อ่ำ อัมรินทร์ เปิดใจปมหย่า จอย
จากข่าวช็อกวงการบันเทิง อ่ำ อัมรินทร์ ยอมรับแยกทางกับภรรยาสาว จอย อัจฉริยา หลังจากแต่งงานด้วยกัน 12 ปี มาสักพักใหญ่ แต่ทั้งคู่เลือกที่จะเงียบเพราะเป็นห่วงความรู้สึกของลูกสาว น้องแอลลี่ แต่พอประกาศออกมาก็ทำให้กลายเป็นประเด็นวิจารณ์ขุดคุ้ยถึงเรื่องมือที่ 3 จนเรื่องเริ่มบานปลาย โดยมีกระแสว่า สาวจอย มีคนอื่น ล่าสุด อ่ำ อัมรินทร์ ได้ออกมาเปิดใจถึงเรื่องนี้แล้วว่า…
“เรื่องราวมันเกิดขึ้นมานานมากแล้วนะครับ แต่กระแสในอินเตอร์เน็ตที่หลายคนเอามาวิพากษ์วิจารณ์สนุกปากผมก็อยากให้คุณเห็นใจสักหน่อย เพราะคุณไม่ทราบหรอกว่าครอบครัวเราเจ็บปวดขนาดไหน ยังไงก็ฝากไว้ละกันนะครับสำหรับเรื่องนี้”
“เราหย่ากันเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม มันนานมาแล้วครับ แต่ที่ผมไม่ได้ออกมาบอกก็เป็นเพราะผมไม่รู้ว่าจะไปบอกทุกคนตรงไหนหรือจะให้เราไปตั้งโต๊ะแถลงข่าวว่าหย่ากันแล้วคือมันก็ยังไงอยู่ ส่วนเรื่องที่หลายคนตั้งประเด็นว่าคุณจอยมีมือที่ 3 หรือเปล่านั้น อันนี้ผมต้องชี้แจงก่อนกว่ามันเกิดขึ้นหลังจากที่เราหย่ากันแล้วนะครับ และมันไม่ได้เป็นอย่างที่พวกคุณกล่าวหาเลย ซึ่งตอนนี้เราสองคนก็ยังคงปรึกษากันอยู่ทุกอย่าง ดูแลลูกกันเหมือนเดิม และดูแลความรู้สึกกันต่อไปครับ”
แต่บางกระแสก็บอกว่าพี่จอยมีคนอื่นตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคมแล้ว ?
“เฮ้อ…มันมีเรื่องอะไรเดี๋ยวผมขอคุยในรายการพี่ต๋อยดีกว่านะครับ เพราะว่าถ้าพูดไปเดี๋ยวมันจะมากเรื่องมากความเอาเป็นว่ารอไปฟังในรายการพี่ต๋อยดีกว่า สุดท้ายแล้วไม่มีหรอกครับมือที่ 3 มันเรื่องส่วนตัวของผมล้วน ๆ ที่ผิดพลาดไป และในฐานะหัวหน้าครอบครัวผมก็ต้องรับผิดชอบ ซึ่งคนที่จะไปหรือจะมีอย่างที่คุณว่ามันก็มาจากเหตุของผมนะครับ แต่เรื่องอะไรเดี๋ยวผมชี้แจงให้ฟัง เอาเป็นว่าตอนนี้ทุกคนอย่าเอาเรื่องผมมาคิดให้ทุกข์ใจเลยครับ คิดเรื่องบ้านเมืองคิดเรื่องทำมาหากินดีกว่า”
ตอนนี้ยังรู้สึกเสียใจอยู่ไหม ?
“มันผ่านเลยคำว่าเสียใจไปแล้วครับ มันนานมากแล้ว ซึ่งตอนนี้ผมสบายใจมากกว่า และก็ดีใจด้วยซ้ำที่เรามีความรู้สึกแบบนี้ให้กัน เพียงแต่เราไม่ได้ใช้สถานะคำว่าสามีภรรยากันแล้ว”
น้องแอลลี่เจอผลกระทบกับเรื่องนี้เยอะไหม เพราะตามข่าวก็เหมือนน้องถูกคนอื่นถาม ?
