อาหารไม่ดีขึ้นเลยสำหรับคุณของสาว “แคทรียา อิงลิช” หลังจากผ่าตัดมะเร็งสมองก็อาการแย่ลงเรื่อยๆ เพราะก่อนหน้านี้สาว “แคทรียา” เคยอัพเดทอาการของคุณพ่อให้ฟังว่าข้างซ้ายเริ่มใช้การไม่ได้แล้วแต่เจ้าตัวก็บอกว่ากำลังใจของคุณพ่อยังดีอยู่ คุณพ่อยังมีกำลังใจที่สู้กับโรคร้ายและหวังว่าจะสามารถคงอาการของคุณพ่อให้ทรงตัวได้ ล่าสุดได้เจอสาว “แคทรียา” อีกครั้งในงานทีวีพูลเปิดช่องดิจิตอล ณ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ เจ้าตัวก็เล่าถึงอาการคุณพ่อด้วยน้ำตาว่า “พ่อไม่ตื่นมา 5 วันแล้วค่ะ(ร้องไห้) ก็ไม่รู้ว่าพ่อได้ยินหรือเปล่าแต่หนูกระซิบข้างหูพ่อทุกวันว่าให้สู้”

คุณหมอว่ายังไงบ้าง
”คุณหมอให้ทำใจแล้วค่ะ เขาบอกว่าด้วยโรคมะเร็งที่พ่อเป็นอยู่ตอนนี้มันรักษาไม่หาย ตอนนี้ก็มีคนใจดีพยายามส่งอาหารเสริมมาให้พ่อแต่ต้องบอกก่อนเลยว่ามันเป็นมะเร็งชนิดที่ทำอะไรไม่ได้เลยจริงๆ ในโลกนี้มีคนเป็นมะเร็งชนิดนี้แค่ 54 คน ถ้ารวมคุณพ่อก็ 55 คน คือยิ่งผ่าออกก็ยิ่งเป็น คุณหมอบอกตอนแรกที่พ่อเป็นมันเป็นมะเร็งที่สามารถควบคุมได้แต่ถ้าผ่าออกมันก็มีสิทธิที่จะกลายพันธุ์เป็นมะเร็งอีกชนิดหนึ่งที่ร้ายแรงที่สุดแล้วรักษาไม่ได้ แล้วตอนนี้พ่อก็หลับไป 5 วันแล้ว(น้ำตาคลอ)”

เรายังทำใจไม่ได้
”คือจริงๆ ก็ทำใจไว้ปีหนึ่งแล้ว คือต่อให้เราทำใจมานานแค่ไหนแต่พอถึงเวลาจริงๆ แล้วมันก็ทำใจยากเหมือนกัน แต่ตอนนี้ก็พยายามจะหาพ่อทุกวัน ไม่รู้จะได้ยินหรือเปล่าแต่ 2-3 วันที่แล้วก็ไปกอดแล้วจับมือคุณพ่อ บอกคุณพ่อว่าหนูมาแล้วนะ คือ 2-3 วันที่ผ่านมาคุณพ่อไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลยแต่พอแคทจับมือแล้วบอกหนูมาแล้วพ่อเขาก็บีบมือแล้วก็ยกแขนข้างขวาเพราะข้างซ้ายใช้ไม่ได้แล้วหลังจากนั้นก็ไม่มีปฏิกิริยาอะไรอีกเลย เขาก็เหมือนหลับมาตลอด ตอนนี้ก็ต้องใส่สายยางให้อาหารเพราะพ่อไม่สามารถกลืนอาหารได้แล้ว”

เราก็ไปเยี่ยมคุณพ่อตลอด
”ไปทุกวันค่ะ หลังจากงานนี้ก็จะไปเหมือนกัน ดึกแค่ไหนก็ไปต่อให้เขารับรู้หรือไม่ก็ตาม คือบางคนเขาเชื่อเรื่องพลังในตัวเรามันสื่อกันได้ อย่างน้อยๆ ก็ขอได้แตะมือพ่อไว้ให้รู้ว่าเราอยู่ใกล้ๆ ก็พอ คุยกับคุณแม่คุณแม่เขาก็สู้เหมือนกัน น้องชายก็สู้ ตอนนี้น้องชายดูแลบริษัทให้คุณพ่อแล้วค่ะ”

คุณหมอได้บอกไหมว่าหลังจากนี้คุณพ่ออาจจะมีปฏิกิริยาอะไรอีก
”อันนี้บอกไม่ได้เหมือนกันค่ะ แต่เขาบอกด้วยโรคของคุณพ่อมันลามด้วย คือมันไม่ได้อยู่แค่จุดที่เคยเป็นแต่มันเติบโตลามไปอีกข้างแล้วด้วย จริงๆ มันลามมาได้ 2 อาทิตย์แล้วแต่ไม่อยากให้ใครรู้เพราะว่าคราวก่อนที่พูดออกไปแล้วพ่อบังเอิญเห็นในโทรทัศน์แล้วพ่อตกใจ อันนี้เป็นเรื่องปีที่แล้วนะ แคทก็เลยไม่อยากจะให้พ่อบังเอิญมาเห็นอีก”

ตอนนี้ก็หวังปาฏิหาริย์อย่างเดียว
”หวังมาตลอดค่ะ(น้ำตาคลอ)”

ญาติๆ ได้บอกไหมว่าจะบินมาเยี่ยมหรือเปล่า
”ก็ถามเขาเมื่อวานนี้เหมือนกันว่าจะกลับมาหรือเปล่าแต่เขาบอกว่างานตอนนี้ยุ่งมากๆ แต่ถ้าถึงเวลานั้นจริงๆ ก็ไม่แน่อาจจะบินมาค่ะ