ลู่หาน (Lu Han) วง EXO อยากกลับบ้าน
การยื่นฟ้องร้องของไอดอลหนุ่มคนดังแห่งวง EXO ได้ทำให้หุ้นของบริษัท SM Entertainment ร่วงลงมาทันที โดยล่าสุดได้มีรายละเอียดเกี่ยวกับเหตุผลของการขอยกเลิกสัญญาออกมาแล้วว่าเกี่ยวกับเรื่องของผลประโยชน์ และไอดอลหนุ่มชาวจีนก็อยากกลับไปทำงานที่บ้านมากกว่าด้วย
สำนักข่าว Yonhap ได้อ้างอิงข้อมูลจากตัวแทนทางกฏหมายของ ลู่หาน (Lu Han) ที่ให้ข่าวว่าเหตุผลของการตัดสินใจยื่นฟ้องร้องเพื่อยกเลิกสัญญากับ SM Entertainment ก็คือเรื่องประเด็นของเรื่องส่วนแบ่งรายได้นั่นเอง … “ลู่หาน ต้องรับงานโฆษณา และกิจกรรมอื่นๆ มากกว่าใครในวง (EXO) แต่กลับได้รับส่วนแบ่งที่ไม่ยุติธรรม”
ฝ่าย SM Ent. ก็ออกแถลงการณ์ยอมรับว่าไอดอลหนุ่มวัย 24 ปี ได้ฟ้องร้องเพื่อยกเลิกสัญญาจริง และยังให้ความเห็นว่าสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือเรื่องของผลประโยชน์ที่ ลู่หาน ดูจะอยากรับงานเองมากกว่าร่วมวงกับ EXO ต่อไป นอกจากนั้นบริษัทยังแสดงความเห็นที่ทั้ง คริส (Kris) และ ลู่หาน ให้เหตุผลในการขอยกเลิกสัญญาเหมือนกัน และยังใช้บริการของสำนักงานกฎหมายแห่งเดียวกันว่า “ทำให้เราคิดได้ว่าหลังจากพวกเขามีชื่อเสียงจากวง ก็อยากจะได้รับผลประโยชน์ของตัวเองโดยตรง โดยไม่ใส่ใจต่อผู้ที่จะได้รับผลกระทบจากการยกเลิกสัญญาครั้งนี้เลย นอกจากนั้นก็ยังดูเหมือนว่ามีอะไรอยู่เบื้องหลังในการตัดสินใจของพวกเขาด้วย”
นอกจากนั้นสำนักข่าว Sina ของจีนยังให้เหตุผลอีกด้านว่าการตัดสินใจของ ลู่หาน ไม่ได้มาจากเรื่องของเงินเป็นหลัก แต่เพราะระยะหลังเขาทำงานหนักมากจนมีปัญหาสุขภาพ จึงอยากจะกลับไปทำงานที่บ้านมากกว่า โดยเพื่อนคนหนึ่งของ ลู่หาน ได้กล่าวกับ Sina ว่า “พูดตามตรงสุขภาพของ ลู่หาน แย่ลงเรื่อยๆ จนเมื่อเขาได้กลับปักกิ่ง ได้ใช้ชีวิตกับครอบครัวก็เลยรู้สึกว่ามีความสุขมาก”
อันที่จริงการออกจากวง EXO ของ ลู่หาน ก็มีเค้าลางให้เห็นมาพักใหญ่แล้ว เพราะระยะหลังเขาเริ่มที่จะไม่ได้ปรากฏตัวร่วมกับวง EXO ในการแสดงคอนเสิร์ตสำคัญบางครั้ง นอกจากนั้นสมาชิกคนอื่นของ EXO ก็อาจจะทราบเรื่องนี้กันอยู่แล้วด้วย และเข้าใจในตัวของเพื่อนดี จึงไม่ได้มีการออกมาตำหนิอะไร โดย เลย์ (Lay) ยังได้เขียนข้อความอวยพรในให้ ลู่หาน โชคดีด้วยว่า “โชคดีนะพี่ชาย ถ้ามีโอกาสหวังว่าเราจะได้ยืนบนเวทีด้วยกันอีกครั้ง ในฐานะพี่น้องเราสนับสนุนการตัดสินใจของนาย โชคดี”