“ช่วงแรกน้องก็เศร้าครับ แต่บางทีอาจไม่ใช่เรื่องนี้ก็ได้ อาจจะเศร้าเพราะเรื่องของผมเรื่องที่ผมเครียดหรือผมเป็นอะไรอยู่หรือเปล่า คือคุณต้องระบุระยะเวลามาเพราะผมจะได้บอกได้ว่าลูกเครียดเรื่องอะไรในตอนนั้น แต่เอาเป็นว่าสำหรับตอนนี้ผมหายแล้ว และรอไปฟังเหตุผลของเราในรายการพี่ต๋อยดีกว่า”
ช่วงนี้ก็ดูเหมือนพี่อ่ำผอมลงด้วย เกี่ยวอะไรกับกระแสข่าวไหม ?
“แบบเครียดละก็ติดยากินเหล้าเหรอครับ (หัวเราะ) เมื่อก่อนกินบ้างครับ แต่ว่าเดี๋ยวนี้ไม่ได้ดื่มแล้ว ผมตั้งใจไว้แล้วว่าขอทำงานอย่างเดียวดีกว่า”
พอจะบอกได้ไหมว่าตอนนี้ใครดูแลน้องแอลลี่ ?
“ลูกอยู่กับคุณจอยครับ แต่ว่าบางวันผมก็จะไปรับเขาที่โรงเรียน พาไปทานไอศรีม บางวันผมก็ไปทานข้าวที่บ้านคุณจอยตรงสาทร คือเราก้าวข้ามผ่านช่วงเวลาต่าง ๆ มาหมดแล้วอะครับ”
ตอนนี้พี่จอยเขายังมีอาการเครียดอยู่ไหม ?
“เขาเครียดกับข่าวที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ ณ ตอนนี้มากกว่าครับ เพราะเขากับลูกถูกว่ากล่าว คือบางทีผมโพสต์ข้อความอะไรไปคุณก็ตีความกันผิด ซึ่งอันนี้ผมเองก็ยอมรับนะครับว่าผมเองก็ผิดที่เขียนแล้วไม่เคลียร์ แต่ในเมื่อคุณคิดไปเองและสนุกกับข่าวจนทำให้คนอื่นเดือดร้อนผมเชื่อว่ายังไงกรรมก็ต้องตามคุณไปแน่นอน”
เพราะอะไรถึงตัดสินใจขายบ้านขายรถ ?
“ผมจะไปอยู่บุรีรัมย์ครับ เพราะที่นั่นมีสนามแข่งรถ และมีธุรกิจที่ผมอยากไปทำ ซึ่งหลายคนก็เข้ามาด่าผมว่าไม่เหลืออะไรให้ลูกเลยเหรอ อันนี้ผมจะชี้แจงนะครับว่าเงินที่ขายผมก็จะเอามาซื้อคอนโดฯ ใกล้ ๆ บ้านจอย เพราะจะได้มีเวลาขับรถไปรับไปส่งลูก ส่วนเรื่องรถคือเครื่องมันแรงมากจริง ๆ ผมสู้น้ำมันไม่ไหว ดังนั้นของใช้อะไรที่มันลดภาระลงไปเราก็ลดไปครับ”
มีอะไรอยากจะฝากถึงนักเลงคีย์บอร์ดที่เข้ามาวิจารณ์ครอบครัวเราบ้างไหม ?
“คือใครที่สนุกสนานกับเรื่องคนอื่นที่เขาลำบากหรือเคยทุกข์ใจกันมา คุณก็ระวังหัวเตียงคุณบ้างละกันนะครับ”
แล้วกับคนที่เป็นห่วงเราเรามีอะไรอยากจะบอกเขาไหม ?
“ผมก็ต้องขอบคุณและต้องขอโทษทุกคนด้วยนะครับที่ครอบครัวเราไม่ได้เป็นดั่งใจ แต่ผมยืนยันนะครับว่าการเปลี่ยนแปลงของเราครั้งนี้มันมีอะไรที่ดีกว่าที่เป็นอยู่มาก ๆ มากกว่าตอนที่เราอยู่ใกล้”
จะมีโอกาสกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ไหม ?
“โอกาสทุกคนมีครับผม (ยิ้ม)”
ช่วงวันพ่อที่จะถึงนี้จะมีโอกาสได้เห็นภาพครอบครัวพร้อมหน้าหรือเปล่า ?
“วันพ่อปีนี้แอลลี่ก็จะมาอยู่กับผมครับ ส่วนคุณจอยผมก็จะชวนเขามาไหว้พระที่บ้าน เพราะที่บ้านผมเพิ่งทำห้องพระใหม่ คือยังไงเราก็ผูกพันกันอยู่แล้วครับไม่ว่าอะไรจะเปลี่ยนไปยังไง”
