ไอ้โจ๊กสารภาพไม่ได้มีแค่ ตำรวจร่วมฆ่า สาวทอม ทหารก็ร่วมกับเค้าด้วย
ล่าสุดที่ผ่านมา จากกรณีที่พ.ต.อ.อำนวย พงษ์สวัสดิ์ ผกก.สภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ตกเป็นผู้ต้องหาคดีอุ้มฆ่า นางสาวสุภัคสรณ์ พลไธสง อายุ 28 ปี ทอมสาว ล่าสุดเมื่อวันที่ 11 มกราคม เวลา13.00น. เจ้าหน้าที่ตำรวจนำโดย . พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบก.สส.บช.น. ได้ควบคุมตัวนายนิวัตน์ หรือโจ๊ก สวยทอง อายุ 32 ปี 1 ในกลุ่มผู้ต้องหา ซึ่งการสอบสวนเป็นประโยชน์อย่างมาก โดยผู้ต้องหาได้เดินทางไปดูจุดที่นำแก๊งอุ้มนำตัวน.ส.สุภัคสรณ์ สาวทอม ไปควบคุมตัวไว้ที่รีสอร์ต ในต.หนองหญ้าปล้อง อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ก่อนจะพบจุดที่เป็นลักษณะคล้ายขุดฝังบางอย่างและได้พบศพของน.ส.สุภัคสรณ์ ถูกฝังดินอยู่ด้านหลังรีสอร์ต เมื่อเจ้าหน้าที่ได้ขุดหลุมดังกล่าว ที่พบว่ามีการโบกปูนไว้ซึ่งหลุมมีความลึกประมาณ 1 เมตรกว่า เจ้าหน้าที่ใช้ค้อนทุบปูนออกจนพบร่างคนเสียชีวิตจนเจ้าหน้าที่สามารถนำร่างดังกล่าวขึ้นมา พบศพ ท่อนล่างไม่สวมใส่เสื้อผ้า ขณะนี้ยืนยันว่าเป็นน.ส.สุภัคสรณ์ สาวทอมจริงเพราะว่าที่แผ่นหลังของศพมีรอยสักรูปฤาษีเดินดง ซึ่งตรงกับรูปพรรณสัณฐานของน.ส.สุภัคสรณ์และครอบครัวญาติพี่น้องยังบอกอีก ว่าสักฤาษีเดินดงที่กลางแผ่นหลังและที่แขนก็มีรอยสักเช่นกัน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะได้นำร่างมาส่งที่นิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อชันสูตรหาสาเหตุการตายและดำเนินคดีกับผู้ต้องหาต่อไป
ล่าสุดศาลได้ออกหมายจับ ดังนี้ นายนิวัฒน์ หรือ โจ๊ก สวยทอง อายุ 32ปี ชาวดอนชะเอม อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาเลขที่ 7/2560 ลงวันที่ 10 ม.ค. ในฐานความผิดร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมสิ่งใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย ของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเอง โดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจ ต้องยอมต่อสิ่งนั้น ,หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำการด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกายและให้ผู้อื่นนั้นกระทำการใดให้แก่ผู้กระทำหรือบุคคลอื่น ,ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เพื่อปกปิดความผิดของตนหรือเพื่อหลีกเลี่บงให้พ้นอาญาในความผิดที่ตนได้กระทำไว้ และลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพหรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการตาย หรือเหตุแห่งตาย
และเมื่อไม่นานมานี้ เมื่อเวลา 14.30 น.วันนี้ 11 ม.ค. พ.ต.ท.อดิศร แก้วโหมดตาด รอง ผกก.สอบสวน สน.หนองค้างพลู และ พ.ต.ท.วิโรจน์ จันทร์หมอ รอง ผกก.สืบสวน สน.หนองค้างพลู เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนนครบาล ชุดสืบสวน สน.หนองค้างพลู พร้อม ตร.สืบสวน ภ.7 ตร.สืบสวน ภ.จว.กาญจนบุรี ตร.สืบสวน สภ.ท่ามะกา ร่วมกับเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ภาค 7 เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.กาญจนบุรี นำตัว นายนิวัฒน์ หรือโจ๊ก สวยทอง อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33/4 หมู่ 2 ต.ดอนชะเอม อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดตลิ่งชัน ที่ 7/2560 ลงวันที่ 10 ม.ค.2560 เดินทางไปที่ สภ.ท่ามะกา เพื่อไปชี้รถยนต์กระบะยี่ห้อนิสสันนาวาร่า สีดำ หมายเขทะบียน ฒษ 4515 กทม. ซึ่งเป็นรถที่นายนิวัฒน์ รับว่าเป็นคนขับร่วมไปก่อเหตุอุ้ม น.ส.สุภัคสรณ์ โดยรถคันดังกล่าว พล.ต.ต.สมชาย รักเสนาะ ผบก.สส.ภ.7 และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.7 ได้ตรวจยึดมาจากบ้านญาติของนายนิวัฒน์ เมื่อวานที่ผ่านมา (10 ม.ค.) แล้วนำรถมาเก็บไว้ที่ สภ.ท่ามะกา โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานได้ทำการเก็บหลักฐานลายนิ้วมือแฝง และหลักฐานเกี่ยวกับคดีในรถคันดังกล่าวอย่างละเอียดโดยใช้เวลาประมาณ 30 นาทีจึงแล้วเสร็จ
