รักสุดปลายฟ้า
บทประพันธ์ : วัตตรา
บทละครโทรทัศน์ : ดอกแก้ว
กำกับการแสดง : คฑาเทพ ไทยวานิช
ควบคุมการผลิต : บริษัท ดวงมาลีมณีจันทร์ จำกัด (จันทร์จิรา จูแจ้ง)
ออกอากาศ : ทุกวันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 18.30 น. ทางช่อง 3
แนวเรื่อง โรแมนติคคอมเมดี้
แมซอน สาวชาวเผ่าเซออนผู้ทะเยอทะยานอยากเป็นชาวกรุง เข้ามาใช้ชีวิตในเมืองตั้งแต่เรียนมัธยมปลาย พร้อมกับมาแดเพื่อนสาวร่วมเผ่า และเพื่อปกปิดความแป็นเซออน ซึ่งอาจกีดกันทั้งคู่ออกจากสังคมคนเมือง แมซอน เปลี่ยนชื่อเป็นม่านฟ้า มาแดเปลี่ยนชื่อเป็นมาริสา สองสาวโลดแล่นบนเส้นทางสายอาชีพในเมืองอย่างเต็มตัว โดยม่านฟ้า ทำงานเป็นครีเอทีฟอิสระให้กับบริษัท เดอะสเปคตรัมเอเยนซี่ผู้มีบุคคลิกคล่องแคล่วปราดเปรียว เปรี้ยวพอประมาณ ส่วนมาริสา ผู้ใฝ่ฝันอยากมีอัลบั้มเพลงของตนเองจึงเลือกเป็นนักร้องประจำผับของเพชรรุ่ง อดีตพระเอกละครพื้นบ้านที่หันมาเปิดผับ ด้วยเสียงที่มีเสน่ห์ของมาริสา ทำให้แฟนเพลงล้นผับทุกคืน
เมื่อฤดูกาลเลือกตั้งประมุขของม่อนฟ้างามมาถึง หัวหน้าทั้ง 5 หมู่บ้านได้แก่ หมู่บ้านปลายฟ้า หมู่บ้านล้อมฟ้า หมู่บ้านต้นฟ้า หมู่บ้านอิงฟ้า และหมู่บ้านเคียงฟ้า ซึ่งหัวหน้าแต่ละหมู่บ้านต่างตกลงกันทุกปีว่าจะต้องมีการเลือกตั้งประมุของม่อน เพื่อเป็นตัวแทนของชาวม่อนในการติดต่อกับทางราชการนักธุรกิจที่จะเข้ามาทำธุรกิจในม่อน รวมทั้งเป็นผู้นำในการทำกิจกรรมตามประเพณีที่ทำสืบต่อกันมา ด้วยการแข่งขันกีฬามหาสนุก เพื่อเก็บเป็นคะแนนสะสม ก่อนถึงวันเลือกตั้งจริง
เม่งซึง หัวหน้าหมู่บ้านเคียงฟ้าไม่พอใจกับการได้ครองตำแหน่งประมุขของกังเซ หัวหน้าหมู่บ้านอิงฟ้าจอมเจ้าเล่ห์ ที่ใช้สารพัดกลโกง จนทำให้ผูกขาดตำแหน่งประมุขติดต่อกันมาโดยที่ไม่เคยทำประโยชน์ให้กับหมู่บ้านอื่นนอกจากหมู่บ้านตนเอง ดังนั้น ปีนี้หมู่บ้านเคียงฟ้าต้องชนะเพื่อเม่งซึงจะได้เป็นประมุขแทนกังเซ เม่งซึงไปปรึกษาผีฟ้าประจำหมู่บ้านให้ช่วยทำนายว่าหมู่บ้านเคียงฟ้าจะชนะการเลือกตั้งหรือไม่ ผีฟ้าบอกจะชนะก็ต่อเมื่อมีคนมาช่วย และคนนั้นต้องมี แผลเป็นรูปดาว 8 แฉกที่หัวไหล่ เม่งซึงกลุ้มใจไม่รู้จะหาคนที่ผีฟ้าส่งมาได้อย่างไร จึงตัดสินใจลงจากดอยเพื่อไปปรึกษาปลัดอำเภอ และได้เห็นข่าวของทัดเทพในหน้ากีฬา มีทัดเทพในชุดกีฬาแขนกุดที่หัวไหล่มีแผลเป็นตรงตามที่ผีฟ้าบอก เม่งซึงไปถามปลัด ปลัดบอกว่าทัดเทพเป็นอดีตนักกรีฑาทีมชาติ อยู่ที่กรุงเทพ เม่งซึงกลับมาปรึกษาไมซันเพื่อนรัก ว่าต้องหาทางให้ทัดเทพมาช่วยฝึกนักกีฬาของหมู่บ้านให้ได้ และคนที่จะไปตามทัดเทพมาก็ต้องเป็นคนที่รู้จักกรุงเทพดีที่สุด ซึ่งก็คือลูกสาวที่รักของเม่งซึงซึ่งก็คือแมซอน หรือ ม่านฟ้า
ขณะที่สองสาวกำลังเพลิดเพลินกับวิถีชาวกรุง ม่านฟ้า และมาริสา ได้รับจดหมายด่วนจากผู้เป็นพ่อมีข้อความว่า ให้รีบกลับเซออนด่วนเพื่อมาช่วยหมู่บ้านเคียงฟ้าให้ชนะการเลือกตั้ง 2 สาวไม่ใส่ใจ เพราะใจจริงทั้ง 2 ยังไม่อยากกลับสู่ถิ่นฐานบ้านเกิด จึงไม่ได้ตั้งใจอ่านข้อความอย่างจริงจัง เมื่อเม่งซึงรอลูกสาวตอบจดหมายไม่ไหว จึงตัดสินใจเดินข้ามเขาอีกลูก เพื่อมาโทรศัพท์หาลูกสาว
ม่านฟ้า ต่อรองพ่อให้คนอื่นช่วยทำแทน อ้างว่างานยุ่งสร้างความหงุดหงิดให้เม่งซึงถึงขั้นประกาศกร้าว”ถ้าไม่ขึ้นมา จะลงไปหาที่กรุงเทพ ไปประจานให้ถึงหน้าบริษัทว่าเป็น ลูกแม้ว” เมื่อกลัวว่าพ่อจะบุกมากรุงเทพ ม่านฟ้าจำยอมรับคำสั่ง และตัดสินใจลาหยุดงานชั่วคราว เพื่อปฏิบัติภารกิจให้ลุล่วง โดยมีมาริสาเพื่อนรักเป็นผู้ช่วยในการออกตามหาทัดเทพ คชาธาน อดีตนักกรีฑาทีมชาติที่กำลังลุ้นรางวัลโค้ชกรีฑากิตติมศักดิ์ มาสอนชาวเซออนให้ได้
เมื่อแมซอนรู้ว่าจะต้องไปตามทัดเทพมาเป็นโค้ช แมซอนจำได้ว่าทัดเทพ คือ นายแบบรองเท้ากีฬาที่เคยมีเรื่องถกเถียงกันไม่นาน เพราะความไร้อารมณ์ของทัดเทพที่มาถ่ายแบบแบบซังกะตาย แมซอนไม่เห็นด้วยกับท่าทางที่ไร้สมรรถภาพมากๆของทัดเทพ และคิดว่าไม่น่าจะฝึกใครได้ แต่เม่งซึงไม่ยอม ยังไงก็ต้องทำตามที่ผีฟ้าบอก ถ้าไม่ยอมไปจัดการ เม่งซึงจะจัดการเอง เจอไม้นี้แมซอนจำต้องยอม
ส่วนทัดเทพที่อดีตเคยประสบอุบัติเหตุบาดเจ็บจนลงแข่งอีกไม่ได้ ทำให้เค้ารู้สึกล้มเหลวไม่อยากพบเจอใครๆ และอยากหนีไปให้พ้นๆ จากสิ่งแวดล้อมเดิมๆแต่ คุณหญิงผอูนผู้เป็นแม่ กลับพยายามหาทางผลักดันลูกชายให้กลับมามีชื่อเสียงอีกครั้ง โดยการเสนอตัวไปถ่ายโฆษณา และพยายามหาทางให้ลูกโกอินเตอร์ด้วยการเป็นโค้ชให้กับสมาคมกรีฑาอาเชี่ยน แต่ทัดเทพไม่สนใจ
ความซังกะตายของ ทัดเทพ ทำให้ คุณหญิงผอูน กลุ้มใจ เทียนชัย พี่ชายคนเดียวกับแม่ ลากทัดเทพ ไปสมัครโค้ชอินเตอร์จนได้ แต่ต้องมีประสบการ์ณมาก่อนอย่างน้อย 2 เดือน ทั้งแม่และพี่ชายพยายามทั้งผลักและดันเพื่อให้กลับมามีชื่อเสียงอีกครั้งเพื่อเอาไว้ต่อยอดธุรกิจของครอบครัว แต่ทัดเทพไม่มีแก่ใจทำอะไรนัก เมื่อนึกถึงอดีตที่ล้มเหลว
เมื่อสาวชาวดอยมายืนเป๋อเหลออยู่หน้าบ้านคชาธาน จึงไม่แปลกใจที่จะถูก แมว สาวใช้จอมชะเลียไล่ตะเพิด แต่ในที่สุด สองสาวบุกเข้าบ้านคชาธานได้สำเร็จ และบอกเหตุผลของการมาให้ทัดเทพ เทียนชัย และ คุณหญิงผอูน สามแม่ลูกได้รับรู้ พร้อมยื่นข้อเสนอที่คิดว่าทัดเทพ ไม่มีทางปฏิเสธ นั่นคือถ้า ทัดเทพ ยอมไปเป็นโค้ชให้ชาวเซออนที่หมู่บ้านเคียงฟ้า ทัดเทพ จะได้รับหนังสือรับรองจากหัวหน้าหมู่บ้านว่าได้ผ่านการทำงานเพื่อสังคม ซึ่ง เท่ากับเป็นใบเบิกทางชั้นดีให้กับรางวัลโค้ชกิตติมศักดิ์ที่ทัดเทพมุ่งหวังนอกจากนี้ยังมีเงินเป็นค่าจ้างให้ด้วย ทีแรก ทัดเทพ ไม่ยอม เพราะถึงอยากจะหลบลี้หนีหน้าผู้คนเพียงใดแต่ก็ไม่ใช่ขึ้นเขาขึ้นดอยให้ลำบาก ผิดคอนเซป! แต่เมื่อคิดได้ว่า ถ้าไปเป็นโค้ชให้หมู่บ้านเคียงฟ้าได้รับชัยชนะ ก็เท่ากับว่าประสบความสำเร็จในการทำงานเพื่อสังคมจริงๆ ทัดเทพ จึงตัดสินใจจะไป แต่ แมซอน และ มาแด ต้องพิสูจน์ว่าเรื่องที่ทั้ง 2 คนพูดมาเป็นความจริง สองสาวจึงบอกให้ ทัดเทพ ขึ้นไปพิสูจน์ที่ม่อนด้วยตัวเอง คืนนี้ คุณหญิงผอูน ปรี๊ดแตกที่สาวชาวดอยชักชวนลูกชายสุดสวาทขึ้นดอยด้วยกลัวว่า ลูกชายจะถูกสาวดอยสอย(ไข่)ดาว จึงยื่นคำขาด “พวกหล่อนต้องเอาชนะฉันกับลูกชายให้ได้ก่อนฉันถึงจะยอมให้ไป”
คุณหญิงผอูน มั่นใจว่า ที่ตัวเองแกล้งให้ แมซอน กับ มาแด เป็นแม่งานจัดโต๊ะแชร์ให้ที่บ้าน โดยให้ใช้เงินเพียง 1 พันบาท เลี้ยงคนเป็นสิบนั้น จะทำให้สองสาวเผ่นกลับดอยโดยไม่สอย(ไข่)ดาวของลูกชายเธอไปด้วย คุณหญิงผอูนเกือบคิดถูก เพราะสองสาวถึงกับปวดหัวตึ้บ ภารกิจหลักยังไม่สำเร็จ ต้องมาเจอภารกิจเสริมเพื่อให้ภารกิจหลักบรรลุ….โอย…ตูอยากจะบ้าตาย แต่ด้วยไหวพริบของ แมซอน กับ มาแด และความช่วยเหลือลับๆของ เทียนชัย พี่ชายแท้ๆของ ทัดเทพ ทำให้ทั้งคู่ทำตามคำสั่งของคุณหญิงผอูนได้สำเร็จ ถึงแม้จะทำให้คุณหญิงถูกเพื่อนไฮไซรุมด่าไปบ้างเพราะเกือบโดนไฟคลอก แต่ก็โอเค…ผ่าน
เย็นวันนั้นเอง ขณะที่ ทัดเทพ กำลังร่ำลาคุณหญิงพร้อมกระเป๋ากองโตที่จะขึ้นดอย ชินานาฏ ลูกสาวคนเดียวของ นำชัย เจ้าของธุรกิจฟิตเนสเซนเตอร์หลายแห่ง และเจ้าของบ่อนการพนัน ที่เทียวไล้เทียวขื่ออยากได้ ทัดเทพ เป็นสามี จนเข้าหน้า คุณหญิงผอูน ไม่ติด ทะเร่อทะร่าเข้ามาปรากฏตัวพร้อมรถอาหารจากภัตตาคารสุดเริ่ดพร้อมกองทัพนักข่าว เนื่องจากได้ข้อมูลผิดๆ จาก แมว ว่าคุณหญิงผอูนจะจัดดินเนอร์ปาร์ตี้ เธอจึงอยากทำคะแนนโดยการสั่งอาหารพร้อมทำข่าวเพื่อแสดงตัวว่าเป็นว่าที่ลูกสะใภ้ตะกูลคชาธานแต่เมื่อทุกอย่างผิดที่ผิดทางและผิดเวลา ชินานาฏจึงต้องล่าถอยไปพร้อมกับความคลางแคลงใจถึงการเดินทางไปทำงานของ ทัดเทพ
ทัดเทพ บ่นที่ต้องนั่งรถทัวร์แทนการนั่งเครื่องบิน ลงจากรถก็ต้องต่อสองแถว ระหว่างการเดินทางเข้าหมู่บ้านความสวยงามของธรรมชาติช่วยทำให้ ทัดเทพ เพลิดเพลินไปกับบรรยากาศและความสวยงามของพระอาทิตย์ยามเย็น ทัดเทพ จึงขอให้รถจอดเพื่อถ่ายรูปตามทาง เมื่อลงรถแล้วก็ต้องเดินเท้าต่อทัดเทพ เริ่มบ่นเมื่อต้องเดินสูงขึ้นเรื่อยๆแต่สองสาวก็ไม่สนใจ จนกระทั่งถึง”ลานสาวน้อย” แม้บรรยากาศจะเริ่มขมุกขมัวเพราะแสงของพระอาทิตย์ยามเย็น แต่ ทัดเทพ ก็ได้เห็นความงามของเนินแห่งนี้ที่ประดับประดาด้วยดอกไม้นานาพันธ์ แมซอน เล่าให้ ทัดเทพ ฟังว่า ลานแห่งนี้ใช้สำหรับพิธีเลือกคู่ โดยหญิงสาวชาวเผ่าที่มีอายุครบ 25 ปี แต่ยังไม่มีคู่ จะมาเข้าพิธีเพื่อเลือกใครซักคนมาเป็นคู่ครอง ทัดเทพ สงสัย ว่ายังมีคนยอมมานั่งให้ใครที่ตัวเองไม่ได้รักเลือกไปทำคู่อยู่อีกเหรอสมัยนี้ แมซอนอธิบายว่าวิถีคนเมืองอาจไม่มี แต่สำหรับเผ่าเซออน “ เขาเชื่อและศรัทธาในสิ่งที่ถูกลิขิต หารักพบได้ด้วยตัวเอง เขาก็เชื่อว่าฟ้าลิขิต หรือ มารอเลือกคู่ได้ ได้คู่แล้ว เขาก็เชื่ออยู่นั่นเองว่าฟ้าลิขิต เผ่าเซออนเป็นเผ่าที่ได้ชื่อว่ามีความซื่อสัตย์กับเรื่องความรักมากที่สุด”
เมื่อทั้งสามมาถึง ทัดเทพ ได้รับการต้อนรับจากเม่งซึง ไมซัน และบรรดาผู้ใหญ่บ้านทั้งหลาย รวมถึงสมาชิกหมู่บ้านเคียงฟ้าที่มารอชุมนุมกันอยู่ ทัดเทพได้รับการต้อนรับด้วยอาหารพื้นเมืองแบบเดียวกับที่ แมซอน และ มาแด ทำเลี้ยงโต๊ะแชร์จนพิชิตใจป้า ๆ ไฮโซ และ คุณหญิง จนสามารถพาทัดเทพ มาขึ้นดอยได้ ทัดเทพรับประทานอาหารโดยไม่มีท่าทางรังเกียจ หรือ มีปัญหากับการกินการอยู่ ทำให้ เม่งซึง ประทับใจ ข่าวการมาของ ทัดเทพ รู้ถึงหู กังเซ ในตอนเช้าวันถัดมาจากการรายงานของสมุน ซาโม และไอโละ 2 สมุนคู่ใจ กังเซ ที่เอาไว้สืบความลับของหมู่บ้านอื่นโดยมี ภรรยาอย่างอองจูผู้มีนิสัยแตกต่างจากสามีลิบลับว่า ไม่ควรไปอยากรู้ว่า ทัดเทพ มาที่หมู่บ้านเคียงฟ้าเพราะอะไร
ขณะที่ ซาโม และ ไอโละ หาทางสืบข่าว ทัดเทพ อยู่นั้น ทัดเทพได้นัดประชุมนักกีฬาที่ลงชื่อไว้ แต่ไม่มีใครมาตรงเวลาเลย จน ทัดเทพ รู้สึกท้อใจ แต่สุดท้ายการประชุมได้เริ่มขึ้นเมื่อ นักกีฬาน้ำหนัก 150 ปอนด์มาถึง โดยมีจาเซ ชายหนุ่มร่างบึ้ก มีพิณเป็นเครื่องดนตรีดู่กาย มินเดี๊ยะ สาวใสเพื่อนวัยเด็กของลูกสาว กังเซ ที่ชื่อ ลูซาน แต่ทั้งคู่ต้องแตกคอกันเมื่อ มินเดี๊ยะ ชนะการประกวดในประเพณีอวดงาม ที่ลูซาน ใฝ่ฝันและ ทั้งคู่กำลังจะมองหน้ากันไม่ติด เพราะต่างฝ่ายต่างอยากเป็นหญิงในดวงใจของทัดเทพ จาก้วยพี่ชายธรรมะ ธรรมโมของมินเดี๊ยะ จ๊อกเซ และ มิงกู สองหนุ่มใหญ่ผู้ชอบดื่มน้ำเมาเป็นชีวิตจิตใจ ทำให้ ไมจู ภรรยาของ จ๊อกเซ และ ปาเด ภรรยาของ มิงกู โมโหอยู่บ่อยๆ และนักกีฬาอื่นอีก 5 คนรวมทั้งหมด เป็น 10 คนเข้าร่วมประชุม โดย เม่งซึง เป็นผู้เปิดปริศนาคำที่กำหนดสำหรับการแข่งขัน ได้แก่ คำว่า ”เอามันไปเผา” “แลกข้าวมากิน” และ”ชีวิตไม่สิ้นต้องดิ้นหาน้ำ” ซึ่งทำให้ ทัดเทพ งุนงงอยู่ไม่น้อย ร้อนถึง แมซอนต้องแจ้นมาดึงทัดเทพไปทำความเข้าใจกับปริศนาต่างๆก่อนที่แมซอนจะอธิบาย ทัดเทพโวยวายว่าเขารับจ้างมาเป็นโค้ชฝึกกีฬาไม่ใช่ฝึกเกมอัจฉริยะที่มีคำปริศนาเป็นตัวกำหนดแบบนี้ แมซอนขอให้ทัดเทพฟังคำอธิบายก่อนที่จะตัดสินใจลาออก
“เอามันไปเผา” คือ การที่นักกีฬาของแต่ละหมู่บ้านต้องบรรทุกหัวมันฝรั่งบ้าง มันเทศบ้าง ใส่ล้อเลื่อนคันเล็กๆที่ออกแบบมาสำหรับการแข่งขันกีฬาโดยเฉพาะ จึงบรรจุมันฝรั่งได้ไม่มากนัก คนควบคุมล้อเลื่อนต้องรักษาหัวมันไว้ให้เหลือถึงเส้นชัยให้ได้มากที่สุด นักกีฬา 10 คนจะเอาหัวมันลงไปใส่เข่งได้มากแค่ไหน หมู่บ้านไหนได้น้อยที่สุดคัดออกเป็นหมู่บ้านแรก เมื่อไปถึงเส้นชัย กรรมการ จะนับจำนวนมัน คัดคนแพ้ออกแล้ว เมื่อยกตระกร้ามันขึ้น ใต้ตระกร้าจะมีคำกลอนปริศนา สำหรับเก็บไว้ไปต่อกับปริศนาอื่นๆ เมื่อครบประโยค นั่นหมายถึงสิ่งที่หัวหน้าหมู่บ้านต้องทำการแข่งกัน ถ้าลูกบ้านสะสมปริศนาให้แล้ว หัวหน้าหมู่บ้านทำตามไม่สำเร็จ ก็ถือว่าหัวหน้าหมู่บ้านไม่มีความสามารถ โดยจะถือคำตัดสินของกรรมการหูหนวกทั้งสิบเป็นคำชี้ขาด
“แลกข้าวมากิน” เป็นปริศนาต่อเนื่องจาก “เอามันไปเผา” หัวมันในตะกร้ามากน้อยแค่ไหนก็ตาม มันจะเป็นส่วนหนึ่งที่ไปเสริมกำลังให้กับนักกีฬาของหมู่บ้าน ในการชักรอกข้าวทั้งกระสอบจากพื้นให้ขึ้นไปลอยอยู่บนคาน โดยเชือกที่ชักรอกนั้นถูกทาน้ำมันพืชไว้แล้ว เมื่อชักข้าวขึ้นไปได้แล้ว ต้องให้นักกีฬาปีนเสาน้ำมันไปเอาคำปริศนาที่ติดอยู่ที่กระสอบข้าวลงมา หมู่บ้านที่ชักขึ้นเป็นหมู่บ้านสุดท้าย หรือ ไม่สามารถชักขึ้นได้ ก็จะได้ข้าวไปกินแต่ไม่ได้เข้ารอบ
“ชีวิตไม่สิ้นต้องดิ้นหาน้ำ” สนามแข่งเกมนี้อยู่ที่หมู่บ้านเคียงฟ้า ที่ถือว่าใกล้ลำธารที่สุด ระยะทางไม่ถึงหนึ่งกิโลเมตร นักกีฬาทั้งหมดต้องรับช่วงหิ้วน้ำส่งจากลำธารจนถึงลานเก็บน้ำ แต่ละหมู่บ้านต้องหาวิธีรักษาน้ำให้ได้มากๆ และไม่หกทิ้งแม้จะถูกกลั่นแกล้ง
