ฟังอีกมุม “ติช่า กินติชา” เปิดใจ กระแสโซเชียลกดดันดารา Call Out แสดงจุดยืนทางการเมือง
ท่ามกลางกระแสการเมืองที่ร้อนระอุซึ่งส่งผลกระทบต่อประชาชนทุกภาคส่วน รวมถึงกลุ่มศิลปินดาราคนบันเทิงที่ต้องเผชิญกับแรงกดดันจากบรรดาชาวเน็ต ในการเรียกร้องให้ออกมาแสดงจุดยืนบนโลกออนไลน์
เช่นเดียวกันกับ ติชา-กันติชา ชุมมะ นางแบบและนักแสดงสาวชื่อดัง ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ต้องเผชิญกับสถานการณ์ดังกล่าว ซึ่งล่าสุดขณะที่เจ้าตัวเดินทางมาร่วมพิธีบวงสรวงละครเรื่อง พระจันทร์แดง ทางช่องONE31 สาวติช่าก็ได้ออกมาเปิดใจกับกองทัพสื่อถึงเรื่องนี้ว่า…
ทั้งฟาดทั้งสอน “ติช่า” ตอบกลับชาวเน็ตหลังถูกกดดัน Call Out แสดงจุดยืนทางการเมือง
“ช่วงนี้กดดันค่ะ ยอมรับเลยว่ากดดัน เพราะมันเป็นสถานการณ์ที่ตึงเครียดกับหลายๆ ฝ่าย และตัวหนูเองก็โดนกดดันค่อนข้างเยอะ ซึ่งหนูเชื่อค่ะว่าหนูไม่ใช่ดาราคนเดียวที่โดน มันก็เป็นอะไรที่หนักใจเหมือนกันค่ะเพราะว่าเราต้องมานั่งคิดว่าเราควรทำอย่างไรดี เนื่องจากการที่เรามีกระบอกเสียง เราก็ต้องมีความรับผิดชอบต่อเสียงของเราด้วยเช่นกัน ฉะนั้นถ้าหากมันเป็นเรื่องที่หนูยังไม่เข้าใจ 100 เปอร์เซ็นต์ หนูก็อาจจะต้องขอดูสถานการณ์ก่อนดีกว่าว่ามันจะเป็นยังไง”
“ในเมื่อมันเป็นความรับผิดชอบของหนูในฐานะคนที่มีเสียง หนูมองว่าการที่หนูจะพูดอะไรหนูก็ควรที่จะต้องเข้าใจสิ่งนั้นให้ลึกซึ้ง ดูให้แน่ใจก่อน อีกอย่างการเปลี่ยนแปลงมันไม่ได้ผ่านแค่โซเชียลมีเดีย หรือการกดดัน การยัดเยียดให้คนนั้นคนนี้คิดแบบฉัน และคนที่เขาออกมาเพราะเขาโดนกดดัน หนูมองว่ามันอาจจะไม่ได้เป็นสิ่งที่ถูกต้องที่สุด แต่เราควรออกมาเพราะเราเชื่อแบบนั้นจริงๆ นั่นคือวิถีการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงค่ะ หนูเชื่อว่าทุกคนจะเข้าใจหนูค่ะ”
“คอมเมนต์ที่หนูได้รับมาส่วนใหญ่จะเป็นการเปรียบเทียบ อย่างเช่นถามว่า ‘ติช่าโตในต่างประเทศและที่นั่นเขาไม่ได้สอนเรื่องประชาธิปไตยเหรอ’ หนูก็เลยต้องอธิบายให้เขาฟังว่า ที่นั่นเขาสอน เขาสอนว่าประชาธิปไตยคืออะไร แต่คุณครูเขาจะไม่ออกความเห็นว่าเขาคิดแบบนั้นหรือแบบนี้ คือเขาแค่สอนเฉยๆ ว่านี่คืออะไร และถ้าหากเธอจะเอาไปมีความคิดหรือมีความเห็นต่อเรื่องนี้ยังไงมันก็เป็นเรื่องของเธอ ซึ่งหนูมองว่าการที่หนูมีคนติดตามไม่ว่าช่องทางไหนก็แล้วแต่ การที่เราออกความเห็นอะไรมันอาจจะสามารถทำให้คนคิดเหมือนกับเราได้ ซึ่งหนูมองว่าทุกคนควรที่จะมีเสรีในการออกความคิดเห็นของตัวเอง และอีกอย่างการออกความเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนแบบนี้ มันควรออกมาจากความต้องการของเราจริงๆ มากกว่า ออกมาจากความเข้าใจของเรา เพราะถ้าหากวันนี้ทุกคนในประเทศคิดเหมือนกัน 100 เปอร์เซ็นต์ มันก็จะไม่มีปัญหาแน่นอน แต่ว่าตอนนี้มันมีหลายความคิดหลายความแตกต่างไงคะ มันก็เลย เฮ้อ…นิดหนึ่ง”
