โจรสาวแสบทำทีตีสนิทพ่อแม่ ฉกทารกอายุ 4 วันหายจากรพ.
เจ้าหน้าที่ศูนย์วิทยุ สภ.เมืองนครปฐม ได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลศูนย์นครปฐมว่า มีคนร้ายลักตัวเด็กทารกเพศชาย อายุ 4 วัน หายออกไปจากโรงพยาบาล จึงไปตรวจสอบพบนายเมงคา อายุ 33 ปี สัญชาติพม่า อยู่ห้องเช่าเลขที่ 7 ม.7 ต.ธรรมศาลา อ.เมืองนครปฐม พ่อของเด็กทารก อาชีพรับจ้างขับรถที่โรงน้ำแข็งธรรมศาลา และนางเอ๋ อายุ 32 ปี สัญชาติพม่า ยืนอยู่ในท่าทางตกใจ
นายเมงคา พ่อเด็ก เผยว่า ตนได้พานางเย็น ชาวเมียนมา อายุ 24 ปี ภรรยาของตนมาทำคลอดที่โรงพยาบาลนครปฐม ตั้งแต่วันที่ 9 มีนาคม 60 โดยขณะที่พักมีหญิงวัยกลางคน รูปร่างท้วม ผมยาว มาพูดคุยตีสนิท ซึ่งตนไม่ได้คิดว่าเป็นคนร้าย คิดว่าเขาคงมาเยี่มมญาติที่อยู่ในตึกเดียวกัน กระทั่งเวลา 11.30 น. ของวันนี้ แพทย์ให้กลับไปพักที่บ้าน ปรากฏว่าหญิงสาวคนดังกล่าวขออาสาไปส่งที่บ้านใน ต.ธรรมศาลา อ.เมืองนครปฐม โดยนั่งรถแท็กซี่รับจ้างกลับไปด้วยกันแล้วกลับไป จนช่วงบ่ายได้วนกลับมาที่บ้านพักอีก พร้อมออกอุบายว่า เด็กทารกไม่ค่อยสบาย แพทย์โทรมาแจ้งว่าให้กลับไปฉีดยา ตนจึงอุ้มลูกขึ้รถแท็กซี่ มากับ น.ส.เอ๋ อายุ 32 ปี ญาติของตน และมีหญิงคนดังกล่าวขึ้นรถตามมาด้วย แต่แม่ของเด็กไม่ได้มาเพราะร่างกายอ่อนเพลีย
น.ส.เอ๋ ได้เล่าว่า เมื่อมาถึงโรงพยาบาล ตนรีบลงจากรถพร้อมหญิงคนดังกล่าวเพราะต้องพาเด็กไปฉีดยา แต่พ่อเด็กต้องอยู่กับแท็กซี่ก่อนเพราะต้องจ่ายค่ารถจึงเดินมาช้ากว่า เมื่ออุ้มเด็กมาถึงหน้าห้องฉุกเฉิน หญิงคนร้ายได้วนเวียนหน้าห้องติดต่อเจ้าหน้าที่แล้วมาบอกกับตนว่า หมอต้องการบัตรประจำตัวในการรักษา ซึ่งพ่อเด็กเก็บไว้ในกระเป๋า ตนจึงเดินไปหาพ่อเด็ก แต่หญิงคนนั้นบอกว่าให้ฝากเด็กไว้จะช่วยอุ้มให้ก่อน ตนจึงส่งเด็กให้แล้วรีบไปเอาบัตร เมือกลับมาปรากฏว่าไม่พบทั้งเด็กและหญิงคนนั้น
จากนั้นได้แจ้ง ตร. และตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด พบว่า หญิงคนดังกล่าวสวมเสื้อลายดอกขาวแดง กางเกงขายาวสีดำ รูปร่างท้วม อุ้มเด็กทารกถูกห่อหุ้มตัวด้วยผ้าขนหนูสีชมพู เดินออกไปจากหน้าห้องฉุกเฉินแล้วเดินมุ่งหน้าออกไปทางด้านหน้าโรงพยาบาล ก่อนจะวิ่งข้ามถนนไปขึนรถแท็กซี่สีส้ม ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ที่หน้าโรงเรียนพระปฐม มุ่งหน้าเข้ากทม. ขณะนี้ทางชุดสืบสวนได้ตรวจสอบภาพเพื่อออกติดตามคนร้าย และยังไม่มีใครทราบว่าคนร้ายเป็นใครมาจากไหน และไม่ทราบจุดประสงค์ว่าจะชโมยเด็กทารกไปทำอะไร อย่างไรก็ตามชุดสืบสวน สภ.เมืองนครปฐม จะติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป
พ.ต.ต.ณัฐพงศ์ อำไพจิตร สว.สส. สภ.เมืองนครปฐม กล่าวว่า การสอบถามเจ้าหน้าที่และสอบพยาน แล้ว พบว่าคนร้ายทำทีเป็นญาติผู้ป่วย และมาหาพูดคุยกับคนไข้ชาวเมียนมา รายนี้สองสามวันแล้ว และวันนี้ก็เป็นธุระช่วยดำเนินการเรื่องค่าใช้จ่าย จัดการเอกสารต่างๆ และพากันออกไปพร้อมกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังเข้าใจว่าเป็นญาติหรือเป็นนายจ้าง เพราะไม่มีอะไรผิดปกติ