เมื่อทัดเทพเข้าใจคำปริศนาของทั้ง 3 เกมแล้ว แมซอนกับทัดเทพจึงกลับเข้าร่วมประชุมโดยไม่รู้เลยว่า บัดนี้สองสมุนกังเซที่ซุ่มฟังการพูดคุยของทั้งคู่แต่ต้น ได้คำตอบถึงการมาของทัดเทพให้กังเซผู้เป็นนายซะแล้ว ทันที่ที่กังเซได้รับรายงานจากลุกน้องถึงกับอึ้ง เพราะไม่คิดว่าหมู่บ้านเคียงฟ้าจะลงทุนจ้างโค้ชและเพื่อเป็นการสกัดคู่แข่งที่จะมาแย่งตำแหน่งประมุข กังเซวางแผนก่อกวนนักกีฬาของเคียงฟ้าโดยมี ตองยี ลูกชายจอมเกเร พี่ชายของลูซาน ร่วมขบวนการด้วย
ขณะที่พวกกังเซคิดแผนร้าย ทัดเทพก็ได้สร้างค่ายกีฬาของหมู่บ้านเพื่อให้นักกีฬาเก็บตัว และสะดวกในการฝึกซ้อม ทัดเทพพยายามอย่างหนักในการกระตุ้นให้นักกีฬาฝึกซ้อม แต่ดูจะไม่เป็นผลเท่าที่ควร หนำซ้ำ ยังถูกข้าศึกทั้งภายนอก และ ภายในโจมตี ศึกภายนอก คือ พวกกังเซส่งคนมาเผาค่ายกีฬาที่ทัดเทพสร้างจนได้รับความเสียหาย ศึกภายในที่ไม่มีใครรู้นอกจากแมซอน และมาแด คือ การที่แมซอนใส่ยาถ่ายให้นักกีฬาดื่ม เพื่อใช้เป็นข้ออ้างในการหาวันพักจากการฝึกซ้อมอย่างสุดโหดของทัดเทพ
ทัดเทพต้องรบกับคนเจ้าเล่ห์ขี้เกียจซ้อมสารพัดรูปแบบ และเพราะความเครียด กังวล และใช้กำลังกาย กำลังใจหักโหมเกินไป ทำให้ทัดเทพถึงกับไข้ขึ้นสูง ลุกไม่ขึ้น สองสามวันที่ทัดเทพต้องนอนพัก เม่งซึง กับไมซันหมุนเวียนกันมาดู แมซอนเองก็แทบจะไม่ได้นอนในคืนแรกๆ ที่ทัดเทพไข้ขึ้น เพราะต้องลุกขึ้นมาเช็ดตัวลดไข้ให้ทุกชั่วโมง แม้จะเหนื่อยและอ่อนล้า แต่แมซอนก็รู้สึกเต็มใจที่จะดูแลทัดเทพ เพราะลึกๆ แมซอนเริ่มรู้สึกวูบวาบกับทัดเทพอย่างประหลาด ทัดเทพเองก็ซึ้งในน้ำใจแมซอน และรู้สึกมีความสุขที่ได้อยู่ใกล้แมซอน ถึงจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ที่ได้รู้จักกัน แต่ทัดเทพก็สัมผัสได้ถึงความสุขเล็กๆที่ได้พูดคุยใกล้ชิดกับสาวชาวดอยคนนี้ แต่เมื่อนึกถึงความจริงที่ว่าคุณหญิงผอูนผู้เป็นแม่ไม่มีวันรับสาวชาวดอยอย่างแมซอนเข้าบ้านในฐานะลูกสะใภ้ ส่วนตัวทัดเทพเองก็คงยากที่จะให้ทิ้งความสบายของเมืองกรุงมาอยู่กับแมซอน ทัดเทพจึงต้องรีบจัดการกับความรู้สึกของตัวเองโดยเร็ว และ เพื่อกันการเตลิดของหัวใจ ทัดเทพจึงทำเฉยเมยกับแมซอนแบบหน้ามือเป็นหลังมือทันทีที่หายจากอาการป่วย สร้างความงุนงงให้กับแมซอนเป็นอย่างยิ่ง
การฝึกซ้อมนักกีฬาของทัดเทพยังคงดำเนินต่อไป โดยที่พวกกังเซยังคงหาทางป่วนต่างๆ นานา จนเกือบทำให้ มิงกู และ จ็อกเซ แตกคอกันเพราะความเข้าใจผิด โชคดีที่แมซอน มาแด และทัดเทพ สืบจนรู้และเปิดโปงแผนชั่วของกังเซได้ทันเวลา แมซอนใช้จังหวะนี้ปลุกระดมชาวเคียงฟ้าให้เห็นว่าคู่แข่งอย่างกังเซพยายามที่จะทำให้เคียงฟ้ามีอุปสรรค และสร้างความระส่ำระส่ายให้เกิดในหมู่นักกีฬา ดังนั้น ชาวเคียงฟ้าต้องรัก, สามัคคี และตั้งใจฝึกซ้อมอย่างเต็มที่เพื่อชัยชนะ การปลุกระดมเป็นผล นักกีฬาพากันฮึกเหิมที่จะคว้าชัยชนะจากการแข่งขัน
ที่บ้านคชาธาน คุณหญิงผอูนกำลังหงุดหงิดกับการตื้อไม่เลิกของชินานาฎที่อยากรู้ว่าทัดเทพไปเป็นโค้ชให้ที่ไหน แต่คุณหญิงไม่ปริปากบอก ชินานาฎจึงกำชับแมวให้คอยแอบฟังเวลาคุณหญิงผอูนกับเทียนชัยคุยกัน เผื่อจะรู้ว่าทัดเทพไปที่ไหน แมวบอกว่าแมวรู้ว่า ทัดเทพไปเผ่าเซออน ชินานาฎแว้ดใส่แมวที่รู้แล้วไม่บอก ก่อนจะรีบแจ้น กลับไปหาข้อมูลเตรียมไปหาทัดเทพ
ในที่สุดก็มาถึงวันแข่งขันครั้งสำคัญของชาวเซออน เกมแรก “เอามันไปเผา” เริ่มต้นขึ้น โดยหมู่บ้านอิงฟ้ายังคงใช้วิธีการโกงเช่นเดิม เมื่อจบเกมแรกปรากฎว่าหมู่บ้านเคียงฟ้า, หมู่บ้านอิงฟ้า และหมู่บ้านปลายฟ้า ได้หัวมันเกินร้อยในเข่ง ได้รับใบปริศนากันทั้งสามหมู่บ้าน แต่ตองยี ซึ่งเป็นผู้แทนของหมู่บ้านอิงฟ้า อ่านหนังสือไม่แตกฉาน จึงอ่านข้อความได้อย่างกระท่อนกระแท่น ในขณะที่ตัวแทนบ้านปลายฟ้าอ่านไม่ได้ความเช่นกัน ผิดกับแมซอน ตัวแทนหมู่บ้านเคียงฟ้า อ่านได้ถูกต้อง ชัดถ้อยชัดคำ และได้ใจความ หมู่บ้านเคียงฟ้าจึงได้หนึ่งคะแนนนำไปก่อนหมู่บ้านอื่นๆ
กังเซ เม่งซึง และหัวหน้าหมู่บ้านปลายฟ้า ต่างให้สมุนคนสนิทหาของปริศนาแรกกลับมาให้ทันก่อนธูปหนึ่งดอกดับ ถ้ากลับมาไม่ทันก็จะทำปริศนาที่สองและสามไม่ได้ โดยกังเซติดสินบนคณะกรรมการไว้คนละหลายพันบาท แลกกับการที่ให้สมุนของเขาไปหาดาบงามได้ง่ายและเร็วที่สุด
การแข่งขันยังคงดำเนินต่อไป ที่ลาน “แลกข้าวมากิน” โดยผู้แทนบ้านเคียงฟ้า ส่งแมซอน และมาแด ลงแข่ง ชาวบ้านต่างส่งเสียงโห่เพราะไม่เชื่อว่าสองสาวจะทำได้ ในขณะที่หมู่บ้านปลายฟ้าเลือกนักกีฬาตัวเจ๋งมาลงก่อน ส่วนหมู่บ้านอิงฟ้า ส่งตองยีและสมุนมือดีของกังเซอีกหนึ่งคนมาแข่ง ผลการแข่งขันรอบแรกไม่มีใครชักรอกขึ้น ดังนั้นคู่ต่อมาจึงเป็นคู่ของจาเซกับจาก้วย ความหวังชาวเคียงฟ้า ส่วนคู่ของไอโละกับซาโม เป็นความหวังของบ้านอิงฟ้า ส่วนหมู่บ้านปลายฟ้าที่ส่งนักกีฬาเด็ดลงไปเป็นคู่แรกแล้วก็หมดหวังเพราะคนที่เหลืออยู่มีแต่พวกป้อแป้อ่อนแรง ถึงแม้จาเซกับจาก้วยจะถูกไอโละกับซาโมกลั่นแกล้ง ชัยชนะรอบนี้ก็เป็นของหมู่บ้านเคียงฟ้าอย่างใสสะอาด ที่ชักรอกกระสอบข้าวขึ้นถึงคานก่อน แล้วของหมู่บ้านอิงฟ้าจึงชักขึ้นพร้อมๆ กับที่กะลาจมน้ำ ทั้งสองจึงได้รับสิทธิ์ปีนเสาน้ำมันไปเก็บคำปริศนา ตองยีรู้ว่าฝ่ายตนต้องชนะแน่จากการหาของในคำปริศนา จึงยอมยกคะแนนอ่านคำปริศนานี้ให้แมซอนไป เพราะไม่อยากขายหน้าเวลาอ่านหนังสือผิด
เมื่อแมซอนอ่านปริศนาที่สองจบ มินเดี๊ยะอาสาเป็นตัวแทนของหมู่บ้านเคียงฟ้าจะไปหาฟัก โดยมินเดี๊ยะก็มีกลโกงที่ไม่ยอมบอกใคร โดยวิ่งกลับที่เรือนของตน หยิบฟักที่เก็บเตรียมส่งขายได้ และคว้าลิปสติกมาป้ายให้มีสัญญลักษณ์สีแดงเหมือนกับฟักปริศนา ก่อนจะรีบนำฟักวิ่งกลับมา ใช่ว่ามินเดี๊ยะจะโกงฝ่ายเดียว กังเซที่ทำเป็นสั่งการกับสมุนของเขาให้นำฟักมาให้ได้ก่อนกะลาจะจมน้ำ ก็เสียเงินให้คณะกรรมการไปหลายพันกับปริศนานี้ และฟักที่ออกตามหาก็พร้อมรอพวกกังเซอยู่ริมทางแล้ว สมุนของกังเซจึงนำฟักกลับมาได้ในเวลาสั้นๆ
ก่อนที่ธูปจะหมดดอก สมุนของกังเซเดินแบกดาบซึ่งเป็นของปริศนาแรกกลับมา ส่วนตัวแทนหมู่บ้านปลายฟ้าก็กลับมาแต่ก็ต้องเข่าอ่อน เพราะมารู้ข่าวว่าหมู่บ้านตนตกรอบสองไปแล้ว ชาวหมู่บ้านเคียงฟ้าลุ้นระทึกเพราะถ้าธูปหมดดอกโดยผู้แทนหมู่บ้านตนยังนำดาบกลับมาไม่ได้ก็จบกัน และโดยไม่มีใครคาดคิด ไมซันแบกดาบขี่ม้ากลับมาถึงสนามอย่างทันท่วงที วางดาบให้คณะกรรมการเสร็จ ธูปก็ดับลง สร้างความดีใจให้กับชาวเคียงฟ้าอย่างมาก
