เจ้าสัวจังโก้

เจ้าสัวจังโก้

โผอภิมหาเศรษฐีโคตรบิลเลียนแนร์ของโลกโดย ‘ฟอร์บส์’ นิตยสารการเงินเล่มดัง คลอดออกมาแล้ว โดยปีนี้มีเจ้าสัวรวม 1,226 คน และเบอร์ 1 ยังเป็น การ์ลอส สลิม เอลู เจ้าสัวธุรกิจสื่อสารชาวเม็กซิกัน ที่มีทรัพย์สมบัติกว่า 69,000 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 2.07 ล้านล้านบาท แม้รวยน้อยลงกว่าเดิมร่วม 5 พันล้านดอลลาร์ ครั้งแชมป์ 3 ปีซ้อน ขณะที่อันดับ 2 ก็หน้าเดิม บิล เกตส์ แห่งไมโครซอฟต์ ตามด้วยอันดับ 3 วอร์เรน บัฟเฟต แห่งบริษัท เบิร์กไชร์ แฮธะเวย์

‘ฟอร์บส์’ เริ่มต้นจัดอันดับคนรวยของโลกมาตั้งแต่ 25 ปีที่แล้ว โดยครั้งแรกมีแค่ 140 คน (รวยระดับพันล้านดอลลาร์) แต่ตอนนี้มีกว่า 1,226 คน ซึ่งในจำนวนนั้นมี 24 คนที่ยังรวยอยู่จากครั้งแรก และยอดรวมทรัพย์สินทั้งหมดของท่านอภิมหาเศรษฐีในปีนี้อยู่ที่ตัวเลข 4.6 ล้านล้านดอลลาร์ มากขึ้น 2 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่หากคิดโดยเฉลี่ยก็ตกคนละ 3.7 พันล้านดอลลาร์

บรรดาเศรษฐีที่หายไปเยอะสุดอยู่ใน เอเชีย (117 คน) เพราะพิษเศรษฐกิจตกต่ำ นอกจากนี้ยังมีหน้าเก่าจากปี 2011 ตายไป 12 คน อาทิ สตีฟ จ๊อบส์ แห่งแอปเปิล เป็นต้น โดยปีนี้มีคนรวยจาก 58 ประตู รวมถึงตัวแทนจากเปรู, โมร็อกโก และจอร์เจีย ประเทศละคน ซึ่งอเมริกา ยังเป็นแหล่งคนรวยเยอะสุดคือมี 425 คน มากกว่าปีที่ร่วม 1 โหล ตามด้วย รัสเซีย 96 คน และจีน 95 คน แต่ก็ลดลงจากปีที่แล้วที่มี 101 และ 115 คนตามลำดับ

อันดับ 1 ยังเป็น การ์ลอส สลิม เอลู แห่งเม็กซิโก ด้วยตัวเลขทรัพย์สิน 69,000 ล้านดอลลาร์ ลดลง 5,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งมีสาเหตุมาจากมูลค่าหุ้นที่ตกลงของบริษัทให้บริการโทรศัพท์มือถือ ‘อเมริกา โมบิล’ ที่เขาถือหุ้นใหญ่อยู่ สวนทางกับ บิล เกตส์ ที่หุ้นบริษัทไมโครซอฟต์ของเขาเพิ่มสูงสุดในรอบ 10 ปี ปีนี้เลยมีทรัพย์สินที่ตัวเลข 61 พันล้านดอลลาร์ขณะที่อันดับ 3 วอร์เรน บัฟเฟต รวยน้อยลงกว่า 6 พันล้านดอลลาร์แต่ก็ยังนอนบนกองเงินกองทอง 44 พันล้านดอลลาร์

เศรษฐีหน้าใหม่ก็มีหลายราย เริ่มด้วย เอลอน มัสค์ ผู้ร่วมก่อตั้ง ‘เพย์พัล’ และผู้ก่อตั้ง ‘เทสล่า มอเตอร์ส’ อยู่อันดับ 634 เพราะหุ้นบริษัทรถพลังไฟฟ้าของเขาราคาสูงขึ้น ด้าน ลอรีน พาวล์ จ๊อบส์ ศรีภรรยาของ สตีฟ จ๊อบส์ รับช่วงรวยแทนผัว ก็เลยโผล่หน้ามารวยด้วยในฐานะหน้าใหม่ แต่เคสที่น่าสนใจสุดๆ คือ ซาร่า เบลคลี่ย์ ผู้ก่อตั้งบริษัทชุดชั้นในสลิมมิ่ง ‘Spanx Inc.’ วัย 41 ปี เป็นเศรษฐินีที่รวยด้วยตัวเองที่อายุน้อยที่สุด

