แอมป์ ยินดีเลิก ปิดฉากรัก 6 ปี ตามที่ หยก ต้องการ
“แอมป์ พีรวัศ” ยินดีปิดฉากรัก 6 ปี “หยก ธัญยกันต์” ตามความต้องการของฝ่ายหญิง ลั่นพูดความจริงทุกอย่างหมดแล้วไม่มีอะไรต้องชี้แจงเพิ่ม
ปิดฉากลงแน่นอนแล้ว สำหรับคู่รักร่วมช่อง “แอมป์ พีรวัศ” และ “หยก ธัญยกันต์” หลังคบหาดูใจกันมานานกว่า 6 ปีเต็ม โดยฝ่ายหญิงได้ออกมายอมรับว่าฉนวนเหตุรักร้าวเป็นเพราะมีบุคคลที่ 3 เข้ามาแทรก แถมยังจับได้อีกว่าทั้งคู่มีการส่งข้อความแชทหากันอยู่บ่อยๆ จนทำให้เจ้าตัวทนไม่ไหวโพสต์ข้อความปรี๊ดแตกฉะสาวมือฉกลงอินสตาแกรม!!!
ซึ่งล่าสุดทางด้านของหนุ่ม “แอมป์ พีรวัศ” ก็ได้ถือโอกาสออกมาเปิดใจถึงปมรักร้าวดังกล่าวอีกครั้ง โดยเจ้าตัวยังคงยืนยันว่าที่ผ่านมาได้พูดความจริงไปหมดแล้วและไม่มีอะไรต้องชี้แจงเพิ่มเติมอีก ส่วนสถานะความสัมพันธ์กับนางเอกสาว “พีพี พัชญา” ที่หลายคนจับตามองก็ยังคงเป็นแค่พี่น้องและไม่เคยมีอะไรเกินเลยแน่นอน…
เราเห็นบทสัมภาษณ์ล่าสุดเรื่องสถานะของเรากับหยกแล้วหรือยัง ?
“อ่านเรียบร้อยแล้วครับและก็อย่างที่ผมเคยบอก ความจริงคือความจริงครับ ผมได้พูดทุกอย่างไปหมดแล้วและผมเชื่อว่าทุกคนเข้าใจ ผมขอบคุณมากๆ สำหรับคนที่อยู่เคียงข้างผมรวมถึงคนที่เชื่อมั่นในตัวผม ผมขอบคุณมากครับ ผมจะไม่ทำให้พวกคุณผิดหวังแน่”
“ส่วนทางด้านสถานะความสัมพันธ์ของเราสองคนนั้น ผมต้องขอบอกว่าผมไม่มีอะไรจะพูดมาก ผมเป็นผู้ชายผมยังรักเขาอยู่ แต่ถ้าหากเขาจะยุติความสัมพันธ์ผมก็ต้องเคารพในสิ่งที่เขาตัดสินใจครับ”
ก่อนหน้าที่จะตัดสินใจเลิกเราได้พูดคุยอะไรกันก่อนบ้างไหม ?
“ผมพูดไปหมดแล้ว ผมโทรไปหมดแล้ว แต่อย่างที่บอกเรื่องนี้ไม่มีใครเจ็บช้ำมันเป็นเรื่องของเราสองคนจริงๆ และก็ต้องขอบคุณคนอื่นๆ ด้วยที่เป็นห่วง”
เรารู้สึกยังไงบ้างตอนที่เขาบอกว่าเลิกกัน ?
“ก็…ไม่ได้อะไร นั่นแหละครับผมเคารพการตัดสินใจ แต่หลังจากนี้เรามาเริ่มกันใหม่ดีกว่าต่างคนต่างทำงาน อีกอย่างเราสองคนก็ยังอยู่กลุ่มเดียวกันเหมือนเดิม”
หลังจากนี้เราคิดจะหาโอกาสเข้าไปเคลียร์กับเขาให้ชัดเจนไหม ?
“เรื่องนี้ผมตอบไปอย่างละเอียดแล้วครับตั้งแต่ครั้งที่แล้ว และผมเชื่อด้วยว่าถ้าหากพูดต่อไปมันก็คงไม่ส่งผลดีเพราะฉะนั้นตามนี้ดีกว่า”
เราบอกว่าอยู่กลุ่มเดียวกันแบบนี้จะมองหน้ากันติดไหม ?