จากนั้นคณะเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัว นายนิวัฒน์ เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 170/3 ซอยวาสนา หมู่ 3 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นบ้านพักของนายสามารถ แสงสิน อายุ 50 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดตลิ่งชัน ที่ 11/2560 ลงวันที่ 10 ม.ค.2560 เป็นบ้านไม้ชั้นเดียว เนื้อที่ประมาณ 1 ไร่เศษ รั้วบ้านทำด้วยเสาไม้แก่นร่อน ล้อมด้วยลวดหนาม ภายในบริเวณมีบ่อปลาขนาดใหญ่อยู่ 1 บ่อ และมีบ้านพักคนงานอยู่ 1 หลัง
ไปถึงพบประตูทางเข้าปิดอยู่ ภายในมีชายอยู่ 1 คน เจ้าหน้าที่จึงเรียกให้มาพบเพื่อแจ้งให้ทราบถึงจุดประสงค์ ซึ่งชายคนดังกล่าวได้ยอมเปิดประตูให้คณะเจ้าหน้าที่นำตัว นายวิวัฒน์ เข้าไปชี้จุดที่นำตัว น.ส.สุภัคสรณ์ มานั่งแต่โดยดี
ทั้งนี้ นายนิวัฒน์ ได้ชี้ไปยังจุดที่ใช้สำหรับจอดรถยนต์ และเก้าอี้ไม้จุดที่ น.ส.สุภัคสรณ์ ใช้นั่งพักผ่อน โดยมีนายสามารถ นั่งอยู่ด้วย จากนั้นนายนิวัฒน์ บอกต่อเจ้าหน้าที่ว่า หลังจากนำตัว น.ส.สุภัคสรณ์ มาส่งให้นายสามารถ แล้วเสร็จก็ได้เดินทางกลับทันที โดยไม่ทราบว่าหลังจากนั้นนายสามารถ นำตัว น.ส.สุภัคสรณ์ ไปที่ไหน
เจ้าหน้าที่ได้พยายามซักถามผู้ต้องหา แต่นายนิวัฒน์ หรือโจ๊ก ได้พยายามบ่ายเบี่ยง โดยอ้างเพียงว่า แค่ขับรถมาส่งเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม การเชิญตัวมาสอบปากคำและการให้การดังกล่าวค่อนข้างเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี โดยนายโจ็ก ยอมรับว่าคดีนี้มีผู้ต้องหาที่เป็นนายทหารร่วมมือด้วย อีกทั้งยังมีผู้ต้องหารายอื่นๆ อุ้ม นางสาวสุภัคสรณ์ ขึ้นรถกระบะไปจริง และร่วมพาเหยื่อเดินทางไปที่เซฟเฮาส์แห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เพื่อพักไว้เป็นเวลา 1 คืน
จากนั้นรุ่งเช้าวันที่ 14 ธ.ค. 50 มีผู้ต้องหาอีก 3 ราย คือ ร.ท.ชัยยุทธ หรือจบเบ็ญชาติ อายุ 41ปี ทหารสังกัด พล.ร.9 นายภานุเมศวร์ หรือ จิ๋ว มีลา อายุ 34ปี ปัจจุบันเป็นนายทหารชั้นประทวน สังกัดกองพันทหารช่างแห่งหนึ่ง และนายสามารถ แสงสิน อายุ 50ปี อดีตตำรวจ สภ.เมือง จ.กาญจนบุรี พานางสาวสุภัคสรณ์ ออกจากเซฟเฮาส์และทำร้าย ก่อนนำไปทิ้งในพื้นที่ อ.ท่ามะกา จ.กาญจรบุรี ห่างจากเซฟเฮาส์ประมาณ 30กิโลเมตร
หลังจากเจ้าหน้าที่ให้นายนิวัฒน์ ชี้จุดแล้วเสร็จ จึงมอบหมายให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานนำอุปกรณ์สารเคมีมาตรวจหารอยนิ้วมือแฝงที่อาจจะติดอยู่ตามโต๊ะ และเก้าอี้ไม้อย่างละเอียด ซึ่งหลังจากเจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานแล้วเสร็จ จึงได้นำตัวผู้ต้องหาคือ นายนิวัฒน์ หรือโจ๊ก กลับไปยังสำนักงานตำรวจนครบาลต่อไป
นายภูมิทัศน์ หรือ อุ๋ม พิบูรณ์สวัสดิ์ อายุ 24ปี ชาวเกาะพลับพลา อ.เมืองราชบุรี จ.ราชบุรี ผู้ต้องหมายจับศาลอาญาเลขที่ 8/2560 ลงวันที่ 10 ม.ค. ในฐานความผิดร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมสิ่งใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย ของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเอง โดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจ ต้องยอมต่อสิ่งนั้น ,หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำการด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกายและให้ผู้อื่นนั้นกระทำการใดให้แก่ผู้กระทำหรือบุคคลอื่น ,ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เพื่อปกปิดความผิดของตนหรือเพื่อหลีกเลี่บงให้พ้นอาญาในความผิดที่ตนได้กระทำไว้ และลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพหรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการตาย หรือเหตุแห่งตาย