บ๊วย น้ำตาคลอเปิดใจหย่า ตุ๊ก

 

เป็นข่าวใหญ่ที่ถูกพูดถึงมาตลอดเกือบหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา สำหรับข่าวคราวเตียงหักของพิธีกรอารมณ์ดี “บ๊วย เชษฐวุฒิ วัชรคุณ” กับอดีตภรรยา “ตุ๊ก ชนกวนันท์” หลังมีการเปิดเผยออกมาว่า ทั้งคู่ได้ไปเซ็นใบหย่ากันเป็นที่เรียบร้อย เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา ที่เขตสะพานสูง โดยได้รับการยืนยันจากคนใกล้ตัวอย่างผู้จัดการส่วนตัวของตุ๊ก ว่า ทั้งคู่ตกลงกันได้ด้วยดี ลูกอยู่กับตุ๊ก สินสมรสแบ่งกันคนละครึ่ง ส่วนบ๊วยจะช่วยเรื่องค่าเลี้ยงดูและค่าเรียนของลูกๆ ทั้ง 2 คน คือ “น้องเแพรว” และ “น้องภูมิ” เป็นการปิดฉากชีวิตคู่ 7 ปีอย่างขมขื่น และได้ทำให้หลายคนช็อกไม่น้อย เนื่องจากเป็นที่ทราบดี ว่าบ๊วยและตุ๊กนับเป็นคู่รักที่รักกันมากอีกคู่หนึ่งหลายคนอิจฉา

กระทั่งหลายเดือนที่ผ่านมา ก็มีข่าวว่าทั้งคู่มีปัญหากันถึงขั้นตัดสินใจจะจดทะเบียนหย่า โดยมีข่าวว่าบ๊วยไปแอบสานสัมพันธ์กับทายาทร้านทองชื่อดัง “โม นภัสนันท์ พสวงศ์” อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ทางฝั่งของบ๊วยได้ออกมาปฏิเสธเรื่องดังกล่าวแล้ว แต่ยอมรับว่ามีปัญหากับตุ๊กจริง แต่เป็นเรื่องของคนสองคน ไม่เกี่ยวมือที่สาม นับตั้งแต่มีข่าวออกมาทั้งบ๊วยและตุ๊กก็พยายามประคับประคองชีวิตคู่มาตลอด แต่สุดท้ายก็ไปกันไม่รอด ต้องหย่าขาดจากกันอย่างที่มีรายงานข่าวออกไปแล้วก่อนหน้านี้

แต่เป็นที่น่าแปลกใจที่การตัดสินใจครั้งใหญ่ในชีวิตครั้งนี้ ในวันที่ทั้งคู่เดินทางไปหย่ากัน สอบถามไปยังคุณแม่ของบ๊วย เจ้าตัวกลับปฏิเสธไม่ทราบเรื่อง ว่า ชีวิตครอบครัวของลูกชายและลูกสะใภ้ถึงจุดอวสานแล้ว ทั้งยังอ้างว่า 2 วัน ก่อนมีข่าวหย่าออกมา ทั้งคู่ยังอยู่ด้วยกัน กินข้าวหม้อเดียวกันอยู่เลย

นอกจากนี้ยังมีข่าวออกมาด้วยว่า ความจริงแล้ว หนุ่มบ๊วยได้ขอหย่าตั้งแต่ตุ๊กคลอด “น้องภูมิ” ลูกชายคนเล็กได้เพียง 20 วัน แต่เป็นเพราะทั้งคู่ยังตกลงกันไม่ได้ ทำให้เรื่องราวลากยาวยื้ดเยื้อมาเป็นปี ซึ่งสอดคล้องกับที่ “เก๋ ชลลดา” หลุดให้สัมภาษณ์ว่า ตอนนี้ตุ๊กเข้มแข็งได้ในระดับนึง เพราะได้เตรียมใจมาตั้งแต่น้องภูมิเกิดได้ 20 วันแล้ว!!

ซึ่งนับตั้งแต่ทั้งคู่หย่ากัน ทั้งตุ๊กและบ๊วยก็เก็บตัวเงียบ ทราบจากคนใกล้ชิดว่า ทั้งคู่ยังไม่พร้อมพูดถึงเรื่องนี้ ล่าสุด เป็นทางฝ่ายของบ๊วยที่ออกมาเปิดใจต่อสื่อมวลชนอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นการเปิดใจสดๆ ผ่านรายการคันปาก ทางช่อง7 โดยมี “อ้น ศรีพรรณ” และ “ไก่ สมพล” พิธีกรร่วมรายการเป็นคนสัมภาษณ์ ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลาที่ให้สัมภาษณ์ บ๊วยก็มีอาการเครียดอย่างเห็นได้ชัด

