ในหลวงพระราชทานดินฝังศพ หวังเต๊ะ

 

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานดินฝังศพ ”หวังเต๊ะ” ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (เพลงพื้นบ้าน) ประจำปี 2531 ที่เสียชิวิตด้วยโรคมะเร็งตับ สิริอายุได้ 87 ปี สุกุมล คุณปลื้ม รมว.กระทรวงวัฒนธรรม พร้อมยื่นมือช่วยเหลือสืบสานคณะลำตัดหวังเต๊ะต่อไป

 

หลังจากที่ ”หวังเต๊ะ” หรือ หวังดี นิมา ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (เพลงพื้นบ้าน) ประจำปี 2531 ล้มป่วยเป็นโรคมะเร็งตับ ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2554 ได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์  จนกระทั่งเสียชีวิตเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 26 มิ.ย.55 ด้วยวัย 87 ปี

 

ต่อมาในวันเดียวกันครอบครัวได้นำศพประกอบพิธีตามหลักศาสนาอิสลาม โดยพิธีชื่อว่าออปักหลุม ที่มัสยิดเนี๊ยมาติ้ลและห์ ถนนตลิ่งชัน-สุพรรณบุรีสายใหม่ ต.หน้าไม้ อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี

 

โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้า มีนางสุกุมล คุณปลื้ม รมว.กระทรวงวัฒนธรรม และแม่ขวัญจิต ศรีประจัน  ครอบครัวพร้อมญาติมิตรและลูกศิษย์ของครูหวังเต๊ะเดินทางร่วมไว้อาลัยมากมาย

 

โดยเวลา 15.00 น. ผู้แทนจากสำนักพระราชวัง นำดินพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  มามอบให้เพื่อเป็นดินแรกในการทำพิธีฝังศพอีกด้วย

 

”นางศรีนวล ขำอาจ” หรือ ”แม่ศรีนวล” ผู้เป็นภรรยาของหวังเต๊ะ เผยว่า ก่อนที่สามีเสียชิวิตก็ได้ฝากและเป็นห่วงเรื่องคณะลำตัดที่ต้องสืบสานต่อไป ซึ่งตนยืนยันว่าถึงสิ้นหวังเต๊ะแล้วตนก็จะเป็นคนที่ดูแลคณะต่อไปตามเจตนารมณ์ของสามี

 

”ก่อนเสียชิวิตก็ไม่ได้ฝากอะไรมาก บอกว่าให้สนุกสนาน และห่วงเรื่องต้องสืบสานคณะต่อไป สภาพจิตใจตอนนี้ก็ดีขึ้นแล้ว และดีใจมากที่ได้รับพระราชทานดินฝังศพจากในหลวง  ต่อไปนี้ก็จะดูแลลูกศิษย์ของพ่อหวังเต๊ะต่อไป ก็อยากฝากถึงเจ้าภาพถ้าใครจะเชิญครอบครัวหวังเต๊ะไปร่วมงานก็ได้ หวังเต๊ะไม่มีชิวิตแล้ว แต่แม่ศรีนวลก็ยังอยู่นะค่ะ คณะก็ยังอยู่เพียงแค่เปลี่ยนเจ้าคณะใหม่ยืนยันจะใช้ชื่อคณะว่าหวังเต๊ะต่อไป  สำหรับใครที่สนใจก็สามารถมาเรียนลำตัดได้ที่บ้านได้เลย เรียนได้หมดทั้งเด็กและคนแก่”

 

ด้าน นางสุกุมล คุณปลื้ม รมว.กระทรวงวัฒนธรรม  เผยว่า ครั้งนี้ถือว่าเป็นการสูญเสียศิลปินที่มีความสามารถ หวังเต๊ะให้ความสุขกับแฟนๆ มาหลายปี  และหวังว่าจะช่วยกันสืบสานวัฒนธรรมพื้นบ้านไทยต่อไปในอนาคต ทั้งนี้ก็ได้มอบเงินช่วยเหลือจำนวนสองหมื่นบาท  และหลังจากนี้ก็จะปรึกษากันในกระทรวงถึงการสนับสนุนครอบครัวของหวังเต๊ะต่อไป

 

ขณะที่ ”แม่ขวัญจิต ศรีประจัน” คู่ขวัญทางการแสดงของ ”พ่อหวังเต๊ะ” ได้ให้สัมภาษณ์ถึงการจากไปของ ”พ่อหวังเต๊ะ” ว่า เสียใจมากเพราะหวังเต๊ะเป็นคนดี สร้างเสียงหัวเราะและรอยยิ้มให้ประชาชนมาโดยตลอด ตนเชื่อว่าลูกหลานทุกคนจะสืบทอดวัฒนธรรมลำตัดแบบไทยต่อไป

 

”รู้สึกเสียใจและใจหายเหมือนกันค่ะ วันนี้ก็มาไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้าย อยากจะบอกว่าท่านเป็นคนดีมาก เป็นคนที่สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้กับประชาชนมาโดยตลอดหลายปีในชั่วอายุของท่าน วันนี้ท่านได้จากเราไปอย่างสงบแล้ว ก็อยากจะฝากว่าไม่อยากให้ท่านเป็นห่วงอะไรทั้งสิ้น เชื่อว่าทางนี้ลูกหลานทุกคนก็ยังคงสืบทอดวัฒนธรรมลำตัดแบบไทยๆ ที่ท่านอยากให้สืบสานไว้ต่อไปอย่างแน่นอน” แม่ขวัญจิตกล่าว

 

 

สำหรับหวังเต๊ะ มีชื่อจริงว่า หวังดี นิมา เกิดที่จังหวัดปทุมธานี เป็นชาวมุสลิม เป็นศิลปินเพลงพื้นบ้านที่มีความเชี่ยวชาญเพลงลำตัดเป็นพิเศษ เกิดเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2468 ได้ตั้งคณะลำตัดชื่อ ”คณะหวังเต๊ะ” รับงานแสดงมานานกว่า 40 ปี จนชื่อ หวังเต๊ะ กลายเป็นสัญลักษณ์ของลำตัด เป็นศิลปินผู้สร้างสรรค์และสืบทอดการแสดงพื้นบ้านได้อย่างน่าภาคภูมิใจยิ่ง ท่านมีความสามารถมีปฏิภาณไหวพริบ มีคารมคมคาย สามารถด้นกลอนสดและแต่งคำร้องได้อย่างยอดเยี่ยมโดยจะเน้นในด้านสุนทรียภาพ ความไพเราะงดงามทางภาษา ท่านใช้ความสามารถและศิลปะการแสดงประกอบสัมมาชีพอย่างซื่อสัตย์มาโดยตลอด ท่านมีความมุ่งมั่นที่จะอนุรักษ์ ถ่ายทอด เผยแพร่ศิลปะการแสดงลำตัดแก่อนุชนรุ่นหลัง เพื่อเป็นการสืบสานมรดกไทยไว้เป็นเอกลักษณ์ของชาติสืบไป หวังเต๊ะได้รับการเชิดชูเกียรติเป็น ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (เพลงพื้นบ้าน) ประจำปี 2531

 

 

ในบั้นปลายชีวิต ได้ป่วยเป็นโรคมะเร็งตับ ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2554 ได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จนกระทั่งถึงวันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2555 ก็ถึงแก่กรรม สิริอายุได้ 87 ปี