news

หลังจากที่ทางสำนักงานโยธาธิการ จ.นราธิวาส ได้งบประมาณในการก่อสร้างโครงการเขื่อนกันตลิ่งในคลองสายบุรี โดยได้นำรถแบ็กโฮ 2 คันมาทำการขุดลอกดินและหินที่ทรุดตัวลงไปในลำคลองขึ้นมาตักไว้บนฝั่ง เพื่อทำเป็นถนนเลียบลำคลองซึ่งมีระยะทาง 500 เมตร ชาวบ้านที่มีอาชีพร่อนหาแร่ทองคำอยู่บริเวณในลำคลองดังกล่าวพบเห็นแร่ทองคำที่ผสมกับดินและหินในลำคลอง ที่รถแบ็กโฮตักขึ้นมาตั้งไว้ริมตลิ่ง ที่หมู่บ้านทรายทอง ม.7 ต.ภูเขาทอง อ.สุคิริน จ.นราธิวาส จึงรวมตัวกันขอร้องคนขับรถแบ็กโฮขอให้ชาวบ้านได้นำดินและหินที่รถแบ็กโฮตักไว้นำไปร่อนเพื่อหาแร่ทองคำก่อน เพราะการใช้พลั่วตักดินและหินในคลองสายบุรีมาร่อนเอง ใช้เวลานานกว่าจะพบแร่ทองคำ

เมื่อคนขับรถแบ็กโฮ อนุญาตชาวบ้านหาแร่ทองคำจากดินและหินที่ขุดลอกจากลำคลองได้ ทำให้ในแต่ละวันมีชาวบ้านในพื้นที่เป็นจำนวนมากกว่า 200 คน ได้พากันร่อนหาแร่ทองคำ ซึ่งในแต่ละวันสามารถทำรายได้จากการร่อนหาแร่ทองคำไม่ต่ำกว่า คนละ 1,000 บาท เป็นรายได้เสริมในขณะที่ราคายางพาราตกต่ำ และกรีดยางพาราไม่ค่อยได้ในขณะนี้หลังจากเกิดฝนตกลงมาทุกวันในช่วงเย็น

นายนิพนธ์ เหล็กเพชร นายกองค์การบริหารส่วนตำรวจภูเขาทอง เปิดเผยว่า โดยปกติชาวบ้านจะร่อนหาแร่ทองคำจุดดังกล่าวนี้มาโดยตลอด แต่บังเอิญทางโยธาธิการและผังเมืองมีโครงการมาทำเขื่อนกันตลิ่ง จึงใช้แบ็กโฮตักดินและหินในคลองขึ้นมา ซึ่งเป็นผลพลอยได้ให้ชาวบ้านหาแร่ทองคำได้สะดวกขึ้นและเป็นรายได้เสริมอีกทางหนึ่งหลังจากเสร็จสิ้นจากการกรีดยาง โดยปกติได้วันละ 400-500 บาท แต่เมื่อแบ็กโฮเข้ามาดำเนินการขุดดินและหินขึ้นมาจากคลอง ทำให้ชาวบ้านมีรายได้เพิ่มขึ้นต่อคนเป็นวันละ 1,000-2,000 บาท เลยทีเดียว โดยราคาขายแร่ทองคำบริสุทธิ์นั้นอยู่ที่กรัมละ 1,300 บาท

อย่างไรก็ตามนอกจากในเวลากลางวันแล้ว จะมีชาวบ้านอีกส่วนหนึ่งได้รวมตัวกันเดินทางมาร่อนหาแร่ทองคำในช่วงเวลากลางคืน โดยมี พ.ต.อ.สมชาย พนมอุปการ ผกก.สภ.สุคิริน ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาให้การรักษาความปลอดภัยให้กับชาวบ้าน ซึ่งเป็นมาตรการสร้างความอุ่นใจหลังจากที่ทาง อบต.ภูเขาทอง จะใช้สถานที่ดังกล่าวเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ซึ่งมีลำคลองเดียวที่มีสายแร่ทองคำในพื้นที่ภาคใต้ โดยนักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสของจริงได้