new

 

ยังคงเดินหน้าทำงานอย่างต่อเนื่อง สำหรับเจ้าบ่าวป้ายแดงอย่างนักแสดงหนุ่ม โทนี่ รากแก่น ที่เพิ่งจะเข้าพิธีมงคลสมรสกับหวานใจคนสวย แก้ว จริญญา ไปเมื่อสัปดาห์ก่อน ท่ามกลางความยินดีและคำอวยพรจากญาติผู้ใหญ่ รวมถึงเพื่อนพ้องร่วมวงการ

โดยงานนี้บรรดาสื่อก็ไม่พลาดที่จะเข้าไปจ่อไมค์ถามเจ้าตัวถึงความหวานในชีวิตคู่หลังแต่งงาน และโมเมนต์ที่ยังคงตราตรึงใจในวันสำคัญดังกล่าว ซึ่งนอกจาก โทนี่ รากแก่น จะได้เปิดใจให้เราฟังกันแบบหมดเปลือกแล้ว เจ้าตัวก็ยังได้ใช้โอกาสนี้ชี้แจงประเด็นสีผมของภรรยาที่มีชาวเน็ตบางรายเก็บไปดราม่า ให้เราได้ฟังกันอีกด้วย

“แก้ว จริญญา” ฟาดกลับแบบจุกๆ กิริยามารยาทสำคัญกว่าสีผม
รีวิวชีวิตแต่งงานนิดหนึ่ง ?
“จริงๆ ก็อย่างที่เรารู้สึกอย่างที่เห็นแฮชแทคยาว #justwannaliveourlives247365 ก็แค่อยากใช้ชีวิตร่วมกันทุกวันทุกเวลา การมีงานแต่งก็เพื่อประกาศให้ทุกคนรับทราบว่า ต่อไปนี้เราก็จะกลับไปใช้ชีวิตเหมือนเดิม”

ถามถึงโมเมนต์ในงานตอนที่ร้องไห้พร้อมกัน ?
“ตอนนั้นมันมีปัญหาเกิดขึ้นข้างหลัง อยากให้ทุกคนมาร่วมงานของเราประกาศจะไลฟ์ผ่านไลฟ์ยูทูบ แต่พอเรามองนาฬิกา 16.05 น. ทำไมมันยังไม่มีอะไร เลยรีบโทรตามรุ่นพี่มาดู ปรากฏว่าเขามีปัญหาในการล็อกอิน ทุกอย่างมันเกิดปัญหามาก แล้วโมเมนต์นั้นผมต้องห้ามเจอแก้วแล้ว แล้วแก้วจะอยู่ในบ้านในสภาพสมบูรณ์แบบ เพราะมันเป็นธรรมเนียม แต่เราต้องวิ่งเข้าไปหาเขาเพราะเขาเป็นคนรู้เรื่องการล็อกอิน เลยตัดสินใจวิ่งเข้าไปและช่วยกันหาทางว่าจะทำยังไงใครเริ่มไลฟ์ได้

“โมเมนต์นั้นมันพีคมาก แต่เราสองคนช่วยกันแบบใจเย็น ค่อยๆ คุย เรารับรู้ถึงความรู้สึกว่าเออ คู่เรามันดีจังเลยเนอะ ในโมเมนต์ที่มันพีคมากๆ เราก็ไม่ใจร้อนจนเราทะเลาะกัน เพราะถ้าทะเลาะกันโมเมนต์นั้นก็คือพังนะ เราก็เดินออกมา แล้วมารอว่าทุกอย่าง ถ้ามันจะต้องโอเค แสดงว่าเพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาวต้องเริ่มเดิน แล้วก็เริ่มเดิน โชคดีมากที่ได้ โอ๊ต, ป๊อบ, ว่าน สร้างบรรยากาศที่มันสนุกน่ารัก ทำให้เราผ่อนคลายลง”

“แต่พอรถของแก้วจะต้องขับเข้ามาพร้อมกับเพลง เราแบบไม่ไหวแล้วจริงๆ ทุกอย่างมันสำเร็จ สมบูรณ์แบบ เราเห็นป๊าแก้ว เขาบอกว่าต้องแต่งตัวอย่างนี้เลยเหรอ ต้องพูดอะไร วันนั้นเขาทำทุกอย่างที่พวกเราอยากได้ เขาเดินไปกอดแก้วแล้วพาขึ้นมา เพื่อนๆ หลายคนที่ไม่ได้อยากแต่งเต็มขนาดนั้น เพราะเขาก็มีสไตล์ของเขาก็ยอมทำตามเพื่อเรา ภาพมันสมบูรณ์แบบมากจนเราอั้นไม่อยู่”