“ถ้าถามหนูในมุมมองของนักแสดง ณ ตอนนี้ก็คือว่าหลายๆ คนโดนกดดัน กดดันให้ทำแบบนี้ เพราะไม่อย่างนั้นจะเป็นแบบนั้นแบบนี้ ซึ่งมีเต็มทวิตเตอร์ไปหมด มันเลยทำให้หลายคนรู้สึกว่าแล้วฉันจะพูดยังไงดีในเมื่อฉันอยู่ในจุดที่ต้องรอก่อนหรือต้องดูก่อน เพราะบางอย่างเราเห็นด้วยถึงขั้นหนึ่ง แต่มันอาจจะมีอีกแค่บางจุดที่เรายังอย่างนี้อย่างนั้นอยู่ เราก็เลยยังต้องรอค่ะ หรือที่บางคนเข้ามาคอมเมนต์บอกกับติช่าว่า ‘ทำไมพอเป็นเรื่องตัวเองถึงพูดง่าย’ แน่นอนค่ะ เพราะมันเป็นเรื่องของหนู เรื่องที่หนูไม่ต้องมารับผิดชอบต่อหลายๆ ความคิดเห็น”
ติช่า กันติชา อวดโมเมนต์หวานกับแฟนหนุ่มชาวต่างชาติIG kantichachumma
ติช่า กันติชา อวดโมเมนต์หวานกับแฟนหนุ่มชาวต่างชาติ
เปิดตัวแฟนใหม่หวานมาก แต่ก็ยังเจอคอมเมนต์ดราม่า ?
“จริงๆ มันเป็นเรื่องธรรมดาของชีวิตนะคะที่เราจะคบกับใครหรือจะเลิกกับใคร เพราะมันเป็นสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้ไปซะทุกครั้ง ฉะนั้นการที่หนูโพสต์รูปแฟนใหม่และมีคนเข้ามาบอกว่า ‘หวานทำไมเดี๋ยวก็เลิก’ หนูเลยคิดว่าชีวิตคนเราควรทำแค่นอนอยู่บ้านเหรอ ควรอยู่แบบไม่มีแฟนไปตลอดเหรอ สุดท้ายหนูก็เลยตอบกลับเขาไปว่า ‘แล้วเราจะหายใจทำไม ในเมื่อสุดท้ายเราก็ตายอยู่ดี’ มันก็เลยกลายเป็นประเด็น แต่ถามว่าหนูโกรธไหมตอนที่เห็นคอมเมนต์ ก็ไม่ได้โกรธนะคะ ปกติก็ไม่เคยโกรธอยู่แล้ว”
“แฟนคนนี้เป็นชาวสวิตเซอร์แลนด์ค่ะ ชื่อนิก อายุ 29 กำลังจะ 30 เราคบกันมาประมาณครึ่งปีแล้ว เพื่อนแนะนำให้รู้จัก (หัวเราะ) มีหลายคนชอบถามว่าเขาเป็นนายแบบหรือเปล่า จริงๆ เขาไม่ได้เป็นนายแบบนะคะ แต่เขาทำงานด้านการเงิน ”
“เรื่องความสัมพันธ์ของเรา ณ ตอนนี้ เอ่อ…ตอนนี้เขากลับประเทศไปแล้วค่ะ มันก็เลยยากในเรื่องความสัมพันธ์นิดหนึ่งเพราะเรามีระยะทางเป็นอุปสรรค เอาตรงๆ ใจไม่ดีเลยค่ะ คือหนูเป็นคนที่ชอบอยู่ใกล้ๆ แฟน ดังนั้นถ้าถามว่าหนูกลัวไหม หนูกลัวค่ะ มันยาก หนูกลัวว่ามันจะมีปัญหาในอนาคต แต่ทุกวันนี้ก็เตรียมใจแล้วนะคะ และก็บอกเขาไปแล้วเหมือนกันว่าถ้าหากมันนานเกินไปฉันก็ทนได้แค่นี้ คือเราบอกทุกอย่างแบบตรงไปตรงมา มันต้องคุยกันแบบเคลียร์จริงๆ ซึ่งหนูก็ให้เขาถึงแค่เดือนธันวาคม และเมื่อถึงเวลานั้นจริงๆ เราคงต้องมาคุยกันใหม่ค่ะว่าจะเอายังไงกับความสัมพันธ์นี้”