การแข่งขันสุดท้ายเริ่มขึ้น “ชีวิตไม่สิ้นต้องดิ้นหาน้ำ” ไอโละกับซาโมวางกำลังคนไว้คอยกลั่นแกล้งนักกีฬาของหมู่บ้านเคียงฟ้าจนถึงกับมีเรื่องไล่ซัดกันนัวเนียจนทำให้เสียแรงเสียเวลา แมซอนซึ่งเป็นหนึ่งในผู้แข่งขันแทบจะลมจับ เมื่อสองสาวหาบน้ำที่เหลือมาเทใส่ถังที่ขีดเส้นปริมาณไว้ แล้วเห็นว่า เธอทั้งสองทำได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ทัดเทพให้กำลังใจ และเผลอตัวเข้าไปปาดเหงื่อให้แมซอน แมซอนยิ้มให้ด้วยความดีใจที่ชายหนุ่มเอาใจใส่ตัวเอง แต่แล้วทัดเทพก็นึกขึ้นได้ว่าเขาไม่ควรจะไปสร้างความเข้าใจผิดให้แมซอน จึงทำหน้าเฉยเมยและรีบเดินหนีไป ทิ้งให้แมซอนทั้งสงสัยและหงุดหงิดในพฤติกรรมของทัดเทพ แต่หงุดหงิดได้ไม่นาน มาแดก็เตือนสติให้มุ่งความสนใจที่การแข่งกีฬาก่อน
ผลการตัดสินแข่งขันเก็บคะแนนมาทั้งหมดกลายเป็นเสมอกัน ทั้งๆที่หมู่บ้านเคียงฟ้าคะแนนนำอยู่ แต่เพราะกังเซติดสินบนคณะกรรมการด้วยโทรศัพท์มือถือคนละเครื่อง ไม่มีใครรู้เรื่องสินบนนี้นอกจากอองจูที่แอบมาดูการแข่งขันอยู่ห่างๆ และยังไม่หายสงสัยว่า บนม่อนฟ้างามไม่มีเสาสัญญาณโทรศัพท์ และคนใบ้จะใช้มือถือได้อย่างไร และให้เกิดประโยชน์ได้อย่างไร
ทัดเทพเป็นผู้อ่านปริศนาสุดท้าย ซึ่งเม่งซึง และกังเซต้องประลองความเร็วและแม่นยำในการจัดการกับฟักให้ได้มากชิ้นที่สุด ในช่วงเวลาหนึ่งกะลาเล็กๆ จากการโกงของกังเซ เมื่อกรรมการนับชิ้นฟัก เม่งซึงจึงเป็นฝ่ายแพ้
เมื่อแข่งเกมส์แพ้แต่ใจไม่แพ้ ถึงเวลาที่ผู้เข้าแข่งขันทั้งหมดต้องลงสนามเลือกตั้งปรากฏว่า เม่งซึง และกังเซ มีคะแนนจากหีบบัตรที่เสมอกัน แต่ด้วยความเป็นสุภาพบุรุษของเม่งซึง เม่งซึงตัดสินใจให้กังเซเป็นผู้ชนะการเลือกตั้ง คนทั้งเซออนงงกับการตัดสินใจของเม่งซึง เพราะคะแนนเป็นเสมอทำไมไม่ลองเลือกอีกซักรอบเพื่อตัดสิน เม่งซึงผู้ซึ่งรักความถูกต้องได้บอกกับชาวเคียงฟ้าว่า “เมื่อวานเค้าชนะเกมส์” สิ้นคำ เสียงปรบมือกึกก้องทั่วทั้งบริเวณ เม่งซึงแพ้เกมส์ แต่ไม่แพ้ใจ
ทัดเทพถือโอกาสสร้างความเชื่อของชาวเซออนที่ว่า ตัวเขามาเป็นส่วนหนึ่งของที่นี่ อาจจะเป็นคนที่ฟ้าประทานมา ทัดเทพเสนอให้แต่งตั้งคณะกรรมการไว้คอยตรวจสอบการทำงานของกังเซ เพื่อชาวม่อนจะได้มีส่วนร่วมในการปกครอง และโอกาสอันดีนี้เองที่เห็นชาวบ้านยอมรับในตัวเม่งซึง เม่งซึงจึงให้กังเซสาบานต่อหน้าผีฟ้า(คือท้องฟ้า)ว่า จะบริหารเซออนอย่างมีศักดิ์ศรี ถูกต้อง และยุติธรรม ไม่คอรัปชั่นหาประโยชน์จากการที่จะขายดอยให้กลายเป็นสนามกอล์ฟที่สูงที่สุดในโลก กังเซรู้สึกหน้าเสียเหมือนตัวเองถูกรุมประชาฑัณท์ ความผิดที่ผ่านมาถูกรื้อฟื้นในวันนี้ ถ้าเขาไม่รับเห็นทีจะต้านแรงชาวม่อนไม่ไหว แต่จริงๆ ทั้งโกรธ ทั้งอาย ที่ถูกเม่งซึงประจานต่อหน้าชาวม่อนฟ้างาม กังเซยอมตกปากรับคำ(อย่างเสียมิได้)จะทำตามที่สัญญา วันนี้จึงกลายเป็นการเริ่มต้นปรับวิธีการปกครองม่อนฟ้างามใหม่ ที่ต้องบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ของชาวเซออน
นับเป็นวันแรกที่ทัดเทพรู้สึกสบายใจสำหรับการมาอยู่บนม่อนฟ้างามนี้ เพราะไม่ต้องตื่นมาแต่เช้ามืดเพื่อผจญภัยกับเหล่านักกีฬา แม้ว่าจะรู้สึกมึนๆและตื่นเต้นกับเรื่องราวที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ และเขาได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของหมู่บ้านเคียงฟ้าไปแล้ว เมื่อเม่งซึงถามว่าจะกลับกรุงเทพเลยมั้ย เขาบอกว่าอยากเที่ยวให้ทั่วม่อนเสียก่อน ไหนๆมาแล้ว จะได้ศึกษาชีวิตชาวเซออนให้ละเอียด เขามองไปทางแมซอนด้วยสีหน้าเรียบ ทั้งๆที่อยากยิ้มให้เธอ
ชินานาฏเดินทางมาถึงม่อนฟ้างามโดยความช่วยเหลือจากจาเซที่ตกหลุมรักชินานาฏทันทีที่ได้พบเมื่อความรักบังตา จาเซทั้งๆที่รู้ว่าชินานาฏมาหาทัดเทพที่เธออ้างว่าเป็นคนรัก จึงยังไม่พาไปพบทัดเทพทันที เพียงเพราะอยากอยู่ใกล้ จึงพามาที่เรือนพักนักกีฬา หาข้าวปลาอาหารให้ ตบท้ายด้วยเหล้าจากเซออน เมื่อบรรยากาศเป็นใจ อารมณ์พาไป จาเซมีใจ ถึงแม้ชินานาฏจะไม่คิดอะไร แต่ทั้งคู่ก็มีสัมพันธ์กันในคืนนั้นเอง จาเซเหมือนโดนของ หลงรักชินานาฏหัวปักหัวปำ แต่เป้าหมายของชินานาฏ คือทัดเทพ ชินานาฏอ้อนจาเซให้ช่วยวางแผนจัดฉากให้ชินานาฏกับทัดเทพดูเหมือนมีอะไรกัน เพราะตั้งใจจะส่งคลิปหลุดให้ทางกรุงเทพ เอาไว้แบลคเมล์คุณหญิงผอูนที่หวงลูกชายนักหนา เม่งซึงที่แอบชื่นชมทัดเทพวาดหวังว่าซักวันแมซอนอาจโชคดีได้คนดีๆ อย่างทัดเทพไว้เป็นคู่ ถึงกับเศร้าใจที่เห็นภาพของทัดเทพและชินานาฏกอดก่ายกันอยู่เบื้องหน้า เม่งซึงขอให้ทัดเทพออกจากเคียงฟ้าในทันที ความเด็ดขาดของเม่งซึงทำให้ทัดเทพไม่กล้าคัดค้าน แต่คนที่ลึกๆแล้วเสียใจ เหมือนอกหักดังเป๊าะ และ ไม่อยากเห็นหน้าทัดเทพ คือ แมซอน แมซอนเดินปล่อยใจมาเรื่อยๆ จนถึงหมู่บ้านปลายฟ้าเดินผ่านหน้าบ้าน บาจอ เพื่อนวัยเด็ก ที่เคยลงจากม่อนไปเรียนหนังสือด้วยกัน แต่ได้แยกย้ายกันไปเกือบ 10 ปี แต่วันนี้ได้เจอกันโดยบังเอิญที่บ้านบาจอ บาจอเห็นหน้าเพื่อนเก่า รู้สึกดีใจมากเป็นพิเศษ เพราะแท้จริงแล้ว บาจอ แอบหลงรักม่านฟ้ามาเป็นเวลานาน
เมื่อทั้งชินานาฏและทัดเทพกลับถึงบ้าน ชินานาฏถึงขั้นประกาศตัวกับคุณหญิงผอูนว่า มีอะไรกับทัดเทพบนดอย ฉะนั้น คุณผอูนควรพิจารณา ว่าที่ลูกสะใภ้คนนี้ไว้ด้วย จะจัดงานแต่งงานเมื่อไหร่ “พร้อม” ทัดเทพ ความวัวไม่ทันหาย ความควายเข้ามาแทรก หลังจากที่ชินานาฏตุ๊ดตู่ว่ามีอะไรกัน เธอก็เช้าถึงเย็นถึงเกือบทุกวัน จนทำให้คุณหญิงผอูนหงุดหงิด ที่ลูกชายถูกจับทำผัวกับผู้หญิงที่ตัวเองไม่อยากได้เป็นสะใภ้
ม่านฟ้า(แมซอน) มาริสา(มาแด) บารมี(บาจอ) กลับเข้าเมืองด้วยหัวใจที่บอบช้ำ แพ้ทั้งเกมส์ แพ้ทั้งใจ เมื่อความแค้นของม่านฟ้าต้องการการชำระ ดังนั้น เมื่อจันทร์ฉายAE ประจำบริษัท เรียกให้ม่านฟ้าเข้าประชุมรับงานใหม่ ซึ่งเป็นงานบริษัท ที่บารมีทำงานอยู่ และต้องการให้เธอทำแคมเปญโฆษณาที่มีความแปลกใหม่ทั้งในแง่ตัวพรีเซนเตอร์และเนื้อหาโฆษณา ม่านฟ้าจึงรับงานทันที เพราะม่านฟ้าจะหาเหตุให้ทัดเทพ และครอบครัวของเขาได้มาเกี่ยวข้องกับงานนี้ และแผนการก็ดำเนินไปแบบที่ม่านฟ้ามุ่งหวัง นั่นคือ ลูกค้าเลือกทัดเทพเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ตามที่ม่านฟ้าเสนอไอเดียไป