หลายคนประทับใจกับคำพูดว่าในที่สุดก็หากันจนเจอ ?
“เราก็รู้คำถามอยู่แล้ว เพราะเราเองก็เป็นคนช่วยออแกไนซ์คิด เราเตรียมในใจมาประมาณหนึ่งว่า เราอยากจะพูดขอบคุณอะไรเขาบ้าง แต่โมเมนต์นั้นมันพูดไม่ออก ไม่ได้พูดเลย แล้วมันก็ย่อมาเหลือแค่ความรู้สึกนั้นจริงๆ ผมมองหน้าเขาแล้วรู้สึกว่าเป็นพันปีเลยหรือเปล่า ที่เราเดินสวนกันไปมาไปมา อาจจะไม่ได้คุยกัน แต่วันนี้มันดีมาก เจอกันจริงๆ ถ้าเจอคนที่ใช่จริงๆ ก็จะต้องเป็นแบบนี้แหละ”

พอได้ใช้สถานะสามีภรรยาความรู้สึกเปลี่ยนไหม ?
“เหมือนเดิมครับ เหตุผลที่เราแต่งงานกันได้ เพราะเราเป็นความธรรมดาทั้งคู่ อยู่ด้วยกันแบบธรรมดามาก ไม่ได้รู้สึกว่างานแต่งที่เกิดขึ้นจะต้องพิเศษหรือหวาน หลังแต่งงานต้องดียิ่งกว่าเดิมหรือว่าอะไร ผมรู้สึกว่าความธรรมดานี่แหล่ะดีที่สุด เพราะชีวิตมีทุกรสชาติ เราไม่ได้คาดหวังว่าหลังจากนี้เราจะต้องได้ยิ่งกว่าเดิม ผมว่าเท่าที่เป็นอยู่นี้มันดีมากอยู่แล้วเราถึงได้แต่งงานกัน”

คุณพ่อคุณแม่แก้วท่านพูดอะไรกับเราไว้บ้างไหม ?
“เรารู้สึกว่าคำพูด มันเป็นแค่สิ่งที่น่าเชื่อถือ แต่การกระทำเป็นสิ่งที่สำคัญ และสิ่งที่เราพิสูจน์กันมาตลอดระยะเวลาที่เราคบกัน เราพยายามพิสูจน์ตัวเอง พิสูจน์กันทั้งคู่ว่าเวลาเราอยู่ด้วยกันแล้วมันดีขึ้นจริงๆ และผมเชื่อว่าท่านหรือเพื่อนๆ แก้ว น่าจะได้สัมผัสและเห็นถึงสิ่งนี้ด้วยตัวเขาเอง ด้วยความเป็นเรา ด้วยสิ่งที่เราทำ เราไม่ชอบที่จะต้องมานั่งพูดสาบานหรือสัญญาหรืออะไร เรารู้สึกว่ามันไม่ใช่ความเป็นจริงทั้งหมด แค่พูดให้เพื่อคนฟังสบายใจเฉยๆ แต่ความสำคัญคือเราสามารถทำมันได้อยู่เรื่อยๆ ตลอดไปและเรารู้วิธีด้วยว่าทำไมเราถึงทำได้”

ถามถึงดราม่าเรื่องสีผมเขาเครียดขนาดไหน ?
“ไม่เครียดเลยครับ ไม่มีความเครียดเลย เขาแทบจะไม่เห็นเลยว่ามีดราม่าตรงไหน นอกจากที่มีการพาดหัวข่าวว่ามีดราม่า แต่จริงๆ ผมว่าเป็นเรื่องปกติมาก ที่ความสวยงามของแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน เหมือนกับความจริงของทุกคนมันไม่เหมือนกันครับ คุณมองแสงแดดอาจจะดูเป็นสีส้ม หรือบางคนมองอาจจะเป็นสีเหลือง ความจริงของคนไม่เหมือนกันเลย เพราะฉะนั้นเรายอมรับได้อยู่แล้ว”

“ใครอาจจะไม่ชอบอาจจะไม่ถูกใจ ผมรู้สึกว่าสิ่งที่เราทำในวันนั้น คือมันเป็นความต้องการของเราทั้งคู่ เราเองก็เป็นคนยุให้เขาทำเหมือนกันนะ ทำเลยๆ อยากเห็นเหมือนกัน จริงๆแล้วแก้วเนี่ยภาพที่เห็นทั้งหมดในงานแก้วเป็นส่วนสำคัญมากนะในการออกแบบทุกอย่าง เขาจะเป็นคนหาเเรฟเฟอร์เรนซ์ว่าอยากจะทำยังไงแบบไหน หรือแม้กระทั่งการแต่งตัวหรือทรงผมเราก็จะรู้สึกว่าเออมันดี เจ๋งอ่ะ”

โมเมนต์หวานๆ ในงานแต่ง โทนี่ แก้วIG tonirakkaen
โมเมนต์หวานๆ ในงานแต่ง โทนี่ แก้ว

