ยังเล่นบาสเหมือนเดิมเลย คือ ถามว่าเป็นผู้หญิงอะไรขนาดนั้นไหม เชียร์ ก็ไม่ได้เป็นผู้หญิงอะไรขนาดนั้นนะคะ เพราะเชียร์ ก็ไม่ชอบทำเล็บเลย ถ้าผู้หญิงทุกคนเขาจะไม่บ่อยเล็บให้เป็นแบบนี้ แต่เพราะเราเล่นกีฬาด้วยเล่นบาสเลยทำเล็บไม่ได้”

เป็นเพราะว่าบทที่เราได้รับตอนแรกๆ เลย เป็นสาวห้าวแล้วก็เป็นทอมแบบนี้หรือเปล่า

เชียร์ : “คือ จริงๆ ต้องบอกว่า บทบาทตอนแจ้งเกิดเป็นบทแบบนั้น แต่ถามว่าเป็นบทที่เราเล่นแล้วเราเป็นธรรมชาตินะ เพราะเป็นมุมมองของผู้ใหญ่ที่ให้เราเล่นบทแบบนี้ คือ ตอนยุคที่เราเข้ามาเป็นยุคที่นางเอกเจ้าน้ำตา แต่เรามาในสายที่แตกต่างคนเลยจำได้ แล้วเชียร์ คิดว่าคนติดภาพเพราะละครที่เล่นแรกๆ 2-3 เรื่อง คือ แบบห้าวๆ เลย”

เด็กๆ มีแฟนเป็นผู้หญิงไหม

เชียร์ : “เด็กๆไม่มีค่ะ แต่ว่ามีผู้หญิงมาชอบเยอะมาก ทุกวันนี้ ก็ยังมี มีเยอะเลย โตมาก็มาก็ไม่มีแฟนเป็นผู้หญิงค่ะ (หัวเราะ)”

เชียร์ : “แต่มีคู่จิ้นเป็นผู้หญิงเป็นตัวเป็นตน”

รู้สึกไหมว่าทำไมมีผู้หญิงมาชอบเรา

เชียร์ : “จริงๆ ต้องบอกแบบนี้ค่ะว่า ตลอดชีวิตตั้งแต่เล็กจนโต ทุกอย่างมาหมด ไม่ว่าจะเป็นผู้ชาย ผู้หญิง หรือ ทอมก็มาชอบ มีทุกแบบเลย คือ บางส่วนเราก็มีมุมหวานบ้าง บางส่วนก็บอยมาก ตั้งแต่เด็กๆ นะคะ”

ต้องถามว่าเห็นเพศไหนแล้วท้องไส้เราปั่นป่วน

เชียร์ : “ถ้าให้เราพูดตามตรงไม่มีอะไรที่ทำให้เรารู้สึกเป็นพิเศษอันนี้พูดตรงๆ นะคะ แต่ตามช่วงวัยเวลาที่เราเรียนสหตอนเด็กๆเรามีเป็นคู่ดังมากกับเพื่อนคนหนึ่งเป็นคู่จิ้นในโรงเรียน เป็นผู้ชายนะคะ แต่ตอนมามัธยมเราเรียนหญิงล้วนแล้วเราเล่นบาสแล้วคนกรี๊ดมากก็จะมีผู้หญิงเข้ามาเยอะมาก คือเราคิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่มันเข้ามาก็จะมีเสน่ห์ในแบบของมัน คือถามว่าในบางช่วงเห็นแล้วหวั่นไหวไหม แรงยุมันมีอยู่แล้ว แต่ถามว่าวันนี้ชอบแบบไหนเห็นอะไรแล้วปั่นป่วนพูดตรงๆ เราว่าใครก็ได้นะที่อยู่กับเราได้ ไอ้คำว่าใครก็ได้เรารู้สึกว่ามันคือหน้า มันคือสิ่งแวดล้อมที่เรารู้สึกว่าเราตื่นเต้นไปกับมัน แต่ถามว่าใครที่จะมาอยู่กับเราจริงๆ อันนี้คือมันต้องดูกันนานมากไม่ได้หมายความว่าคนนี้เราชอบเรากรี๊ด เราถูกใจ ไม่ได้หมายถึงผู้หญิง หรือ ผู้ชายนะคะ ว่าเขาจะมาอยู่กับเราตรงนี้ได้”