การที่ได้เป็นพรีเซนเตอร์สินค้า ทำให้คุณหญิงผอูนปลาบปลื้ม และปลื้มหนักขึ้น เมื่อคุณหญิงเล็งเห็นว่าถ้าขอเพิ่มข้อความในสัญญาว่าจ้างทัดเทพ โดยระบุว่า ”ห้ามทัดเทพแต่งงานตลอดอายุสัญญาการเป็นพรีเซนเตอร์” จะเป็นวิธีที่จะถ่วงเวลาไม่ให้ทัดเทพต้องแต่งงานกับชินานาฏ โดยไม่รอช้าคุณหญิงเชิญม่านฟ้ามาทานข้าวเพื่อพูดคุยเรื่องการเพิ่มข้อสัญญาทันที
การปรากฏตัวของม่านฟ้า สร้างความตื่นตะลึงให้กับคนในบ้านคชาธานโดยเฉพาะทัดเทพเป็นอย่างมาก เพราะหน้าตาของม่านฟ้าเหมือนกับแมซอนราวกับเป็นคนเดียวกัน จะต่างก็ตรง ท่าทาง กิริยา มารยาท การพูดจา การแต่งกาย ที่ต่างกันราวฟ้ากับดิน
ความใกล้ชิดจากการได้ทำงานร่วมกัน และความตั้งใจจะแก้แค้นของม่านฟ้า ทำให้ทัดเทพหลงรักม่านฟ้าในเวลาอันรวดเร็ว และยิ่งคุณหญิงปลื้มมากเท่าไหร่ ทัดเทพก็ยิ่งมั่นใจว่าเส้นทางความรักของเขากับม่านฟ้าจะไม่มีอุปสรรคอย่างแน่นอน ทัดเทพสานต่อความรู้สึกกับม่านฟ้า โดยไม่ทันระแวงว่าม่านฟ้ากับแมซอนคือคนเดียวกัน ต่างกับเทียนชัยที่คอยลอบสังเกตุพฤติกรรมของม่านฟ้า จนได้รู้ว่าแท้จริงม่านฟ้าคือแมซอน แต่เทียนชัยเลือกที่จะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ
ความรักของม่านฟ้ากับทัดเทพกำลังเข้มขึ้นเรื่อยๆ เช่นเดียวกับความรู้สึกของบารมีที่มีต่อมาริสาก็เริ่มงอกงาม และยิ่งเด่นชัด เมื่อบารมีได้มีโอกาสช่วยมาริสาให้รอดพ้นจากการเกาะแกะของเพชรรุ่ง (เจ้าของผับ) ที่หวงมาริสา เมื่อเห็นบารมีที่มาเฝ้ามาริสาทุกวัน ผิดกับเส้นทางความรักของชินานาฏกลับแย่ลงเรื่อยๆ เพราะทั้งทัดเทพและคุณหญิงผอูนพากันปลื้มม่านฟ้าออกนอกหน้า ถึงชินานาฏจะหาทางแกล้งม่านฟ้ายังไง ม่านฟ้าก็พลิกเกมส์กลับมาเรียกคะแนนจากทัดเทพและคุณหญิงได้ทุกครั้ง
ในขณะที่หัวใจของชินานาฏกำลังเสียสูญจากทัดเทพ จาเซได้ตัดสินใจลงมาหาชินานาฏด้วยความรักและคิดถึง และความมุ่งมั่นก็พาจาเซมาถึงบ้านชินานาฎ ชินานาฎตกใจที่เห็นจาเซ จึงแว้ดใส่ไม่ยั้ง จาเซอ้างคำที่ชินานาฎเคยบอกเขาไว้ว่า ถ้าเขามากรุงเทพฯเมื่อไหร่ ชินานาฎจะพาเที่ยว แต่ยังไม่ทันได้คุยอะไรกันมาก ชินานาฎก็เกิดคลื่นไส้อาเจียน จาเซปรี่เข้าดูแลไม่ห่าง ปากก็พร่ำบอกความเชื่อของชนเผ่าเซออนว่า ถ้าคนเซออนได้คนไหนเป็นเมียแล้วต้องดูแลไปตลอดชีวิต ชินานาฎเบื่อจะฟัง ซ้ำยังกำชับจาเซว่าห้ามปริปากบอกพ่อของเธอถึงความสัมพันธ์ของเธอกับเขา โดยที่ชินานาฎและจาเซไม่รู้เลยว่า นำชัยเห็นและได้ยินเรื่องราวทั้งหมดแล้ว
เมื่อผลการตรวจชี้ชัดว่าชินานาฎตั้งท้อง ชินานาฎจึงพาตัวเองไปบ้านคชาธานเพื่อเรียกร้องให้ทัดเทพรับผิดชอบ ขณะเดียวกันนั้นเอง นำชัยซึ่งธุรกิจกำลังมีปัญหาอย่างหนักต้องรีบหนีไปแคนาดา ได้ฝากให้จาเซซึ่งบัดนี้ได้ถูกชินานาฎปรับลุคการแต่งกายให้เป็นหนุ่มเมืองกรุงเต็มตัว พาชินานาฎขึ้นไปอยู่ที่ม่อนเพื่อความปลอดภัย โดยนำชัยได้มอบเงินจำนวนนึงให้กับจาเซด้วย จาเซรีบไปที่บ้านทัดเทพเพื่อแสดงตัวว่าเป็นสามีของชินานาฎ ก่อนจะพาชินานาฎออกมาและเล่าเรื่องของนำชัยให้ฟัง ชินานาฎเสียใจอย่างหนักกับโชคชะตาของตัวเอง และยอมขึ้นม่อนกับจาเซ
เรื่องของชินานาฎจบลง แต่ความฝันของมาริสาเพิ่งจะเริ่มต้น มาริสากำลังจะได้เป็นศิลปินมีอัลบั้มของตัวเอง เพราะเธอบังเอิญได้ช่วย นิธาน เจ้าของค่ายเพลงที่ศรัทธาความเชื่อเรื่องรักเดียวใจเดียวของเผ่าเซออน ให้รอดพ้นจากอาการหัวใจวาย และยังช่วยให้ครอบครัวของนิธานเข้าใจกัน มาริสาดีใจกับฝันที่กำลังจะเป็นจริง แต่ก็ต้องเศร้าใจที่จู่ๆ บารมีก็หายไปจากเธอ พร้อม กับการหายไปของม่านฟ้า มาริสาคิดเอาเองว่าทั้งคู่คงไปด้วยกัน แต่มาริสาคิดผิด เพราะที่จริงแล้ว บารมีแอบไปทำงานเก็บเงินก้อนใหญ่ไว้สู่ขอมาริสา ส่วนม่านฟ้ากลับขึ้นม่อนมาใช้ชีวิตอย่างแมซอนเพื่อให้เวลาทัดเทพได้คิดว่าคนที่เขารักคือม่านฟ้าหรือแมซอน และให้เวลาตัวเองได้คิดว่าสิ่งที่เธอทำอยู่เป็นสิ่งที่ถูกต้องหรือไม่ ที่ใช้ตัวตนของม่านฟ้าเรียกร้องความรักให้กับแมซอน เพราะผลลัพท์ที่ออกมาคงไม่ต่างกัน เพราะม่านฟ้า ก็คือ แมซอน สาวชาวเซออน อยู่ดี
มาริสากลับขึ้นม่อนด้วยหัวใจที่แตกสลาย และ ตัดสินใจแล้วว่า เธอจะไม่กลับไปทำงานกรุงเทพอีก เธอจะใช้วิชาความรู้มาพัฒนาเผ่าของเธอ ผลิตสินค้าOTOP ทำให้ชาวเผ่ามีอาชีพ ไม่ต้องไปหาทำงานในเมือง และเธอก็ได้พบความจริงอีกด้วยว่าแมซอนไม่ได้หายไปกับบาจอ สองสาวจึงเคลียร์ใจและทำใจที่ต้องขึ้น”ล านสาวน้อย”ในอีก 2 วันตามประเพณีของเซออน
วันงานประเพณีขึ้นลานสาวน้อย ขณะที่สาวอื่นๆ ในพิธีเลือกคู่ไปหมดแล้ว คงเหลือแต่แมซอน และมาแด ที่ไม่ยอมเลือกใคร สองสาวเริ่มหมดหวัง และพร้อมรับชะตาที่ต้องเป็นสาวแก่ไปตลอดชีวิต บาจอก็แสดงตัวต่อหน้ามาแด และแมซอน แมซอนรีบลุกหนีเพราะกลัวบาจอจะมาขอเธอ ซึ่งจะทำให้มาแดเสียใจ แต่บาจอก็ประกาศว่าผู้หญิงที่เขารักและต้องการแต่งงานด้วยคือ มาแด แมซอนมองคู่ของมาแดและบาจออย่างมีความสุข แต่ก็อดสะท้อนใจไม่ได้กับชะตาความรักของเธอ แต่จู่ๆ ทัดเทพในคราบหนุ่มชาวเผ่าก็มาเลือกแมซอนเป็นคู่ แมซอนประหลาดใจมาก แต่ก่อนที่แมซอนจะได้ถามอะไร ทัดเทพก็ชิงบอกทุกคนถึงความรักที่เขามีต่อแมซอน พร้อมสวมแหวนให้แมซอนเพื่อประกาศความเป็นเจ้าของหัวใจ ถึงแมซอนจะดีใจกับความรักที่สมหวัง แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าคุณหญิงผอูนจะยอมรับตัวตนของเธอหรือไม่ ทัดเทพจึงบอกว่าความรักเป็นเรื่องของคนสองคน และยังบอกอีกว่าเขาจะมาช่วยเธอพัฒนาชุมชน จะฝึกฝนนักกีฬาของหมู่บ้านให้เก่งและลงแข่งกีฬาระดับประเทศให้ได้
ผอูนไม่ยอม ค้านหัวชนฝาที่ลูกชายจะย้ายไปอยู่กับแมซอนบนดอย แต่เทียนชัยกลับสนับสนุนเป็นสปอนเซอร์ทีมกีฬาของชาวเผ่าไปแข่งระดับภาคชนะเลิศ ทำให้มีชื่อเสียงโด่งดัง ทัดเทพกับแมซอนก็มีชื่อเสียงดังกว่าเก่า ผอูนเลยคิดใหม่…และเปลี่ยนใจไม่กีดกันแถมเชียร์สุดตัวอีกต่างหากทั้ง 2 จึงได้แต่งงานกัน
แมซอนกับมาแด ไม่ปิดบังใครอีกต่อไปแล้วว่าเป็นชาวเซออน มาแดออกเทปเพลงภาษาเซออนจนโด่งดัง ส่วนแมซอนก็ใช้ความสามารถทางครีเอทีฟ ทำประชาสัมพันธ์ให้กับทีมกีฬาของเผ่า และออกหน้าเป็นตัวแทนชาวเผ่าในการติดต่อธุรกิจ ทำให้ชุมชนชาวเผ่าเซออนพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว แมซอนเข้าใจดีแล้วว่า ความรู้ความสามารถของตนสามารถนำมาพัฒนาชุมชนท้องถิ่นตนได้ ไม่จำเป็นต้องไปแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกันที่กรุงเทพเท่านั้น คนเราควรมีจิตสำนึก รักบ้านเกิด หากทุกคนหันมาพัฒนาท้องถิ่นของตน รับรองประเทศชาติต้องเจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็วแน่นอน