แต่ก็มีทัวร์ลงกับคอมเมนต์นั้นเหมือนกัน ?
“ผมว่าก็คงเป็นเรื่องปกติของโซเชียลแหละ ผมว่าถ้าลองมายืนประจัญหน้ากันแบบนี้ เราก็คงจะพูดอีกแบบ แต่พออยู่ในโซเชียลก็อาจจะสนุก ผมว่าก็คงเป็นเรื่องธรรมดามั้ง แต่ทั้งหมดทั้งสิ้นผมอยากบอกเลยนะครับว่าไม่เป็นไร เป็นเรื่องธรรมดามากที่อาจจะชอบหรือไม่ชอบ มันไม่เหมือนกัน แต่โดยส่วนตัวแล้วเรารู้สึกว่าเจ๋งมาก แก้วเป็นคนที่เจ๋งมาก ตั้งแต่แรกที่ไว้ผมยาว อยู่ดีๆ พอจะแต่งงานตัดผมสั้น เราก็เป็นคนตัดให้ พอเสร็จอยู่ไปสักพักหนึ่งย้อมผมดีไหม แล้วย้อมไม่ได้ยอมทั้งหัวด้วย ย้อมแค่ส่วนหนึ่ง เราก็รู้สึกว่าเราชอบมาก ครั้งเดียวในชีวิตเราอยากเห็นภาพนั้นมากๆ ผมที่ครึ่งขาวครึ่งดำแล้วใส่ชุดไทยแบบเรียบๆ ผมรู้สึกว่าเราชอบอยู่แล้ว ผมสองคนชอบทำอะไรที่คนเขาไม่ทำกัน หรือทำในสิ่งที่คนเขาไม่คาดคิดกันเรารู้สึกสนุก”

มันมีความหมายหรือความพิเศษอะไรไหม ?
“ไม่มีความหมายนะครับ แต่ตอนแรกผมก็กะว่าจะทำด้วย ของแก้วครึ่งหน้าครึ่งหลังใช่ไหม ของผมเป็นครึ่งซ้ายครึ่งขวา มีความเป็นหยินหยางขาวดำอะไรแบบนี้ แต่เรารู้สึกว่าหน้าเรามันไม่ได้ให้แล้วไง แก้วยังเฟี้ยวฟ้าวได้อยู่ เราก็เลยรู้สึกว่าเราธรรมดาดีกว่า”

ชาวเน็ตเค้าดูตื่นตูมกันแต่กับทางผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่ายไม่ได้มีปัญหาอะไรใช่ไหม ?
“ไม่มีเลยครับ ดูม๊าของแก้วได้ ม๊าแก้วเองเขาก็ชอบมาก”

อย่างแก้วเองก็ออกมาโพสต์ว่า กิริยามารยาทก็สำคัญกว่าสีผม ?
“เขาพูดลอยๆ ครับ(หัวเราะ) ไม่มีอะไรครับ”

ตัวแก้วเองอ่านคอมเมนต์แล้วปล่อยผ่านใช่ไหม ?
“เราก็คุยกัน เราก็เห็นตลอดครับ ด้วยความยุ่งมากเลย ในงานเราจะไม่ได้ถือโทรศัพท์ขนาดนั้น ก็มีคนรอบข้างที่จะมาบอกว่ามันเป็นแบบนั้นแบบนี้ ผมว่าเอาตรงๆ นะมันก็เป็นเรื่องปกตินะ เวลาที่เกิดกระแสอะไรเกิดขึ้น ทุกคนก็จะต้องพูดถึง ไม่ใช่แค่คนจากทางบ้าน คนในงานก็ด้วย แต่ถามว่ามันมีผลอะไรต่อเราขนาดไหน เราก็รู้สึกเอนเตอร์เทนกับสิ่งที่เกิดขึ้นเฉยๆ ก็ดีนะครับถือว่าเป็นการช่วยโปรโมตงานช่วงเย็นที่เราอยากจะให้ทุกคนมาร่วมอยู่แล้วผ่านทางออนไลน์”

เป็นงานแต่งปลายปีที่สวยงาม ?
“ก็ต้องชมคนที่มาช่วยเราทั้งหมด มันสุดยอดจริงๆ ผมได้รับความช่วยเหลือเยอะมาก เราทั้งสองคนได้รับความช่วยเหลือเยอะมากจากทั้งทางผู้ใหญ่และทางเพื่อนๆ จากทั้งทีมที่ออฟเฟอร์เข้ามาจัดทุกอย่างมาได้สวยเกินเบอร์ เล่นใหญ่มาก ความเข้าใจผมกับแก้วตั้งแต่แรกเริ่ม ผมอยากจะจัดงานเล็กมากๆ ไม่อยากใช้ตังค์เยอะกับเรื่องนี้ ผมรู้สึกว่าก็แค่เป็นพิธีหนึ่งให้ทุกคนได้รับรู้แล้วก็จบ แต่เล่นใหญ่มาก มีจุดพลุด้วย เราก็ขอขอบคุณครับ แต่ที่สุดแล้วคนในงาน คนที่ได้เห็นได้ชม เขาก็มีความสุขกับเราไปด้วย”