ผู้ชายข้างกายตอนนี้ถูกใจไหม

เชียร์ : “ก็ถูกใจ ต้องถูกใจสิคะ”

ไปเจอกันได้ไงคนนี้

เชียร์ : “ไปเรียนธุรกิจด้วยกัน เป็นพวกคอร์สธุรกิจค่ะ ถามว่าถูกใจตั้งแต่แรกไหม ไม่เลย ไม่ได้ชอบเขาเลย แล้วคือเป็นเพื่อนกันมาตลอด แต่จนแบบ เราเป็นคนที่แพ้ความสม่ำเสมอมาก เพราะความสม่ำเสมอมันใช้เวลามาก”

ความสม่ำเสมอของเขาทำให้เราใจอ่อนเรายอมรับเขาเป็นแฟนด้วยคำพูดอะไรจากเขา

เชียร์ : “มันถึงวันหนึ่งที่พอระยะเวลามันผ่านไปค่อนข้างนานพอสมควร คือ เรารู้จักกันกว่าจะมาใช้สถานะคำว่า แฟน ประมาณ 2 ปีค่ะ”

แล้วเขาแพ้เราตั้งแต่แรกเจอเลยเหรอ แล้วเขารู้สึกหวั่นไหวอะไรกับข่าวของเราไหม

เชียร์ : “คือเขาไม่สนใจเราจากข่าว หรือ จากอะไรเลยค่ะ คือ มันมีอยู่ช่วงหนึ่งที่เรามีโอกาสได้คุยกันมากขึ้น แบบด้วยคลาสเรียนคือ ทุกคนเป็นเพื่อนใหม่กันทั้งหมด แล้วคือ มีช่วงหนึ่งที่เราต้องไปต่างประเทศด้วยกัน แล้วจังหวะบินกลับมาเหตุการณ์จับพลัดจับผลู เหมือนละครจับวางเลยค่ะ จับมาให้นั่งคู่กัน แล้วจริงๆ กับมาสามคนจริงๆ เราจะขอนั่งด้วยกันแต่ที่มันไม่ได้แล้วเหลือแค่เชียร์ นั่งกับเขาแบบนี้ แล้วคนนี้ก็นั่งคนเดียว แล้วเราก็ขอให้เขาสลับตั๋วขอให้เพื่อนเรามานั่ง เขาก็ไม่ยอม มันเลยกลายเป็นเรานั่งคู่เขามาตลอดทางเลย เลยทำให้มีโอกาสได้คุยกัน เขาก็บอกว่าเขาเริ่มประทับใจเราตั้งแต่ตอนนั้น แต่ตอนนั้นเชียร์ยังไม่ได้คิดอะไรนะคะ”

คบกันมานานแค่ไหนแล้ว

เชียร์ : “ประมาณปีค่ะ”

ตอนเขาขอเป็นแฟนเขาขอยังไง

เชียร์ : “(หัวเราะ) เขาขอต่อหน้าค่ะ เราพอรู้การกระทำค่ะ ว่าเขาอยากขยับขั้นแล้ว คือ เขาพูดมาคำหนึ่งว่า เมื่อไหร่จะใช้คำว่า แฟน กันได้ เราก็ตอบเขาไปว่าอยากใช้ก็ใช้สิ (เชียร์เขิน)”

เวลาอยู่ด้วยกันเราแมนกว่าเขาไหม

เชียร์ : “ไม่ๆ ค่ะ บิ๊ก เขามีเหตุผลมากแล้วก็มีความเป็นผู้ใหญ่ เขาเป็นคนไม่หยุมหยิม แต่เชียร์ เป็นคนที่หยุมหยิมมาก เป็นคนที่ขี้น้อยใจ ขี้งอน แต่ตอนนี้มีเหตุผลขึ้นมากเพราะเราโตขึ้น”

