ตำรวจใช้ ม.44 บุกจับบริษัทตุ๋นเหยื่อลงทุน
กองปราบ-ดีเอสไอ ใช้ม.44 ลุยค้นอาคารพาณิชย์ ตรวจค้นบริษัทตุ๋นปชช.ร่วมลงทุน อ้างเชื้อสายของกษัตริย์รัฐมอญ ใช้ชื่อ ตร.บังหน้าตุ๋นเหยื่อบริจาค 5 หมื่น ได้ประดับยศ พล.ต.ต.
พ.ต.อ.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้กำกับการ กองกับการ 4 กองบังคับการปราบปราม ร่วมกับ พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ใช้มาตรา 44 สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ ตำรวจ ทหาร กว่า 20 นาย ร่วมตรวจค้นอาคารพาณิชย์ ถนนสุวินทวงศ์ เขตมีนบุรี หลังมีผู้เสียหายเข้าร้องเรียนกับดีเอสไอ ระบุว่าถูกกลุ่มบริษัท ฮัจยี กรุ๊ป จำกัด ซึ่งมี นางสุภัตทา เป็นประธานกรรมการบริษัท ร่วมกับนาย Kyaw Myint Oo ชาวสัญชาติเมียนมา หลอกลวงนักธุรกิจชาวไทยให้ร่วมลงทุน โดยอ้างว่าเป็นการร่วมกิจการระหว่างไทย-มอญ และยังอ้างว่านาย Kyaw Myint Oo เป็นเชื้อสายของกษัตริย์รัฐมอญ ทำให้ได้รับสัมปทานโครงการใหญ่จากรัฐบาลเมียนมา
รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวภายหลังเข้าตรวจค้นว่า บริษัทดังกล่าวเป็นกลุ่มที่เข้าข่ายแอบอ้างกษัตริย์รัฐมอญ และนำข้อมูลเข้าสู่ระบบอันเป็นเท็จ รวมถึงหลอกลวงประชาชนโดยการแต่งเครื่องแบบ เพื่อแอบอ้างและหลอกลวงประชาชน และยังแอบอ้างประชาชนให้ร่วมบริจาคในนามมูลนิธิอาสาบรรเทาภัย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อได้ประดับยศ เช่น ระดับพลตำรวจตรี ต้องบริจาค 50,000 บาท ระดับพลตำรวจโท 80,000 บาท ซึ่งไม่ถูกต้องตามกฎหมาย โดยขบวนการดังกล่าวมีประชาชนหลงเชื่อแล้วกว่าหมื่นคน มูลค่าความเสียหายหลายล้านบาท
ทั้งนี้จากการตรวจค้นเอกสารการจัดตั้งมูลนิธินั้น มีการจัดตั้งจริง แต่ไม่เกี่ยวข้องกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตามโฆษณา หลังจากนี้จะให้ปลดป้ายโฆษณา สติกเกอร์ข้างรถยนต์ ที่อ้างอิงถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ออก และรอผู้ที่เกี่ยวข้องมาชี้แจ้งอีกครั้ง ส่วนจะมีการแอบอ้างเบื้องสูงว่าเป็นเชื้อสายของกษัตริย์รัฐมอญ นั้นอยู่ระหว่างตรวจสอบรายละเอียด แต่เชื่อว่ายังมีผู้เกี่ยวข้องอีกหลายราย ซึ่งจะต้องตรงจสอบและดำเนินคดีต่อไป
อย่างไรก็ตาม การเข้าตรวจค้นครั้งนี้เป็นการขยายผล หลังดีเอสไอจับกุม นางสุภัตทา ,นายโกสินธ์ และนาย Kyaw Myint Oo ได้เมื่อวันที่ 6 ตุลาคมที่ผ่านมา ในข้อหาร่วมกันทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่คอมพิวเตอร์