news

 

ประธานกรรมการสงเคราะห์เข้าช่วยเหลือครอบครัวสาววัย 15 ถูกจับยาบ้าท้อง 5 เดือน เผย ยายป่วยติดเชื้อเอชไอวี ต้องเลี้ยงหลาน 22 คน

วันที่ 13 ก.พ. 62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ ประธานกรรมการสงเคราะห์จังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วยนายชูเกียรติ ทาวุฒิ รักษาการผู้อำนวยการสถานพินิจเด็กและเยาวชนจังหวัดศรีสะเกษ และนางสาวยุณีรัตน์ บุญราช พนักงานคุมประพฤติปฏิบัติการ ได้เดินทางไปที่บ้านหนองโน ต.น้ำคำ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ เพื่อหาแนวทางให้ความช่วยเหลือเด็กในเบื้องต้น และตรวจดูสภาพครอบครัวของนางสาวแดง (นามสมมติ) วัย 15 ปี ที่ถูกจับคดียาบ้า และถูกส่งตัวมาที่สถานพินิจเด็กและเยาวชนศรีสะเกษ เพื่อทำการสอบสวน และอยู่ในระหว่างควบคุมตัวเตรียมส่งศาล

เมื่อไปถึงบ้านหลังดังกล่าว เป็นบ้านชั้นเดียว มีสภาพแออัดมาก พื้นบ้านเป็นดินบางส่วน มีผ้าห่มปูพื้น ไม่มีเสื่อ ทุกคนนอนบนพื้นเรียงกันทั้งเด็กและผู้ใหญ่

สอบถามได้ความว่า บ้านนี้มี นางเอ (นามสมมติ) วัย 54 ปี ผู้เป็นยาย เลี้ยงหลานในบ้าน แต่ยายติดเชื้อเอชไอวี มีอาชีพรับจ้างทั่วไปได้วันละ 300 บาท ยายต้องดูแลเด็กทั้งหมดที่เป็นลูกของลูกสาวที่ครอบครัวแตกแยก แล้วนำลูกมาให้เลี้ยง ยายมีลูก 7 คน ลูกสาว 4 คน และชาย 3 คน ลูกสาวคนโตและลูกเขยก็ถูกจับคดียาบ้า ติดคุกยังไม่ออกมา ครอบครัวนี้ถูกจับคดียาบ้าหลายคน

โดยได้ตรวจสอบเอกสารหลักฐานเด็กและเยาวชนที่อยู่ในความดูแลของนางสาครทั้งหมด ซึ่งพบว่า มีทั้งเด็กและเยาวชนที่เป็นหลานของนางเอ รวมทั้งสิ้น 22 คน แต่มีเอกสารใบสูติบัตร และชื่อทะเบียนบ้านประมาณ 10 คน เอกสารที่เหลือ นางเอแจ้งว่า แม่ของเด็กนำเอาไปด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ติดตามเอาเอกสารทั้งหมดมาตรวจสอบ เพื่อที่จะได้เร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือตามระเบียบของทางราชการอย่างเร่งด่วน

โดยคณะเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจสอบภายในบ้านของนางเอพบว่า มีลูกหลาน รวมถึงลูกเขยที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกับลูกสาวของนางเอ อาศัยอยู่ในบ้านด้วย ซึ่งเป็นห้องโล่งมีเพียงหมอนมุ้งและเสื้อผ้าเก่าๆ ภายในห้องที่ค่อนข้างอับทึบมาก โดยทุกคนจะพักอาศัยนอนอยู่รวมกัน ลูกหลานของนางเอ มีอายุตั้งแต่ 9 เดือน ไปจนถึง 15 ปี

ซึ่ง ดร.กัลยาณี ได้มอบเงินสด จำนวน 2,000 บาท พร้อมทั้งนำเอาขนมและอาหารการกินจำนวนหนึ่งมามอบให้กับนางเอ เพื่อเป็นการช่วยเหลือเบื้องต้น จากนั้น เจ้าหน้าที่จะนำตัวนางเอไปให้การบันทึกข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เพื่อที่จะได้ให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนต่อไป

นางเอกล่าวว่า หลานทั้งหมดที่ตนเลี้ยงอยู่มีจำนวนทั้งสิ้น 22 คน โดยเป็นหลานที่เกิดจากลูกสาวของตนทั้ง 3 คน เมื่อลูกสาวคลอดลูกออกมาแล้ว ได้ไปทำงาน บางคนก็ไปมีครอบครัวใหม่ทิ้งลูกไว้ให้ตนเลี้ยง ซึ่งตนก็ต้องเลี้ยงหลานมาโดยตลอด ด้วยความรักสงสารหลานตาดำๆ ทั้ง 22 คน

โดยตนทำงานเป็นแม่บ้าน มีรายได้วันละ 300 บาท เงินจำนวนนี้จะต้องนำเอามาซื้อข้าวสารไว้หุงให้ลูกหลานกินวันละ 4 กก. และซื้อผักให้ได้จำนวนมากๆ มาผัดให้หลานๆ กินประทังชีวิต

ขณะนี้ตนป่วยเพราะติดเชื้อเอชไอวี ต้องกินยาต้านเชื้อมานาน 7 ปีแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม ตนก็ต้องสู้เพื่ออนาคตของหลานตาดำๆ ทั้ง 22 คน ให้มีชีวิตอยู่รอดต่อไป ขอบคุณ ดร.กัลยาณี และคณะเจ้าหน้าที่จากส่วนราชการที่เกี่ยวข้องที่เข้ามาให้การช่วยเหลือในครั้งนี้

ทางด้าน ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ ประธานกรรมการสงเคราะห์จังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ ตนได้รับโทรศัพท์ประสานงานมาจากเจ้าหน้าที่ของสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ศรีสะเกษว่า ขอทราบข้อมูลเรื่องนี้ ซึ่งตนได้นำคณะเจ้าหน้าที่ทั้งหมดซึ่งเป็นทีมงานวันโฮม (one home ) ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือ

โดยเจ้าหน้าที่ได้เข้ามาสอบถามข้อมูลรายละเอียดต่างๆ เพื่อที่จะนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการวันโฮม ในการพิจารณาให้ความช่วยเหลือต่อไป ซึ่งตนได้มอบเงินเพิ่มให้อีกจำนวน 2,000 บาท เพื่อให้ยายของเด็กได้เก็บไว้เป็นค่าใช้จ่ายในการซื้อข้าวมาหุงเลี้ยงหลานๆ เพราะยายบอกว่าไม่มีคนช่วยเหลือเลย ขอเงินลูก ลูกก็ไม่ให้ บอกให้ลูกสาวไปทำหมัน ลูกก็ไม่เชื่อฟัง

จากการเห็นสภาพของครอบครัวนี้ เด็กผู้หญิงที่มีลูก 3 คน ก็ไม่มีงานทำ และก็ไม่ได้สนใจในการที่จะออกไปประกอบอาชีพ ซึ่งตนได้บอกลูกสาวของนางเอให้ไปฝึกอาชีพจะได้มีอาชีพช่วยครอบครัว อีกทั้งช่วงนี้ไข้เลือดออกที่จังหวัดศรีสะเกษกำลังระบาด ตนรู้สึกเป็นห่วงเด็กๆ มาก เพราะไม่มีการกางมุ้ง เกรงว่าเด็กๆ จะไม่มีภูมิต้านทานโรค จึงขอฝากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปให้การดูแลช่วยเหลือโดยด่วน