5 ประเด็นต้องรู้ หลัง แมนฯ ยู 10 คน บุกอัด เบิร์นลีย์ คารัง
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โชว์ฟอร์มสมฐานะอีกครั้ง หลังจากที่นำเจ้าบ้านห่าง 2-0 ตั้งแต่ครึ่งแรก ก่อนจะรักษาสกอร์นี้ไว้ได้จนจบเกม แม้ว่าจะเหลือผู้เล่นน้อยกว่าในครึ่งหลังก็ตาม
ผลจากนัดนี้ทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กระโดดขึ้นไปอยู่อันดับ 10 มี 6 คะแนนเท่า อาร์เซนอล, เอฟเวอร์ตัน และ เลสเตอร์ ซิตี้ แต่สกอรืได้เสียน้อยกว่า ส่วน เบิร์นลีย์ รั้งรองบ๊วย มีเพียง 1 คะแนนจากการลงเล่นใน พรีเมียร์ลีก ไป 4 นัด
ไปดูกันว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้างในเกมที่ เทิร์ฟมัวร์
5. มูรินโญ ส่งนักเตะที่เขาไว้ใจมากที่สุดลงสนามในเกมชี้ชะตา
เมื่อมีข่าวลือว่านี่อาจเป็นนัดสุดท้ายที่เขาได้คุมทีมหาก แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้อีก โชเซ มูรินโญ จึงตัดสินใจเลือกนักเตะที่เขาเชื่อใจมากที่สุด ไม่ใช่ดีที่สุด ลงสนาม และนักเตะเหล่านั้นก็ตอบแทนเขาได้ดีทีเดียว
โรเมลู ลูกากู ยังคงยึดตำแหน่งหน้าเป้าต่อไป พร้อมกับ เจสซี ลินการ์ด ทำเกมรุกด้านขวา ส่วนด้านซ้าย มูรินโญ เสี่ยงส่ง อเล็กซิส ลงสนาม ทั้ง ๆ ที่เขาเพิ่งหายเจ็บกลับมา และ อเล็กซิส ก็ตอบแทนเขาอย่างยอดเยี่ยมด้วยลูกขยัน และการวางบอลที่แม่นยำ พร้อม 1 แอสซิสต์ในเกมนี้
ในตำแหน่งมิดฟิลด์ มูรินโญ ตัดสินใจส่งลูกรักอย่าง มารูยาน เฟลไลนี ทำหน้าที่แทน เอร์เรรา หรือ เฟร็ด โดยมี มาติช ร่วมเล่นในเกมรับ กับ ป็อกบา ที่คอยเชื่อมเกมกลางสนาม ทั้งสามทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีจน เบิร์นลีย์ ขึ้นเกมจากตรงกลางไม่ได้เลย น่าเสียดายที่ ป็อกบา ยิงจุดโทษไม่เข้า ไม่งั้นเกมวันนี้จะยิ่งสมบูรณ์แบบขึ้นไปอีกสำหรับ มูรินโญ
ในเกมรับ เขายังคงเชื่อใจ คริส สมอลลิง และ วิคเตอร์ ลินเดเลิฟ แม้ว่าทั้งคู่เพิ่งจะทำพลาดมาในเกมแพ้ สเปอร์ส 0-3 อย่างไรก็ตาม ทั้งคู่ทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยมราวกับเป็นคนละคน และช่วยให้ทีมเก็บคลีนชีตในนัดนี้
ดูเหมือนว่านักเตะชุดนี้อาจจะเป้นชุดที่ดีที่สุดของ โชเซ มูรินโญ แล้ว และเป็นไปได้ว่าเราจะได้เห็น 11 คนนี้ลงด้วยกันไปอีกสักพักแน่นอน หากไม่มีใครเจ็บไปเสียก่อน
4. เฟลไลนี ทำได้ดีในตำแหน่งกลางรับ
ปกติเราจะเห็น มารูยาน เฟลไลนี เป็นแผนสำรองยามทีมต้องการประตู และเขามักจะขึ้นไปเล่นสูงเสมอจนบางครั้งเหมือนกองหน้าอีกคน แต่ในเกมนี้เขาไม่ทำแบบนั้น เพราะ เฟลไลนี ลงไปยืนคู่กับ มาติช และบางครั้งก็ลงไปต่ำกว่านั้น
เฟลไลนี สอบผ่านในการยืนเป็นกลางรับอีกคน เขาช่วยคุมพื้นที่ด้านขวาได้เนียนกริบ ในขณะที่ มาติช ดูแลฝั่งซ้าย เขาเปิดพื้นที่ให้ ป็อกบา เป็นตัวจ่ายบอลตรงกลางและมีพื้นที่อิสระ ขณะเดียวกันก็ช่วยให้ บาเลนเซีย และ ชอว์ เติมเกมบุกอย่างสบายใจ แถมยังลงไปช่วย 2 เซ็นเตอร์อยู่บ่อยครั้ง และสามารถเก็บผลการแข่งที่ต้องการกลับบ้านได้
3. ลูกากู เรียกความมั่นใจกลับมาอีกครั้ง
หลังจากทำพลาดอย่างน่าเกลียดในเกมกับ สเปอร์ส โรเมลู ลูกากู เรียกจิตวิญญาณจอมสังหารกลับมาอีกครั้งด้วยการเหมา 2 ประตูในเกมนี้
การโถมเข้าหาบอลกลางอากาศของเขายังยอดเยี่ยมอยู่เหมือนเคย อเล็กซิส หยอดบอลเข้ากลางได้แม่นจริง ๆ แต่ก็ต้องชมการหนีตัวประกบของ ลูกากู ด้วยที่ทำให้ลูกโหม่งของเขากลายเป็นเรื่องง่าย ส่วนจังหวะที่ 2 ก็ต้องชมสัญชาตญาณ เพราะในขณะที่บอลกระดอนไปมาเหมือนพินบอลจนกองหลัง เบิร์นลีย์ ได้แต่ยืนงง ลูกากู กลับก้าวเท้าออกไปวอลเลย์แบบไม่มีการลังเลอะไรทั้งนั้น
เมื่อกองหน้าของคุณทำประตุได้ ทีมของคุณก็ไม่มีอะไรต้องกังวล และนั่นคือสถานกาณณ์ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในขณะนี้
2. ความด้อยประสบการณ์ของ แรชฟอร์ด
ในนาทีที ่71 ของเกม มาร์คัส แรชฟอร์ด เบียดแย่งบอลกับ ฟิล บาร์ดส์ลีย์ ไปจนสุดเส้นหลังก่อนจะล้มไปกับพื้นทั้งคู่ จากภาพช้าจะเห็นว่า บาร์ดส์ลีย์ แอบเตะขาของ แรชฟอร์ด ตอนที่บอลออกไปแล้ว และถ้าจบแค่นี้ แบ็คขวาของ เบิร์นลีย์ ก็จะโดนใบเหลืองฐานเล่นนอกเกมแน่นอน
อย่างไรก็ตาม แรชฟอร์ด กลับไม่จบแค่นั้น เมือเดาจากปฏิกิริยาของเขาที่มีต่อ บาร์ดส์ลีย์ ก็น่าจะเดาได้ว่าเขาคงโดนตอบกลับด้วยคำพูดที่ไม่ดีนัก หลังไปแสดงความไม่พอใจ บาร์ดส์ลีย์ ที่เตะเขาล้ม อย่างไรก็ตาม การเอาหัวไปไถกองหลังประสบการณ์สูงอย่าง บาร์ดส์ลีย์ ไม่ใช่เรื่องที่ฉลาดเท่าไหร่ เพราะแม้ว่า แรชฟอร์ด จะยั้งตัวเองไม่ให้กระแทกแรกเกินไป แต่ปฏิกิริยาเล็กน้อยของ บาร์ดส์ลีย์ ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ แรชฟอร์ด โดนใบแดง
ถือเป็นบทเรียนราคาแพงสำหรับกองหน้าวัย 20 ปีคนนี้ ซึ่งเจ้าตัวออกมาขอโทษสโมสรและแฟนบอลแล้วในภายหลัง ผ่านทางทวิตเตอร์ส่วนตัวของเขา
1. เบิร์นลีย์ ร่วงต่อเนื่อง
จากทีมที่ได้ไปเล่นฟุตบอลยุโรปด้วยการคว้าอันดับ 7 เมื่อฤดูกาลที่แล้ว ตอนนี้ เบิร์นลีย์ กำลังเข้าสู่จุดตกต่ำที่สุดของพวกเขานับตั้งแต่ขึ้น พรีเมียร์ลีก มาด้วยการนอนจบรองบ๊วยหลังผ่านเกมไป 4 นัด
เบิร์นลีย์ เปิดฤดูกาลด้วยการเจ๊า เซาแธมป์ตัน 0-0 ก่อนจะเปิดบ้านพ่าย วัตฟอร์ด 1-3 และบุกไปแพ้ ฟูแลม 2-4 ก่อนจะมาพ่ายในบ้านตัวเองอีกครั้งต่อ แมนฯ ยูไนเต็ด นอกจากนี้ พวกเขาโชว์ฟอร์มกระท่อนกระแท่นมาตลอดในเกมรอบคัดเลือกของ ยูโรป้าลีก ก่อนจะกระเด็นตกรอบด้วยฝีมือของ โอลิมเปียกอส จากลีกกรีซ
พวกเขาจะได้พัก 1 สัปดาห์จากเกมทีมชาติ ก่อนจะกลับมารวบรวมสติกันใหม่ในเกมลีกนัดถัดไปกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน ซึ่งพวกเขาควรจะเก็บ 3 คะแนนได้แล้ว ณ ตอนนั้น