ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งบัลลังก์ไต่สวนวินิจฉัย ร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท มีข้อความขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ หรือ ตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งกลายเป็นข้อวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ เมื่อศาลวินิจฉัย พ.ร.บ.ดังกล่าว ยังไม่มีความจำเป็น ชะลอโครงการรถไฟความเร็วสูงยัง เพราะยังมีถนนลูกรังในประเทศอีกมาก
ในช่วงหนึ่งของการไต่สวนพยานและวินิจฉัย เมื่อวานนี้ (8 ม.ค.) นายสุพจน์ ไข่มุกด์ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ให้ความเห็นส่วนตัว ขณะที่ซักถามถึงความจำเป็นการออกตรา ร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท กับ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมที่เข้าเบิกความต่อคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จำเป็นหรือไม่ที่จะมีรถไฟความเร็วสูงจาก กรุงเทพฯไป เชียงใหม่
นายสุพจน์ ยังได้แสดงความเห็นส่วนตัว เป็นห่วงถึงการกู้เงิน อาจเป็นการสร้างภาระหนี้ให้กับลูกหลานหลังจากนี้ และบอกกับนายชัชชาติว่า เป็นรัฐมนตรีในตำแหน่งมาแล้วก็ไป ดังนั้นการกู้เงินไม่สามารถจะนำมาใช้ได้ทันที จึงเห็นว่ารถไฟความเร็วสูงยังไม่จำเป็นสำหรับไทย และเป็นไปได้ควรให้ถนนลูกรังหมดไปจากประเทศก่อน
ขณะที่ นายชัชชาติ ได้ชี้แจงว่า โครงการสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูง เป็นการสนับสนุนเศรษฐกิจพอเพียง เนื่องจากทำให้กระจายรายได้ไปสู่ชนบท ย่นระยะเวลาการเดินทางและขนส่งได้มาก ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมได้อีกทางด้วย
ทั้งนี้ ภายหลังจากศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยเสร็จสิ้น ก็เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ โดยมีการโพสต์แชร์ข้อมูลอ้างอิงจาก CIA สหรัฐอเมริกา ที่ระบุว่า ในประเทศที่เจริญแล้ว อย่าง ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ หรือ สหรัฐอเมริกา ต่างก็ยังมีถนนลูกรังในประเทศอีกจำนวนมาก เช่น ญี่ปุ่น มีถนนลูกรัง 19.58% ของถนนทั้งประเทศ หรือ สหรัฐอเมริกา มีถนนลูกรัง 34.64% ของถนนทั้งประเทศ
นอกจากนี้ ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตบางรายยังได้วิจารณ์คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญและแสดงความคิดเห็นในเชิงลบเกี่ยวกับประเด็นนี้ หรือนำไปเปรียบเทียบกับเพื่อนบ้าน ประเทศลาว ที่เพิ่งอนุมัติสร้างรถไฟความเร็วสูง เชื่อมต่อกับเวียดนามและจีน ซึ่งมีกำหนดสร้างเสร็จสิ้น ในอีก 5 ปีข้างหน้านี้ เช่นเดียวกัน นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.พรรคเพื่อไทย จ.อุบลราชธานี ได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ก บอก รู้สึกอยากหัวเราะและร้องไห้ไปกับคำวินิจฉัย วิจารณ์ตุลากาศาลรัฐธรรมนูญว่าแกล้งโง่ น่าจะให้มีทำหน้าที่แทนรัฐบาล