ประมวลผลวันดีเดย์ ล้านคน ราชดำเนิน
ประมวลผล วันดีเดย์ “ล้านคน” ม็อบราชดำเนินคึกคัก จัดทำบุญเอาฤกษ์เอาชัย แจกสติ๊กเกอร์นับหัว โต้รัฐบาลดูถูกพลังประชาชน ส่วนภาคใต้พบตะปูเรือใบปริศนาโปรย ถ.เพชรเกษม คาดสกัดม็อบ ในโซเชียลมีเดียแชร์คลิปแสดงความล้มเหลวในการบริหารส่อทุจริตของรัฐบาลว่อน ด้าน “บิ๊กแมว” หยันคนมาไม่ถึง 1 แสนคน แดงเตรียมสู้ระดมพลที่ราชมังฯ -นายกฯ “ปู” เก็บตัวเงียบ
24 พฤศจิกายน 2556 ครบกำหนดดีเดย์ 1 ล้านคน “ปฏิวัติประชาชน” ตามประกาศของ “สุเทพ เทือกสุบรรณ” อดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ (ปชป.) แกนนำเวทีราชดำเนิน ที่ต้องการขับไล่รัฐบาล “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” และโค่นล้มระบอบทักษิณให้สิ้นซากเบ็ดเสร็จภายในสิ้นเดือนนี้
โดยก่อนหน้านี้เพียง 1 วัน “สุเทพ” ได้คล้องแขนผนึกกำลังกับกลุ่มต่อต้านทักษิณกลุ่มอื่น ๆ อาทิ เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) กองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ (กปท.) และสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจ โดยร่วมกันจัดตั้งเป็น “เครือข่ายต้านระบอบทักษิณ” โดยมีจุดยืนเดียวกันคือปฏิรูปประเทศไทย ขับไล่ตระกูลชินวัตร
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ได้รวบรวมความเคลื่อนไหวในวันประกาศดีเดย์ไว้ดังนี้
เบื้องต้นในช่วงเช้าที่เวทีราชดำเนิน “เครือข่ายต้านระบอบทักษิณ” ได้ร่วมกันทำบุญตักบาตรพระสงฆ์จำนวน 109 รูป เพื่อเอาฤกษ์เอาชัยในการคว่ำระบอบทักษิณ โดยมีแกนนำเช่น “อภิสิทธิ์ – สุเทพ” เข้าร่วมทำบุญด้วย ก่อนที่ในช่วงเย็นจะขึ้นเวทีปราศรัย กำหนดทิศทางในการเคลื่อนไหวแบบ ‘ดาวกระจาย’ ใน 12 เส้นทางของกรุงเทพฯในวันพรุ่งนี้
“เอกนัฎ พร้อมพันธ์” โฆษกกลุ่มต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ระบุว่ามีการทำป้ายสติ๊กเกอร์แจกจ่ายให้ผู้ชุมนุมเพื่อนับยอดตัวเลข และโต้รัฐบาลว่ามีผู้ชุมนุมเยอะกว่าที่รัฐบาลสร้างกระแสข่าวมีคนมาร่วมชุมนุมน้อย โดยเบื้องต้นได้ทำสติ๊กเกอร์ไว้ 1 ล้านแผ่น และเมื่อประชาชนมาถึงก็ให้ลงทะเบียนและรับสติ๊กเกอร์ไป โดยขณะนี้มีคนมารับสติ๊กเกอร์แล้วกว่า 300,000 คน
ส่วนความเคลื่อนไหวในต่างจังหวัด “กลุ่มคนรักแม่สอด – กลุ่มประชาชนที่ต่อต้านรัฐบาล” นัดหมายรวมพลชุมนุมใหญ่ที่หน้าโรงเรียนสรรพวิทยาคม อ.แม่สอด จ.ตาก เพือต่อต้านและขับไล่รัฐบาล โดยจัดเวทีคู่ขนานกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่เวทีราชดำเนิน โดยนัดรวมพลตั้งแต่เวลา 17.00 น. และจะมีการประเมินสถานการณ์ทางการเมือง โดยจะสอดคล้องกับเวทีที่ราชดำเนินอีกด้วย