อย่างไรก็ตามทันทีที่เกิดข่าวเกี่ยวกับปัญหาในวง EXO ขึ้น ได้ทำให้หุ้นของบริษัท SM Entertainment ร่วงลงมาทันที โดยเพียงแค่ 15 นาทีหลังมีรายงานข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ หุ้นของ SM Ent. ก็ร่วงลงจาก 36,150 วอน เหลือ 33,050 วอนโดยทันที จนทำให้บริษัทเสียหายไปถึง 64,000 ล้านวอนเลยทีเดียว และยังนับว่ามูลค่าหุ้นของ SM Entertainment ต้องตกต่ำลงมากที่สุดในรอบปีด้วย
โดยยักษ์ใหญ่อันดับ 1 แห่งวงการดนตรีเกาหลีใต้ต้องเผชิญกับปัญหาเกี่ยวกับเด็กในสังกัดอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปีนี้ ตั้งแต่การออกจาก EXO ของหนุ่ม คริส, การตัดสินใจพักงานของ ซอลลี (Sulli) แห่งวง f(X) ด้วยเรื่องส่วนตัวที่ทำให้กิจกรรมการโปรโมตของวงต้องชะงักลงอย่างกะทันหัน และก่อนหน้านี้ไม่นานกับการออกจากวง Girls’ Generation ของ เจสสิกา (Jessica) หนึ่งในดาวเด่นของวง ที่มีปัญหากับต้นสังกัด และเพื่อนร่วมวงเกี่ยวกับเรื่องการทำธุรกิจของเธอ
นอกจากนั้น ลู่หาน ยังเป็นไอดอลชาวจีนคนที่ 3 ที่ตัดสินใจฟ้องร้องยกเลิกสัญญากับ SM Entertainment ด้วย จนทำให้เกิดเสียงวิจารณ์ว่าบริษัทกำลังมีปัญหาในการรั้งตัวไอดอลชาวจีน ซึ่งถือว่ามีบทบาทสูงมาก ในการบุกตลาดบันเทิงจีนแผ่นดินใหญ่ อันเป็นตลาดนอกประเทศเกาหลีที่มีความสำคัญสูงที่สุดของวงการบันเทิงเกาหลีในยุคปัจจุบัน
หลัง ฮันเกิง (Han Geng) ออกจากวง Super Junior เมื่อปี 2010 ไอดอลหนุ่มชาวจีนรายนี้ก็เริ่มงานในวงการบันเทิงจีนอย่างเต็มตัว และประสบความสำเร็จทันที ทั้งได้เล่นหนังฟอร์มใหญ่หลายเรื่อง นอกจากนั้นยังได้ปรากฏตัวในฉากหนึ่งของภาพยนตร์เรื่อง Transformers: Age of Extinction ด้วย เช่นเดียวกับ คริส หรือ “อู๋อี้ฝาน” ที่หลังออกจากวง EXO ก็ได้รับงานในหนังของผู้กำกับชื่อดังชาวจีนทันที จึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากไอดอลชาวจีนของ SM Ent. อยากจะกลับไปรับงานที่บ้านเกิด
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมายังมีข่าวลืออย่างต่อเนื่องว่าไอดอลชาวจีนหลายคนของ SM Ent. มีความรู้สึกว่าพวกเขามักจะได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เท่าเทียมเมื่อเทียบกับไอดอลชาวเกาหลีใต้ นอกจากนั้นเด็กในสังกัดหลายๆ คนยังรู้สึกว่า SM Ent. ไม่สามารถช่วยผลักดันอาชีพด้านการแสดงให้กับพวกเขาเท่าที่ต้องการได้ด้วย
ปัจจุบัน SM Ent. ยังมีไอดอลเชื้อสายจีนในสังกัดอีกหลายคน รวมถึง 2 หนุ่มที่เหลือในวง EXO อย่าง “จาง อี้ซิง” (Zhang Yixing / Lay) และ “หวงจื่อเทา” (Huang Zitao / Tao) และสาว “ซ่งเชี่ยน” หรือ วิคตอเรีย (Victoria) แห่งวง f(X) ซึ่งทั้งแฟนคลับ และต้นสังกัดก็คงหวังจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบเดียวกับที่เกิดขึ้นกัน “ฮันเกิง”, “คริส” และ “ลู่หาน” ขึ้นอีก