“เพื่อนก็คือเพื่อนครับ เราสองคนโตๆ กันแล้วไม่ใช่เด็กๆ เหมือนเมื่อก่อน ผมเชื่อว่าผมต้องเคารพในการตัดสินใจของเขาและก็หวังว่าทุกคนจะเคารพการตัดสินใจของเราสองคนด้วย”
ในส่วนของข้อความแชทที่หลุดออกมาเรามีอะไรจะชี้แจงไหม ?
“พูดแล้วก็อาจจะดูไม่ดี แต่ว่าเรื่องมันเกิดมาจากข้อความแชทที่หลุดออกไปตั้งแต่วันแรกที่มีข่าว ซึ่งผมก็มองว่าตามนั้นดีกว่า ผิดว่าไปตามผิด แต่ความจริงคือความจริงผมยังยืนยันตามเดิม”
เราสงสัยไหมว่าข้อความแชทนั้นหลุดออกมาได้ยังไง ?
“แชทนั้นคือของผม แล้วใครเป็นคนรู้เรื่องล่ะครับ และใครเป็นคนส่งอันนี้ผมไม่พูดเพราะผมไม่รู้เหมือนกัน แต่แชทนั้นมันเป็นของผมเอง ความจริงคือความจริงทำก็บอกทำไม่ทำก็บอกว่าไม่ทำครับ”
จุดประสงค์ในการส่งข้อความแชทของเราแค่เพราะเห็นว่าเขาเป็นน้อง ?
“ใช่ครับผมยังยืนยันคำเดิม ความจริงคือความจริง ทำก็คือทำ ไม่ได้ทำก็คือไม่ได้ทำครับ ผมได้บอกความจริงไปหมดแล้วทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับพวกคุณแล้วว่าจะเชื่อผมหรือเปล่า”
หยกเขาบอกด้วยนะว่ารอเรานานเหมือนกันกว่าเราจะมาเคลียร์ ?
“พูดไปก็ดูแย่ ตอนนี้ผมพูดอะไรไปก็เหมือนแก้ตัว แต่ว่าผมพูดไปหมดแล้วครับฉะนั้นผมขอโทษตัวเองดีกว่า และผมก็ต้องขอโทษด้วยอีกครั้ง ผมไม่เคยหนีและผมก็จะไม่พูดด้วยเพราะผมพูดความจริงไปหมดแล้วครับ”
“ในส่วนของคนที่ตั้งใจจะด่าก็เอาให้สุดเลยนะครับวันเดียววันนี้ด่าให้จบ และพรุ่งนี้ก็เลิกด่าได้แล้วมันเป็นวันใหม่เริ่มต้นใหม่แล้วครับ ผมกับหยกเราก็ยังเป็นเพื่อนกันอยู่แค่ลดสถานะจากแฟนลงมาเป็นเพื่อนเท่านั้นเอง”
อย่างกรณีข้อความที่เราโพสต์ในอินสตาแกรมคนก็อาจสงสัยอีกว่าเราเหน็บใคร ?
“ไม่ได้เหน็บใครแต่อย่างใดนะครับ ผมไม่ได้ว่าใครและก็ทำร้ายใครนะครับ”
สำหรับความสัมพันธ์ของเรากับ น้องพีพี ตอนนี้ยังเป็นพี่น้องเหมือนเดิม ?
“ใช่ครับเหมือนเดิม ทุกอย่างปกติเลย”
เราทราบไหมว่าสภาพจิตใจน้องตอนนี้เป็นยังไงบ้าง ?
“สภาพจิตใจน้องผมไม่รู้ครับ แต่ถ้าถามถึงสภาพจิตใจผมก็หนักเหมือนกันผมเองก็เสียใจ หลายคนถามว่าเวลา 6 ปี ที่ผ่านมามันเป็นยังไง ผมก็ยังรักเขาเหมือนเดิม แต่ว่าวันนี้มันเป็นอดีตไปแล้วและเราก็เริ่มใหม่ เริ่มใหม่ในแบบเพื่อนที่ดีต่อกัน”