“ที่ผ่านมาผมทำงานตามปกติ ไม่ได้หนีนักข่าวแต่อย่างใด มันเป็นการเปลี่ยนแปลงชีวิต มีผลกระทบต่อผมมาก ถ้าปล่อยให้ช้าไป อาจะเกิดกระแสข่าวหนี ตอบตอนนี้สิ่งที่เสียใจมากที่สุดคือการดูแลลูก แล้วที่มีข่าวว่าเป็นลมต้องเข้าโรงพยาบาล จริงๆ ตุ๊กไม่ได้เป็นลม แค่ไปตรวจสุขภาพ แต่มีคนอื่นรับโทรศัพท์แทน แล้วสื่อสารกันผิดพลาด”

ปัดพูดถึงสาเหตุของการหย่า เพราะเลยจุดนั้นมาแล้ว แต่ยันไม่มีมือที่สาม

“ไม่อยากพูดถึงตรงนั้น เราเลยจุดนั้นมาแล้ว แต่ไม่มีเรื่องมือที่สามแน่นอน เป็นการตัดสินใจของเราสองคน เราไม่ได้โกรธกัน ความสัมพันธ์ยังเป็นพ่อแม่ของลูก ตอนนี้ผมอยู่บ้านแม่ ส่วนตุ๊กยังอยู่ที่บ้าน(เรือนหอ) เวลาจะเข้าบ้านเพื่อไปดูลูกผมจะโทร.บอกตุ๊กก่อนทุกครั้ง เนื่องจากเราไม่ได้เป็นสามี-ภรรยากันแล้ว การจะเข้าบ้านแต่ละครั้งเราก็ต้องบอกตุ๊กก่อน”

ไม่รับไม่ปฏิเสธ กรณีขอหย่า “ตุ๊ก” หลังคลอด “น้องภูมิ” ลูกคนเล็กได้ 20 วัน อ้างเป็นเรื่องของคนสองคน

“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเรารู้กันสองคน เรื่องนี้ไม่รู้ออกจากใคร มันเป็นเรื่องของคนสองคน ฉะนั้นไม่มีใครรู้ดีไปกว่าเราครับ”

มีข่าวว่า “บ๊วย” จะส่งเสียแค่ “น้องแพรว” ลูกสาวคนโต ส่วน “น้องภูมิ” จะให้ “ตุ๊ก” เป็นคนดูแล เพราะรักลูกคนโตมากกว่า?

“คนเป็นพ่อแม่รักลูกไม่เท่ากันอยู่แล้ว คนนึงอาจจะอ้อนเก่ง คือรักครับ แต่รักคนละแบบ ตอนนี้น้องภูมิก็เริ่มเล่นได้แล้ว เล่นให้เขาตีหัวเหม่งซิ มันเป็นเรื่องของความรู้สึก ไม่มีใครรู้ว่าผมคิดยังไง”

โอกาสคืนดีเป็นเรื่องของอนาคต

“เป็นเรื่องของอนาคต ตอนนี้เป็นการดูแลลูกให้ดีที่สุด ผมกับตุ๊กไม่ได้โกรธกัน ความสัมพันธ์ดีขึ้นเรื่อยๆ คุยกันได้ทุกอย่าง โดยเฉพาะเรื่องลูก เรื่องคืนดีเป็นเรื่องอนาคต แต่สิ่งนึงที่เลิกไม่ได้คือการเป็นพ่อแม่ตลอดชีวิต”

ส่วนที่มีหนังสือพิมพ์บันเทิงฉบับหนึ่งลงข่าว “บ๊วย” มีสาวคนใหม่ไปนั่งเฝ้าที่ร้านไก่ทอดเดชา ธุรกิจของเจ้าตัว บ๊วยชี้แจงว่า…

“ทุกวันนี้ทำอะไรผมก็เป็นข่าว น้องคนนี้ชื่อแก้วเป็นแฟนเก่าของน้องผม(ยกหนังสือพิมพ์ขึ้นแล้วอธิบาย) แต่ไม่มีอะไรครับ อย่าคิดว่าผมเกิดเรื่องแล้ว ผมยังมีความสุขได้ยังไง คือจะบอกว่าชีวิตไม่ได้มีแค่ขาวกับดำ แต่มันมีสีเทาด้วยนะครับ สิ่งที่เกิดขึ้นผมก็เสียใจ ตุ๊กก็เสียใจ”

“ยืนยันว่าไม่เกี่ยวมือที่สาม เป็นการตัดสินใจของผมกับตุ๊ก คนที่คิดว่าผมไม่ดีไม่เป็นไร แต่รับไม่ได้ที่ใครบอกว่าผมไม่รักลูก คือผมไม่ได้ฆ่าคนนะครับ (ร้องไห้) ขอร้องอย่าบอกว่าผมไม่รักลูก ขออนุญาตสัมภาษณ์เป็นครั้งสุดท้าย เพราะอยากให้กระทบลูกน้อยที่สุด”

ทั้งนี้หลังจากให้สัมภาษณ์ในรายการเสร็จ เจ้าตัวก็เดินออกจากสตูดิโอไปเลยโดยที่ไม่ได้ให้สัมภาษณ์ต่อ พร้อมหันมาพูดย้ำว่า ขอร้องอย่าบอกว่าผมไม่รักลูก