ลักษณะตัวละคร “รักสุดปลายฟ้า”
กลุ่มที่ 1 (กรุงเทพมหานคร)
1.ทัดเทพ ( พระเอก คู่ 1 ) แสดงโดย ณัฐพล ลียะวณิช
ชายหนุ่มวัย 27-28 ปี อดีตนักกรีฑาทีมชาติ ที่กำลังรอลุ้นตำแหน่งโค้ชกิตติมศักดิ์จากสมาคมนักกรีฑา เป็นลูกชายคนเล็กของคุณหญิงผอูน มองโลกในแง่ดี จิตใจดี หงุดหงิดเจ้าอารมณ์บ้างเป็นบางครั้ง เพราะถูกกดดันห้ามปรามจากผู้เป็นแม่ด้วยความเกรงใจ ไม่อยากขัดใจผู้เป็นแม่ จนฝืนความรู้สึกความต้องการของตนเอง เป็นคนช่างคิดริเริ่มสร้างสรรค์ รักความถูกต้องยุติธรรม รักธรรมชาติ
2.ม่านฟ้า – แมซอน ( นางเอก คู่ 1 ) แสดงโดย พิมพ์มาดา บริรักษ์ศุภกร
ครีเอทีฟสาวอิสระวัย 24 -25 ปี ชนเผ่าเซออน เป็นลูกสาวคนเดียวของ เม่งซึงหัวหน้าหมู่บ้านเคียงฟ้า เป็นสาวทันสมัย คล่องแคล่ว ปราดเปรียว ฉลาด มีไหวพริบดี ปากไวใจกล้า แต่ก็มีความหลังที่ซ่อนไว้คือความเป็นสาวดอยที่ไม่อยากให้ใครรู้ กำพืดของตัวเอง จึงพยายามเรียนรู้ชีวิตเมืองกรุงหลายรูปแบบเพื่อกลบเกลื่อนความเป็นสาวชาวดอย
3. มาริสา – มาแด ( นางเอก คู่ 2 ) แสดงโดย ภัณฑิลา ฟูกลิ่น
นักร้องสาววัย 24-25 ปีชนเผ่าเซออน เพื่อนรักสาวชาวดอยหมู่บ้านเดียวกันกับม่านฟ้าที่ร่ำเรียนมาด้วยกันจนจบปริญญาตรี รักการร้องเพลง เมื่อเรียนจบก็ไปเป็นนักร้องให้กับผับของเพชรุร่ง มีความทะเยอะทะยานใฝ่ฝันอยากจะมีอัลบั้มเป็นของตัวเองสักชุดหนึ่ง แล้วฝันก็เป็นจริง เมื่อนิธานเจ้าของค่ายเพลงดังทาบทามเธอเป็นนักร้อง หลังจากที่เขาเห็นเธอร้องเพลงในชุดสาวชาวดอย ไม่ชอบการเสี่ยงภัยผจญภัยมากนัก เชื่อมั่นในความจริงใจที่ตนมีต่อทุกๆคน หัวอ่อนแต่ขี้ระแวงสงสัย แอบหลงรักบาจอ (บารมี) มาตั้งแต่เด็ก แต่เมื่อรู้ว่าชายหนุ่มรักม่านฟ้า ก็แอบเก็บความช้ำชอกไว้ในใจ มาแอบปลื้มชมชอบเพชรรุ่งเจ้าของผับแทน
4. บารมี – บาจอ (พระเอก คู่ 2 ) แสดงโดย ภัทรภณ โตอุ่น
หนุ่มชาวดอยเผ่าเซออน แห่งหมู่บ้านปลายฟ้า วัย 24-25 ปี เป็นเพื่อนชายในวัยเรียนของม่านฟ้าและมาริสาหลังจากจบมัธยมต่างก็แยกย้ายกันไป เป็นพนักงานฝ่ายโฆษณาประชาสัมพันธ์ ให้กับบริษัทอาหารสำเร็จรูปเพื่อสุขภาพของทรงพล เป็นชายหนุ่มช่างคิดช่างฝัน โรแมนติก จริงจังกับชีวิต จริงใจกับเพื่อนๆ หลงรักม่านฟ้ามาตั้งแต่เด็ก เม่งซึงเองก็อยากจะได้มาเป็นเขย แต่ม่านฟ้ารักชายหนุ่มเหมือนเพื่อน สุดท้ายชายหนุ่มก็ตัดสินใจเลือกคนที่เขารักเรามากกว่าเรารักเขาก็คือมาริสาหรือมาแดนั่นเอง
5.ชินานาฎ (นางเอก คู่ 3 ) แสดงโดย ธนิดา กาญจนวัฒน์
ประชาสัมพันธ์สาวสวยของธุรกิจฟิตเนสผู้เป็นพ่อ วัย 24-25 ปี ลูกสาวหล่นไม่ไกลต้นคนเดียวของนำชัย เป็นคนเอาแต่ใจตัวเอง ขี้โมโห จอมโวยวาย เจ้าเล่ห์เจ้าเหลี่ยม เจ้าคิดเจ้าแค้น ฉลาดแต่ไม่เฉลียว ทำอะไรมักจะท่าดีทีเหลว ผิดพลาดเสมอ ทำทุกวิธีทางที่จะได้ทัดเทพมาเป็นสามี แต่ท้ายสุดก็ต้องยอมตกลงปล่องชิ้นกับจาเซ หนุ่มชาวดอยที่รักเธอตั้งแต่แรกเห็นยอมทำทุกอย่างเพื่อเธอ ไม่เคยทำให้เธอต้องเจ็บช้ำน้ำใจ ความเปิ่น ความซื่อของชายหนุ่มสร้างทั้งความน่าอายและรอยยิ้มให้กับเธอเสมอ
6.คุณหญิงผอูน แสดงโดย ภัสสร บุณยเกียรติ
สาวใหญ่วัย 50-55 ปี มีลูกชายหัวแก้วหัวแหวนอยู่ด้วยกันถึง 2 คน คือ เทียนชัย และ ทัดเทพ จอมแผนการ เขี้ยว เค็ม งก ฝีปากคมคาย เจ้าเล่ห์เพทุบาย ไม่ยอมเสียเปรียบใคร หวงลูกชายราวจงอางหวงไข่ เป็นผู้ดีเก่าเจ้ายศเจ้าอย่าง ตั้งป้อมกับผู้หญิงทุกคนที่จะเข้ามาเป็นสะใภ้ ท้ายที่สุดก็ยอมเปิดทางให้ความรักของทัดเทพสมหวังกับม่านฟ้า ด้วยเพราะไม่ต้องการให้ผู้เป็นลูกชายต้องตกนรกไปตลอดชั่วชีวิตกับผู้หญิงอย่างชินานาฏ
7.เทียนชัย แสดงโดย ศิระ แพทย์รัตน์
ลูกชายคนโตของคุณหญิงผอูนอายุประมาณ 30 ปี ต้องนั่งแท่นผู้บริหารบริษัทผลิตอุปกรณ์ และชุดกีฬาต่อจากผู้เป็นพ่อที่ตายไป รักการออกแบบจึงควบตำแหน่งดีไซน์เนอร์ให้บริษัทของตนเองอีก 1 ตำแหน่ง ใฝ่ฝันอยากจะเป็นนักออกแบบเสื้อผ้าชื่อดังเหมือนดีไซน์เนอร์ในกรุงปารีส เป็นผู้ชายในฝันของผู้หญิงเกือบทุกคน เป็นคนละเมียดละไม สำอาง ช่างสังเกตสังกา วาจาคมคายเชือดเฉือน ทำอาหารเก่ง ไม่พร้อมที่จะมีครอบครัวเพราะผู้หญิงในอุดมคติคือ แม่ศรีเรือนไทย ที่หายากมากในทุกวันนี้ จนถูกหลายคนมองว่าเป็นเกย์ รักและก็หวงน้องชายพอๆกับผู้เป็นแม่ แต่มีเหตุมีผลเข้าใจโลกและชีวิตมากกว่า มองโลกในแง่มุมของความเป็นจริง เป็นคนชอบไกล่เกลี่ยศึกระหว่างแม่และน้อง
8. เพชรรุ่ง แสดงโดย สุพจน์ จันทร์เจริญ
เจ้าของผับที่มาริสาร้องเพลงอยู่ อายุประมาณ 30 – 32 ปี เจ้าเล่ห์ จอมวางแผน เจ้าคารม ไม่มีความจริงใจ หว่านคำหวานเพื่อให้คนอื่นทำงานให้ เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว เจ้าชู้ เมื่อรู้ว่าจะเสียมาริสาไปจึงจะหมายเคลมหญิงสาวให้มาเป็นเมียน้อยอีกคน เพื่อร้องเพลงเรียกแขกให้กับผับของเขาไปตลอด แต่หน้ากากของเขาก็ถูกบรามี (บาจอ) กระชากให้มาริสาเห็นตัวตนที่แท้จริงของหนุ่มใหญ่ หญิงสาวจึงตัดใจจากเพชรรุ่งได้ในที่สุด
9.จันทร์ฉาย แสดงโดย พาเมล่า บาวเด้น
หญิงสาววัย 28-30 ปี เอ.อี. บริษัทฝีมือฉกาจของบริษัทโฆษณาที่ม่านฟ้ารับจ้างเป็นครีเอทีฟเสมอ ๆ เพื่อนรุ่นพี่สถาบันเดียวกันกับม่านฟ้า มีความมั่นอกมั่นใจสูง เขี้ยว เจ้าเล่ห์ จอมมารยาทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่งงาน
10.นำชัย แสดงโดย เอกพันธ์ บันลือฤทธิ์
หนุ่มใหญ่ วัย50-55 ปี พ่อของชินานาฎ รักลูกสาวมากแบบไม่ลืมหูลืมตา เปิดธุรกิจฟิตเนตบังหน้าบ่อนการพนันกลางกรุง จอมอิทธิพล นักเลง ขี้โอ่เพราะเห็นว่ามีคนในเครื่องแบบหนุนหลังอยู่ แต่ท้ายที่สุด บ่อนก็ถูกทลายโดยกลุ่มคอมมานโด
11. ทรงพล แสดงโดย
เจ้าของบริษัทอาหารสำเร็จรูปเพื่อสุขภาพที่บาจอทำงานอยู่ อายุประมาณ32-35 ปี นักธุรกิจหนุ่มเจ้าเสน่ห์ ที่ชินานาฎหวังจะยืมมือเขาเพื่อทดสอบจิตใจของทัดเทพ เป็นชายหนุ่มที่มีเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวในชั้นเชิงธุกิจ และความรัก
12.แม่ชื่น แสดงโดย อรสา พรหมประทาน
