new

 

จากกรณีเรื่องราวของ นางพรพิมล ฤาโอภาส หญิงสูงวัยอายุ 60 ปี ที่เข็นรถเข็นที่มีลูกสาววัย 22 ปี ป่วยเป็นโรคดาวน์ซินโดรม นั่งมาด้วย เดินเท้าไปตามถนนสายมิตรภาพ จากอำเภอเมืองอุดรธานี เพื่อมุ่งหน้าเข้าสู่กรุงเทพมหานคร จนกลายเป็นกระแสข่าวโด่งดังเมื่อสัปดาห์ก่อน น่าเศร้าที่ล่าสุดไม่มีผู้ใดพร้อมจะดูแลหญิงสูงวัยกับลูกสาวป่วยรายนี้

ตามรายงานระบุว่า นางพรพิมล ที่ออกเดินเท้าไปตามถนนสายมิตรภาพ ตั้งแต่วันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา เพื่อเดินทางกลับภูมิลำเนาที่ย่านปากเกร็ด หลังจากที่ญาติทางฝ่ายสามีไม่ยินดียินยอมให้ร่วมอาศัยอยู่ด้วย เนื่องจากสามีเป็นเพียงบุตรบุญธรรมและเสียชีวิตไปแล้ว โดยเมื่อวานนี้ (27 ก.ย.) ทางเจ้าหน้าที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) พยายามช่วยประสานงานติดต่อกับญาติของนางพรพิมล แต่ได้รับการปฏิเสธในการรับดูแลอีก 2 ชีวิต

นางญาณี เลิศไกร อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการฯ เปิดเผยว่า ความคืบหน้าในการช่วยเหลือ นางพรพิมลกับลูกสาวป่วยดาวน์ซินโดรม หลังได้รับที่อยู่ของญาติที่ระบุว่าอาศัยอยู่ที่ย่านปากเกร็ด จ.นนทบุรี ทางเจ้าหน้าที่ได้ไปตามที่อยู่ดังกล่าว แต่ปรากฏว่าเมื่อไปถึงบ้าน พบเป็นเพียงบ้านว่างเปล่า ไม่มีผู้อยู่อาศัย ถูกปิดเอาไว้ตั้งแต่สมัยน้ำท่วมครั้งใหญ่ ปี 2554

หลังจากนั้น ทางเจ้าหน้าที่ได้ติดต่อไปยังญาติที่อาศัยอยู่ จ.สระบุรี มีการพูดคุยประสานงานกัน แต่ทางญาติไม่สะดวกที่รับ นางพรพิมลกับลูกสาว ไปดูแล เนื่องจากมีภาระทางครอบครัวอยู่แล้ว ทั้งนี้ น้องสาวของนางพรพิมลเคยติดต่อเข้ามาทางเบอร์ 1300 แจ้งว่า เคยได้ช่วยเหลือนางพรพิมลอยู่บ้าง แต่เนื่องจากสภาพครอบครัวในปัจจุบันจึงไม่สามารถรับดูแลทั้งสองได้

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดทางบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนนทบุรี ได้พา นางพรพิมลกับลูกสาว ไปตรวจสุขภาพ โดยเฉพาะลูกสาวต้องประเมินความพิการและอาจต้องมีการประชุมทีมสหวิชาชีพเพื่อหาทางที่ดีที่สุด เพื่อทั้ง 2 ชีวิตต่อไป โดยทางเจ้าหน้าที่จะร่วมกันหารือในวันจันทร์นี้