ขณะเดียวกันก็เกิดกระแสข่าวว่ารัฐบาลพยายามขัดขวางประชาขนไม่ให้เข้าร่วมชุมนุม โดยกลางดึกคืนวานนี้ (23/11/56) เกิดเหตุโกลาหลบนถนนเพชรเกษมขาเข้ากรุงเทพฯ ในพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เนื่องจากมีรถยนต์ร่วม 100 คัน ถูกตะปูเรือใบยางแตก แต่ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ
ทั้งนี้ “สุวิวัฒน์ พรหมมา” รองหัวหน้าหน่วยกู้ภัยตำรวจทางหลวงห้วยมงคล ต.ทับใต้ อ.หัวหิน ระบุว่า น่าจะเกิดจากการสร้างสถานการณ์เพื่อหวังผลทางการเมือง แต่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน ถือเป็นการกระทำที่ผิดพลาดและเลวร้าย จึงขอประณามการกระทำดังกล่าว
นอกจากนี้ยังตรวจสอบพบว่า มีการแชร์คลิปวีดีโอบนโซเชียลมีเดีย ชื่อคลิปว่า “วันที่ 24 พฤศจิกายน 2556 คุณอยู่ที่ไหน” โดยมีความยาว 1.50 นาที ทั้งนี้เนื้อหาในคลิปเป็นการบรรยายการเมืองไทยที่เกิดความเสียหายจากการบริหารราชการแผ่นดินของ “ยิ่งลักษณ์” เช่น ความเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าว การออก ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเหมาเข่ง เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม “พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร” เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ยืนยันว่า จากการประเมินตัวเลขผู้ชุมนุมเมื่อวานนี้ (23/11/56) มีประมาณ 20,000 คน แต่วันนี้น่าจะมีประชาชนมาเข้าร่วมชุมนุมเยอะกว่าเดิมแน่ โดยน่าจะมีประมาณ 70,000 คน และไม่คิดว่าน่าจะถึง 100,000 คน
ด้านกลุ่มคนเสื้อแดงก็ไม่ยอมแพ้ โดยวานนี้ (23/11/56) กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้จัดแถลงข่าวนัดปักหลักชุมนุมใหญ่อีกครั้งในวันที่ 24 พฤศจิกายน นี้ ที่สนามกีฬาราชมังคลากีฬาสถาน ในเวลา 18.00 น. ภายใต้ชื่อ “รัฐประหารโดยศาลรัฐธรรมนูญ” เพื่อคัดค้านคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญกรณีห้ามการแก้ไขร่างที่มาของ ส.ว.
โดยเบื้องต้นจะปักหลักชุมนุมอย่างไม่มีกำหนด เพื่อรอดูท่าทีของกลุ่มผู้ชุมนุมที่ราชดำเนิน โดยยืนยันว่าจะชุมนุมอย่างสงบ และไม่มีการนำมวลชนไปชนกับม็อบที่ราชดำเนินอย่างแน่นอน
ขณะที่ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยังคงเก็บตัวอยู่แต่ในบ้านพัก โดยไม่มีภารกิจใด ๆ เป็นพิเศษ ทั้งนี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจตรึงกำลังรักษาความปลอดภัยอย่างหนาแน่น และผลัดเวรกันอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกัน “เครือข่ายต้านระบอบทักษิณ” เข้ามายุ่มย่าม
ที่น่าสนใจคือ ก่อนหน้านี้ “สุเทพ” ให้คำปฏิญาณไว้ว่า “ถ้าไม่ชนะผมจะไม่กลับไปเหยียบในสภา ถ้าล้มรัฐบาลไม่ได้ผมจะผูกคอตาย”
ศึกครั้งนี้รัฐบาล “ยิ่งลักษณ์” จะถูกโค่น หรือ “สุเทพ” จะต้องเดินหา ‘ขื่อ’ ที่ตนสร้างเอาไว้เพื่อเตรียมผูก ‘เชือก’ ในเร็วๆ นี้คงได้รู้กัน!