แม่บ้านสาวใหญ่ของบ้านคุณหญิงผอูน วัย 50 – 55 ปี รักเทียนชัยและ ทัดเทพเหมือนลูกเหมือนหลานคนหนึ่ง บ้างครั้งก็เป็นกันชนระหว่างคุณหญิงผอูนกับลูกชายทั้งสอง เป็นคนใจดีมีน้ำใจ ชอบช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์มองโลกในแง่ดี เจ้าระเบียบ ให้โอกาสคน รักความถูกต้องยุติธรรม
13.แมว แสดงโดย เพ็ญศรี ปิ่นทอง
สาวใช้บ้านคุณหญิงผอูน วัย 20-22 เป็นคนทะเยอทะยานอยากได้ อยากมี โลภมาก จุ้นจ้าน ใช้ปากทำงาน ประจบสอพลอ ขี้ฟ้อง เห็นแก่ของกำนัลที่ชินานาฎมีให้เสมอจึงคิดจะขายข่าวในบ้านให้หญิงสาวถูกเรื่อง
14.นิธาน (ตัวผ่านสำคัญ)
หนุ่มใหญ่อายุประมาณ 35-40 ปี เป็นเจ้าของค่ายเพลงชื่อดังที่เห็นแววของมาริสาและปั้นหญิงสาวให้กลายเป็นนักร้องชื่อดัง แบ่งเวลาให้การทำงานมากจนลืมให้ความสำคัญกับครอบครัวกลายเป็นความระหองระแหง เป็นคนมีเหตุผล มีโลกส่วนตัวมากบางครั้งก็มากจนเกินไป คิดว่าการให้ครอบครัวมีเงินทองใช้จ่ายอย่างสุขสบายก็พอแล้วสำหรับการเป็นหัวหน้าครอบครัว ท้ายที่สุดมาริสาก็ช่วยประสานร้อยร้าวของครอบครัวช่วยให้กลับมาแน่นแฟ้นดังเดิม
15. นายผล
หนุ่มใหญ่อายุประมาณ 55-60 ปี เป็นสามีของแม่ชื่น เป็นขับรถประจำตัวของคุณหญิงผอูน ควบตำแหน่งคนสวนของบ้านแต่ได้เงินเดือนเท่าเดิม ใจดี มีเมตตา นิสัยคล้ายคลึงกับแม่ชื่น
16. ปาลิตา ( ตัวผ่านสำคัญ )
หญิงสาววัย 28-30 ปี ภรรยาของนิธาน เป็นแม่บ้านแม่เรือนที่เพียบพร้อมไปด้วยคุณสมบัติทุกๆประการ เธอไม่ต้องการแค่เงิน แต่เธอต้องการความรัก ความเอาใจใส่ดูแล จากผู้เป็นสามี บางครั้งเธอก็รู้สึกอ่อนแอกับปัญหาที่เกิดขึ้นภายในบ้านและลูกสาว
17.น้องขวัญ( ตัวผ่านสำคัญ )
เด็กสาววัย 10-12 ปี ลูกสาวของนิธานกับปาลิตาชอบเล่นดนตรีโดยเฉพาะเปียโน โหยหาความรักจากผู้เป็นพ่อ
18.กิตติ (ตัวผ่านไม่สำคัญ)
ชายหนุ่มวัย 28-30 เป็นอดีตนักกรีฑาที่จะถูกเสนอชื่อให้เป็นโค้ชกิตติมศักดิ์ของสมาคม เป็นคนขี้โอ่ ขี้เก๊ก ขี้อิจฉา
19.อดุลย์ (ตัวผ่านไม่สำคัญ)
ชายหนุ่มวัย 28-30 เป็นอดีตนักกรีฑาที่จะถูกเสนอชื่อเป็นโค้ชกิตติมศักดิ์ของสมาคม เป็นคนช่างพูด เจ้าคารม แต่ซ่อนความขี้โม้ วาจาเชือดเฉือน
ลักษณะตัวละคร “รักสะออนของน้องสะอาง”
กลุ่มที่ 2 (ชาวดอย )
1.จาเซ (พระเอก คู่ 3 ) เข้ากรุงเทพอีก 1 คน แสดงโดย ชญาน์ทัต อยู่เป็นแก้ว
หนุ่มชาวดอยเผ่าเซออน แห่งหมู่บ้านเคียงฟ้า วัย 22-24 ปี เป็นหนุ่มดอยที่มีนิสัยอยากรู้อยากเห็น สนใจแฟชั่น สนใจชีวิตชาวกรุง แต่ถูกพ่อแม่กีดกันไม่ให้เข้าเมือง แต่ก็มักแอบหนีเข้าไปเที่ยวจีบสาวในตัวเมือง ชอบดนตรีแล็พเป็นชีวิตจิตใจ แต่ก็ปกปิดด้วยการเล่นดนตรีพื้นเมืองของเผ่า ตกหลุมรักชินานาฎตั้งแต่แรกเห็น จนถูกหลอกใช้ให้ช่วยเหลือแผนชั่วของหญิงสาว แต่แล้วชินานาฎก็ตกเป็นเมียของเขาจนได้ แต่เขาก็จำใจปกปิดเรื่องนี้ไว้เป็นความลับตามคำสั่งของหญิงสาว ด้วยความคิดถึงชายหนุ่มจึงแอบหนีพ่อแม่เข้ากรุงเทพเพื่อไปตามหาชินานาฏ ชายหนุ่มไปขอพักอยู่กับบาจอเพื่อนร่วมเผ่า
2.เม่งซึง (อยู่แต่ในดอย) แสดงโดย จักรกฤษณ์ อำมะรัตน์
ชายวัยกลางคนอายุ 50-55 ปีชนเผ่าเซออน หัวหน้าหมู่บ้านเคียงฟ้า พ่อของม่านฟ้า หรือ แมซอน เป็นคนรักความถูกต้องยุติธรรม อารมณ์ดี มองโลกในแง่ดี มีน้ำใจนักกีฬา ใจกว้าง ทันสมัยสนใจข่าวสารบ้านเมือง เข้าใจโลก เข้าใจลูก เข้าใจความรัก
3.ไมซัน (อยู่แต่ในดอย) แสดงโดย ภุชงค์ โยธาพิทักษ์
ชายวัยกลางคนอายุ 50-55 ปีชนเผ่าเซออน เป็นพ่อของมาริสา หรือ มาแด เป็นเพื่อนรักของเม่งซึง เป็นอารมณ์ดี รักพวกพ้อง ชอบร้องเพลงเหมือนลูกสาว รักความถูกต้อง ขาลุย ใจนักเลง เป็นที่ปรึกษาที่ดีของเม่งซึง ในทุกๆด้าน
4.กังเซ (อยู่แต่ในดอย) แสดงโดย อนันต์ บุญนาค
ชายวัยกลางคนอายุ 50-55 ชนเผ่าเซออน หัวหน้าหมู่บ้าน อิงฟ้า เป็นคนเจ้าเล่ห์เพทุบาย จอมวางแผน ขี้โกง จอมโหดทั้งซึ่งๆหน้าและลับหลัง สั่งการให้สมุนคอยตามกลั้นแกล้ง นักกีฬาหมู่บ้านอื่นๆ สมุนคนไหนทำไม่สำเร็จจับตบ สมุนคนไหนทำดีตบรางวัล
รักสุดปลายฟ้า
ออกอากาศ : วันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 18.30 น. ทางช่อง 3
นำแสดงโดย : ต่าย นัฐฐพล , พิม พิมพ์มาดา, รอน ภัทรพล, แอร์ ภัณฑิลา, น้ำแข็ง ชญาน์ทัต, จินนี่ ธนิ
กำกับการแสดงโดย : คฑาเทพ ไทยวานิช
แมซอน สาวชาวเผ่าเซออนผู้ทะเยอทะยานอยากเป็นชาวกรุง เข้ามาใช้ชีวิตในเมืองตั้งแต่เรียนมัธยมปลาย พร้อมกับมาแดเพื่อนสาวร่วมเผ่า และเพื่อปกปิดความแป็นเซออน ซึ่งอาจกีดกันทั้งคู่ออกจากสังคมคนเมือง แมซอน เปลี่ยนชื่อเป็นม่านฟ้า มาแดเปลี่ยนชื่อเป็นมาริสา สองสาวโลดแล่นบนเส้นทางสายอาชีพในเมืองอย่างเต็มตัว โดยม่านฟ้า ทำงานเป็นครีเอทีฟอิสระให้กับบริษัท เดอะสเปคตรัมเอเยนซี่ผู้มีบุคคลิกคล่องแคล่วปราดเปรียว เปรี้ยวพอประมาณ ส่วนมาริสา ผู้ใฝ่ฝันอยากมีอัลบั้มเพลงของตนเองจึงเลือกเป็นนักร้องประจำผับของเพชรรุ่ง อดีตพระเอกละครพื้นบ้านที่หันมาเปิดผับ ด้วยเสียงที่มีเสน่ห์ของมาริสา ทำให้แฟนเพลงล้นผับทุกคืน
เมื่อฤดูกาลเลือกตั้งประมุขของม่อนฟ้างามมาถึง หัวหน้าทั้ง 5 หมู่บ้านได้แก่ หมู่บ้านปลายฟ้า หมู่บ้านล้อมฟ้า หมู่บ้านต้นฟ้า หมู่บ้านอิงฟ้า และหมู่บ้านเคียงฟ้า ซึ่งหัวหน้าแต่ละหมู่บ้านต่างตกลงกันทุกปีว่าจะต้องมีการเลือกตั้งประมุของม่อน เพื่อเป็นตัวแทนของชาวม่อนในการติดต่อกับทางราชการนักธุรกิจที่จะเข้ามาทำธุรกิจในม่อน รวมทั้งเป็นผู้นำในการทำกิจกรรมตามประเพณีที่ทำสืบต่อกันมา ด้วยการแข่งขันกีฬามหาสนุก เพื่อเก็บเป็นคะแนนสะสม ก่อนถึงวันเลือกตั้งจริง
เม่งซึง หัวหน้าหมู่บ้านเคียงฟ้าไม่พอใจกับการได้ครองตำแหน่งประมุขของกังเซ หัวหน้าหมู่บ้านอิงฟ้าจอมเจ้าเล่ห์ ที่ใช้สารพัดกลโกง จนทำให้ผูกขาดตำแหน่งประมุขติดต่อกันมาโดยที่ไม่เคยทำประโยชน์ให้กับหมู่บ้านอื่นนอกจากหมู่บ้านตนเอง ดังนั้น ปีนี้หมู่บ้านเคียงฟ้าต้องชนะเพื่อเม่งซึงจะได้เป็นประมุขแทนกังเซ เม่งซึงไปปรึกษาผีฟ้าประจำหมู่บ้านให้ช่วยทำนายว่าหมู่บ้านเคียงฟ้าจะชนะการเลือกตั้งหรือไม่ ผีฟ้าบอกจะชนะก็ต่อเมื่อมีคนมาช่วย และคนนั้นต้องมี แผลเป็นรูปดาว 8 แฉกที่หัวไหล่ เม่งซึงกลุ้มใจไม่รู้จะหาคนที่ผีฟ้าส่งมาได้อย่างไร จึงตัดสินใจลงจากดอยเพื่อไปปรึกษาปลัดอำเภอ และได้เห็นข่าวของทัดเทพในหน้ากีฬา มีทัดเทพในชุดกีฬาแขนกุดที่หัวไหล่มีแผลเป็นตรงตามที่ผีฟ้าบอก เม่งซึงไปถามปลัด ปลัดบอกว่าทัดเทพเป็นอดีตนักกรีฑาทีมชาติ อยู่ที่กรุงเทพ เม่งซึงกลับมาปรึกษาไมซันเพื่อนรัก ว่าต้องหาทางให้ทัดเทพมาช่วยฝึกนักกีฬาของหมู่บ้านให้ได้ และคนที่จะไปตามทัดเทพมาก็ต้องเป็นคนที่รู้จักกรุงเทพดีที่สุด ซึ่งก็คือลูกสาวที่รักของเม่งซึงซึ่งก็คือแมซอน หรือ ม่านฟ้า