แล้วจะแต่งงานเมื่อไหร่

เชียร์ : “(หัวเราะ) ยังค่ะ ดูไปเรื่อยๆ เพราะว่าการแต่งงานคือภาพอนาคตที่มันสำคัญมาก”

แต่เราเคยมองภาพตัวเองเป็นเจ้าสาวใส่ขาวชุดเดินถือดอกไม้มา เราเคยเห็นไหม

เชียร์ : “เอาจริงๆ เลยไหม ไม่เคยเห็นภาพนั้นกับตัวเองเลย ไม่เคยคาดหวังเป็นคนกลัวเจ็บ เพราะเราเป็นคนที่รักใครเรารักจริงมาก”

แล้วเคยนึกภาพตัวเองอุ้มท้องมองออกไหม

เชียร์ : “ไม่เคยคิดว่าอยากจะมีลูกเลยด้วยซ้ำค่ะ เรามองภาพตัวเองไม่ออก เพราะเรามองภาพแค่ทำงานๆ อยู่ ทีนี่ การที่เราไปสู่การมีบุตร หรือ เลี้ยงลูกมันอาจจะมีไปมีอีกสเต็ป แต่ตอนนั้นคือเราต้องมีเวลา”

แต่ก็ไม่ได้ถึงกับปิดประตูว่าชีวิตนี้ไม่มีลูกแน่นอน

เชียร์ : “จริงๆ เคยคิดปิดประตูอย่างนั้นด้วย แต่เราคิดของเราฝ่ายเดียวไง แต่ถ้าเราคิดว่าเราจะเป็นคู่กับใครสักคนเราก็ต้องฟังเขาด้วยคุยกับเขาด้วย”

ตอนที่เราเล่น รักล้ำเส้น ตอนนั้นคบกับพี่บิ๊กยัง

เชียร์ : “คบแล้วค่ะ ตอนนั้น เราก็บอกเขานะคะ ว่าเราต้องเล่นเป็นคู่จิ้นกับ พี่แอน แต่เขาก็ไม่ได้ว่าอะไรนะคะ เขาก็ดูด้วยค่ะ”

ตอนที่เขาส่งบทนี้มาเราลังเลไหม

เชียร์ : “ไม่ลังเลเลย เพราะว่าตอนที่เราได้บทมาเรารู้ถึงว่า ถ้าเราได้เข้าไปอยู่ในบทของเรื่องนี้คงดป็นอะไรที่เจ๋งมากกับการแสดงของเราเลยไม่ลังเลเลย เรื่องนี้คือ พอเราฟังเรื่องย่อ เราตัดสินใจรับเลยอยากเล่น”

เรารู้สึกยังไงบ้างที่ละครจบแล้วเป็นปีๆ แต่กระแสคู่จิ้นยังมี

เชียร์ : “นี่คือความน่ารักมาก ต้องขอบคุณมากๆ ที่ไม่ใช่เหมือนที่เป็นคู่จิ้นละครแล้วจบไป คือ ละครมีแค่ 4 ตอน แต่มีการ anniversary มีตติ้งแอนด์กรี๊ดกับพี่แอน ตลอดเลย คือไม่ใช่แค่แฟนในประเทศด้วย แฟนต่างชาติก็ให้การสนับสนุนกันตลอด”

เห็นว่าตอนนี้ก็ทำยูทูบเป็นของตัวเองด้วย จะมีการดึงพี่แอนไปแจมไหม

เชียร์ : “ยูทูบของเชียร์ เป็นการทำเกี่ยวกับการกินค่ะ ชวนชิม เป็นคนกินเก่งมากค่ะ คือเราจะไปร้านที่เด็ดๆ หรือกระทั่งเมนูที่มันแปลกๆ ก็ทำเหมือนกัน สามารถติดตามชม เชียร์ ได้ทางยูทูบ CHARMING OFFICIAL จะมีคลิปสนุกๆ แปลกๆ มาให้ได้กรี๊ดกันค่ะ”