ด้านผู้แพ้และขาดทุนปีนี้มีคนรวยน้อยลงมากถึง 441 คน โดยในนั้นมีอย่างน้อย 18 คนที่เงินหดไปไม่ไม่ต่ำกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ และเบอร์แรกคือ ลักษมี มิตทาล เจ้าสัวบริษัทเหล็กกล้าแดนภารตะ เงินหายไปไม่มากไม่มายแค่ 10.4 พันล้านดอลลาร์!!! ทำให้เหลือทรัพย์สินแค่ 20.7 พันล้านดอลลาร์เท่านั้น ซึ่งเป็นผลพวงจากตลาดซบเซา ความต้องการลด แต่ต้นทุนสูง ถึงกระนั้น มิตทาล ก็ยังรวยสุดในเอเชีย อีกคนที่รวยน้อยลงจนน่าใจหายคือ โอเลก้า เดริปาสก้า แห่งรัสเซีย แห่งธุรกิจอะลูมิเนียม ที่ราคาตก และความต้องการลดลง ทำให้ราคาหุ้นบริษัท ‘United Co.’ ดำดิ่งลงด้วย

ในส่วนของประเทศไทย นายธนินท์ เจียรวนนท์ ผู้บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ยังเป็นอันดับ 1 ของประเทศ ด้วยตัวเลขทรัพย์สินกว่า 7,000 ล้านดอลลาร์ รั้งอันดับ 133 ของโลก จากเดิมที่อยู่อันดับ 152 ส่วนอันดับ 2 ของไทย คือ นายเจริญ สิริวัฒนภักดี แห่งธุรกิจเบียร์ช้าง มีทรัพย์สิน 5,500 ล้านดอลลาร์ อยู่อันดับ 184 ของโลก ขณะที่ นายเฉลียว อยู่วิทยา เจ้าของธุรกิจกระทิงแดง หล่นมาอยู่อันดับ 3 ด้วยทรัพย์สิน 5,000 ล้านดอลลาร์ รั้งอันดับ 205 ของโลก

สรุปอันดับมหาศรษฐีโลก 10 อันดับแรก จากการจัดอันดับของนิตยสารฟอร์บส์ ประจำปี 2012
1. การ์ลอส สลิม เอลู (อายุ 72 ปี, เม็กซิโก, ธุรกิจสื่อสาร) 69 พันล้านดอลลาร์ (ราว 2.07 ล้านล้านบาท)
2. บิล เกตส์ (อายุ 56 ปี, สหรัฐฯ, ไมโครซอฟท์) 61 พันล้านดอลลาร์ (ราว 1.83 ล้านล้านบาท)
3. วอร์เรน บัฟเฟต (อายุ 81 ปี, สหรัฐฯ, เบิร์กไชร์ แฮธะเวย์) 44 พันล้านดอลลาร์ (ราว 1.32 ล้านล้านบาท)
4. แบร์กนาร์ อาร์กโนลด์ (อายุ 63 ปี, ฝรั่งเศส, เจ้าของหลุยส์ วิตตอง) 41 พันล้านดอลลาร์ (ราว 1.23 ล้านล้านบาท)
5. อาร์มันซิโอ ออร์เตก้า (อายุ 75, สเปน, ธุรกิจแฟชั่น อินดิเท็กซ์ กรุ๊ป และซาร่า อินเตอร์เนชั่นแนล) 37.5 พันล้านดอลลาร์ (ราว 1.125 ล้านล้านบาท)
6. แลร์รี่ เอลลิสัน (อายุ 67, สหรัฐฯ, บริษัทซอฟต์แวร์ออราเคิล คอร์ป) 36 พันล้านดอลลาร์ (ราว 1.08 ล้านล้านบาท)
7. ไอเก้ บาติสต้า (อายุ 55, บราซิล, ธุรกิจเหมือง และน้ำมัน) 30 พันล้านดอลลาร์ (ราว 9 แสนล้านบาท)
8. สเตฟาน เพอร์สสัน (อายุ 64, สวีเดน, ธุรกิจเสื้อผ้า เอช& เอ็ม) 26 พันล้านดอลลาร์(ราว 7.8 แสนล้านบาท)
9. ลี กา-ชิง (อายุ 83, ฮ่องกง, เจ้าของบริษัทฮัทชิสัน วัมเปา ที่มีธุรกิจหลากหลายอย่างใน ฮ่องกง) 25.5 พันล้านดอลลาร์ (ราว 7.65 แสนล้านบาท)
10. คาร์ล อัลเบรทช์ (อายุ 92, เยอรมัน, เจ้าของเครื่อข่ายซูเปอร์มาร์เกต อัลดี กรุ๊ป) 25.4 พันล้านดอลลาร์ (ราว 7.62 แสนล้านบาท)
*133. ธนินท์ เจียรวนนท์ (เครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือซีพี) 7 พันล้านดอลลาร์ (ราว 2.1 แสนล้านบาท)
*184. เจริญ สิริวัฒนภักดี (เบียร์ช้าง) 5.5 พันล้านดอลลาร์ (ราว 1.65 แสนล้านบาท)
*205. เฉลียว อยู่วิทยา (ธุรกิจกระทิงแดง) 5 พันล้านดอลลาร์ (ราว 1.5 แสนล้านบาท)

 

ข้อมูลจากเว็บ ohodara.com