ขณะที่สองสาวกำลังเพลิดเพลินกับวิถีชาวกรุง ม่านฟ้า และมาริสา ได้รับจดหมายด่วนจากผู้เป็นพ่อมีข้อความว่า ให้รีบกลับเซออนด่วนเพื่อมาช่วยหมู่บ้านเคียงฟ้าให้ชนะการเลือกตั้ง 2 สาวไม่ใส่ใจ เพราะใจจริงทั้ง 2 ยังไม่อยากกลับสู่ถิ่นฐานบ้านเกิด จึงไม่ได้ตั้งใจอ่านข้อความอย่างจริงจัง เมื่อเม่งซึงรอลูกสาวตอบจดหมายไม่ไหว จึงตัดสินใจเดินข้ามเขาอีกลูก เพื่อมาโทรศัพท์หาลูกสาว
ม่านฟ้า ต่อรองพ่อให้คนอื่นช่วยทำแทน อ้างว่างานยุ่งสร้างความหงุดหงิดให้เม่งซึงถึงขั้นประกาศกร้าว”ถ้าไม่ขึ้นมา จะลงไปหาที่กรุงเทพ ไปประจานให้ถึงหน้าบริษัทว่าเป็น ลูกแม้ว” เมื่อกลัวว่าพ่อจะบุกมากรุงเทพ ม่านฟ้าจำยอมรับคำสั่ง และตัดสินใจลาหยุดงานชั่วคราว เพื่อปฏิบัติภารกิจให้ลุล่วง โดยมีมาริสาเพื่อนรักเป็นผู้ช่วยในการออกตามหาทัดเทพ คชาธาน อดีตนักกรีฑาทีมชาติที่กำลังลุ้นรางวัลโค้ชกรีฑากิตติมศักดิ์ มาสอนชาวเซออนให้ได้
เมื่อแมซอนรู้ว่าจะต้องไปตามทัดเทพมาเป็นโค้ช แมซอนจำได้ว่าทัดเทพ คือ นายแบบรองเท้ากีฬาที่เคยมีเรื่องถกเถียงกันไม่นาน เพราะความไร้อารมณ์ของทัดเทพที่มาถ่ายแบบแบบซังกะตาย แมซอนไม่เห็นด้วยกับท่าทางที่ไร้สมรรถภาพมากๆของทัดเทพ และคิดว่าไม่น่าจะฝึกใครได้ แต่เม่งซึงไม่ยอม ยังไงก็ต้องทำตามที่ผีฟ้าบอก ถ้าไม่ยอมไปจัดการ เม่งซึงจะจัดการเอง เจอไม้นี้แมซอนจำต้องยอม
ส่วนทัดเทพที่อดีตเคยประสบอุบัติเหตุบาดเจ็บจนลงแข่งอีกไม่ได้ ทำให้เค้ารู้สึกล้มเหลวไม่อยากพบเจอใครๆ และอยากหนีไปให้พ้นๆ จากสิ่งแวดล้อมเดิมๆแต่ คุณหญิงผอูนผู้เป็นแม่ กลับพยายามหาทางผลักดันลูกชายให้กลับมามีชื่อเสียงอีกครั้ง โดยการเสนอตัวไปถ่ายโฆษณา และพยายามหาทางให้ลูกโกอินเตอร์ด้วยการเป็นโค้ชให้กับสมาคมกรีฑาอาเชี่ยน แต่ทัดเทพไม่สนใจ
นักแสดงเรื่องรักสุดปลายฟ้า
นัฐฐพล ลียะวนิช ทัตเทพ นัฐฐพล ลียะวนิช ชายหนุ่มวัย 27-28 ปี อดีตนักกรีฑาทีมชาติ ที่กำลังรอลุ้นตำแหน่งโค้ชกิตติมศักดิ์จากสมาคมนักกรีฑา เป็นลูกชายคนเล็กของคุณหญิงผอูน มองโลกในแง่ดี จิตใจดี หงุดหงิดเจ้าอารมณ์บ้างเป็นบางครั้ง เพราะถูกกดดันห้ามปรามจากผู้เป็นแม่ด้วยความเกรงใจ ไม่อยากขัดใจผู้เป็นแม่ จนฝืนความรู้สึกความต้องการของตนเอง เป็นคนช่างคิดริเริ่มสร้างสรรค์ รักความถูกต้องยุติธรรม รักธรรมชาติ
พิมพ์มาดา บริรักษ์ศุภกร ม่านฟ้า – แมซอน พิมพ์มาดา บริรักษ์ศุภกร ครีเอทีฟสาวอิสระวัย 24 -25 ปี ชนเผ่าเซออน เป็นลูกสาวคนเดียวของ เม่งซึงหัวหน้าหมู่บ้านเคียงฟ้า เป็นสาวทันสมัย คล่องแคล่ว ปราดเปรียว ฉลาด มีไหวพริบดี ปากไวใจกล้า แต่ก็มีความหลังที่ซ่อนไว้คือความเป็นสาวดอยที่ไม่อยากให้ใครรู้ กำพืดของตัวเอง จึงพยายามเรียนรู้ชีวิตเมืองกรุงหลายรูปแบบเพื่อกลบเกลื่อนความเป็นสาวชาวดอย
ภัณฑิลา ฟูกลิ่น มาริสา – มาแด นักร้องสาววัย 24-25 ปีชนเผ่าเซออน เพื่อนรักสาวชาวดอยหมู่บ้านเดียวกันกับม่านฟ้าที่ร่ำเรียนมาด้วยกันจนจบปริญญาตรี รักการร้องเพลง เมื่อเรียนจบก็ไปเป็นนักร้องให้กับผับของเพชรุร่ง มีความทะเยอะทะยานใฝ่ฝันอยากจะมีอัลบั้มเป็นของตัวเองสักชุดหนึ่ง แล้วฝันก็เป็นจริง เมื่อนิธานเจ้าของค่ายเพลงดังทาบทามเธอเป็นนักร้อง หลังจากที่เขาเห็นเธอร้องเพลงในชุดสาวชาวดอย ไม่ชอบการเสี่ยงภัยผจญภัยมากนัก เชื่อมั่นในความจริงใจที่ตนมีต่อทุกๆคน หัวอ่อนแต่ขี้ระแวงสงสัย แอบหลงรักบาจอ (บารมี) มาตั้งแต่เด็ก แต่เมื่อรู้ว่าชายหนุ่มรักม่านฟ้า ก็แอบเก็บความช้ำชอกไว้ในใจ มาแอบปลื้มชมชอบเพชรรุ่งเจ้าของผับแทน
ภัทรภณ โตอุ่น บารมี – บาจอ หนุ่มชาวดอยเผ่าเซออน แห่งหมู่บ้านปลายฟ้า วัย 24-25 ปี เป็นเพื่อนชายในวัยเรียนของม่านฟ้าและมาริสาหลังจากจบมัธยมต่างก็แยกย้ายกันไป เป็นพนักงานฝ่ายโฆษณาประชาสัมพันธ์ ให้กับบริษัทอาหารสำเร็จรูปเพื่อสุขภาพของทรงพล เป็นชายหนุ่มช่างคิดช่างฝัน โรแมนติก จริงจังกับชีวิต จริงใจกับเพื่อนๆ หลงรักม่านฟ้ามาตั้งแต่เด็ก เม่งซึงเองก็อยากจะได้มาเป็นเขย แต่ม่านฟ้ารักชายหนุ่มเหมือนเพื่อน สุดท้ายชายหนุ่มก็ตัดสินใจเลือกคนที่เขารักเรามากกว่าเรารักเขาก็คือมาริสาหรือมาแดนั่นเอง
ธนิดา กาญจนวัฒน์ ชินานาฎ ประชาสัมพันธ์สาวสวยของธุรกิจฟิตเนสผู้เป็นพ่อ วัย 24-25 ปี ลูกสาวหล่นไม่ไกลต้นคนเดียวของนำชัย ชอบแต่งตัวสไตล์สปอร์ต เซ็กซ์ เปรี้ยว เป็นคนเอาแต่ใจตัวเอง ขี้โมโห จอมโวยวาย เจ้าเล่ห์เจ้าเหลี่ยม เจ้าคิดเจ้าแค้น ฉลาดแต่ไม่เฉลียว ทำอะไรมักจะท่าดีทีเหลว ผิดพลาดเสมอ ทำทุกวิธีทางที่จะได้ทัดเทพมาเป็นสามี แต่ท้ายสุดก็ต้องยอมตกลงปล่องชิ้นกับจาเซ หนุ่มชาวดอยที่รักเธอตั้งแต่แรกเห็นยอมทำทุกอย่างเพื่อเธอ ไม่เคยทำให้เธอต้องเจ็บช้ำน้ำใจ ความเปิ่น ความซื่อของชายหนุ่มสร้างทั้งความน่าอายและรอยยิ้มให้กับเธอเสมอ
ชญาน์ทัต อยู่เป็นแก้ว จาเซ หนุ่มชาวดอยเผ่าเซออน แห่งหมู่บ้านเคียงฟ้า วัย 22-24 ปี เป็นหนุ่มร่างบึกบึน มีพิณเป็นเครื่องดนตรีคู่กาย มีนิสัยอยากรู้อยากเห็น มักแอบหนีเข้าไปเที่ยวจีบสาวในตัวเมือง ชอบดนตรีแล็พเป็นชีวิตจิตใจ แต่ก็ปกปิดด้วยการเล่นดนตรีพื้นเมืองของเผ่า ตกหลุมรักชินานาฎตั้งแต่แรกเห็น จนถูกหลอกใช้ให้ช่วยเหลือแผนชั่วของหญิงสาว แต่แล้วชินานาฎก็ตกเป็นเมียของเขาจนได้ แต่เขาก็จำใจปกปิดเรื่องนี้ไว้เป็นความลับตามคำสั่งของหญิงสาว ด้วยความคิดถึงชายหนุ่มจึงแอบหนีพ่อแม่เข้ากรุงเทพเพื่อไปตามหาชินานาฏ ชายหนุ่มไปขอพักอยู่กับบาจอเพื่อนร่วมเผ่า
จักรกฤษณ์ อำมะรัตน์ เม่งซึง หัวหน้าหมู่บ้านเคียงฟ้า พ่อของม่านฟ้า หรือ แมซอน เป็นคนรักความถูกต้องยุติธรรม อารมณ์ดี มองโลกในแง่ดี มีน้ำใจนักกีฬา ใจกว้าง ทันสมัยสนใจข่าวสารบ้านเมือง เข้าใจโลก เข้าใจลูก เข้าใจความรัก
ภุชงค์ โยธาพิทักษ์ ไมซัน พ่อของมาริสา หรือ มาแด เป็นเพื่อนรักของเม่งซึง เป็นอารมณ์ดี รักพวกพ้อง ชอบร้องเพลงเหมือนลูกสาว รักความถูกต้อง ขาลุย ใจนักเลง เป็นที่ปรึกษาที่ดีของเม่งซึง ในทุกๆด้าน
พิมพ์อักษิพร วินโกมินทร์ ลูซาน น้องสาวตองยี ลูกคนเล็กของกังเซ ลูซานเป็นสาวเปรี้ยว แสนซน บ้าเทคโนโลยี มีความฝันอยากไปเกาหลี แอ๊บแบ๊ว ชอบทำตัวคิกขุ
ฯลฯ